บทย่อ
เธอ : เกลียด เขา : รัก สองความสัมพันธ์ตรงกันข้ามต้องมาเจอกัน เขาทำทุกอย่างให้ได้เธอ เธอทำทุกอย่างให้หลุดจากเขา ลลินทิพย์ อินนุภาพงศ์ ชื่อเล่น โซยู อายุ27ปี รองประธานกรรมการบริษัท อาร์.วี.เค จำกัด ผู้นำเข้ารถยุโรป1เดียวในประเทศ เซเล็บสาวสวยชื่อดัง ทุกอย่างในชีวิตของเธอดูสวยหรูและเพียบพร้อม แต่เมื่อวันหนึ่งน้องสาวที่เธอรักมากที่สุดยิ่งกว่าชีวิตต้องมาฆ่าตัวตาย เพราะผู้ชายสาระเลวคนนั้น ที่มันไม่ยอมรับลูกในท้องของน้องสาวเธอ ความแค้นทุกอย่างที่อยู่ในใจรอวันแก้แค้นและเอาคืน และเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งเธอเข้าไปอีกเมื่อพี่ชายที่ติดการพนันได้นำหุ้นบริษัทเกินครึ่งไปเสนอขายเพื่อแรกกับการใช้หนี้และหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว ให้กับคนคนนั้น คนที่เธอเกลียด ภาคิน พงค์สานุกรณ์ ชื่อเล่น คิน อายุ 28 ปี ประธานกรรมการสูงสุดบริษัท เจ.ที กรุ๊ปมหาชนจำกัด ผู้ส่งออกอาหารแช่แข็งรายใหญ่และ1เดียวในประเทศ และยังเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของคาสิโนในอีกหลายๆประเทศทั่วโลก เขาโดนเข้าใจผิดว่าเป็นคนทำให้น้องสาวเธอต้องฆ่าตัวตาย แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเลยสักนิด แต่เพราะดันไปสนใจในความหยิ่งยโส ความปากร้ายไม่ยอมใครของเธอ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ดื้อรันเท่าเธอมาก่อน ทุกคนยอมสยบต่อเขาทำให้เขายังไม่ยอมบอกความจริงใดๆกับเธอ เพื่อที่จะได้เข้าใกล้เธอให้มากที่สุด แต่เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเพราะพี่ชายของเธอดันไปติดการพนันไว้ซะเป็นหนี้ใหญ่โตและมาเสนอหุ้นให้กับเขามีหรือที่เขาจะปล่อยผ่าน เรื่องหุ้นเขาแทบจะไม่ได้สนใจมันเลย แต่เพราะตัวเธอเขาจึงยอมเสียเงินมหาศาลนั้นเพื่อให้ได้ตัวเธอมาสยบอยู่ใต้ร่างของเขา
บทที่ 1 : เรื่องร้าย
ร่างบางในชุดกระโปรงสีขาวยาวพอดีเข่า สายฝนที่โปรยลงมาอย่างบ้าคลั่งไม่ได้ทำให้ใจที่ร้อนรุ่มของเธอเบาบางลงได้เลย ความแค้นที่สุมอยู่ในใจรอวันระเบิดออกมา
โซยูเดินมุ่งหน้าไปยังสุสานเก็บศพของพ่อแม่และน้องสาวอันเป็นที่รักของเธอ พ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในตอนที่เธออายุได้เพียง 17 ปี ทิ้งให้เธออยู่กับพี่ชายและน้องสาวเพียงลำพัง แต่โชคยังดีที่มีคุณป้าและคุณลุงคอยดูแลพวกเขาทั้ง 3 คน และคอยบริหารงานบริษัทของพ่อเพื่อรอวันเวลาที่เธอและพี่ชายจะเรียนจบ
เธอคิดไว้ว่าสักวันหนึ่งชีวิตที่เหลือกันแค่เธอ 3 คนพี่น้องจะมีความสุข ได้อยู่ด้วยกันแม้จะเหลือกันแค่ 3 คน แต่ทุกอย่างก็ต้องมาจบลงเมื่อปีที่ผ่านมา น้องสาวที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตต้องมาตายเพียงเพราะผู้ชายเลวคนหนึ่งทำเธอท้องแล้วไม่ยอมรับ ผู้ชายคนนั้น ภาคิน พงศ์สานุกรณ์ ฉันจดจำชื่อนั้นได้ดี
ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโกศใส่อัฐิทั้ง 3 อันที่เรียงอยู่ข้างกัน เธอก้มลงวางช่อดอกไม้ลงอย่างเบามือ มือบางกวาดปัดเศษใบไม้ออกจากรอบโกศทั้งสาม
“พ่อคะ แม่คะ...ยูโร... อยู่ทางนั้นให้มีความสุขนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงโซยูกับพี่ เรื่องทางนี้เรา 2 คนจะจัดการให้เอง...” ฉันพูดพร้อมกับพยายามกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมาอย่างยากลำบาก ความคิดถึงมันพรั่งพรูออกมา ตอนนี้ทำได้แค่ต้องเข้มแข็งเท่านั้น
“ยูโร...ไม่ต้องกังวลเรื่องไอ้ผู้ชายคนนั้นนะ พี่จะจัดการให้เธอเอง พี่จะให้เขาเจ็บเจียนตาย ให้ทรมานยิ่งกว่าเธอ...” ความแค้นในใจของฉันไม่มีหมดไปง่ายแน่ ๆ ฉันจะต้องทำให้นายเจ็บยิ่งกว่าน้องฉัน!
ฉันได้แต่ยืนมองรูปพ่อแม่และน้องสาวอย่างเงียบ ๆ ชีวิตภายนอกที่ดูเพียบพร้อม แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าฉันโหยหาคำว่าครอบครัวมากแค่ไหน ฉันแค่อยากหัวเราะไปพร้อม ๆ กันกับพ่อ แม่ พี่ และก็น้องสาวเพียงเท่านั้น ฉันขอเพียงเท่านั้นจริง ๆ น้ำตาค่อย ๆ ไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่ มีเพียงแค่เสียงร้องไห้ของฉันที่ดังไปทั่วบริเวณนั้น ความเข้มแข็งที่แสดงออกมามันก็แค่ฉากบังหน้าเท่านั้น
ณ บริษัท อาร์.วี.เค จำกัด (บริษัทของโซยู)
หลังกลับจากการไปเยี่ยมครอบครัวที่สุสาน ฉันก็ต้องรีบกลับเข้าบริษัททันที ไหนจะงานต่าง ๆ ที่ท่วมหัว แต่ทำตัวเหมือนว่าง ตอนเย็นต้องไปงานวันเกิดอีก เฮ้อ! ขยันเกิดกันจริงนะ
“พี่มุกคะ เข้ามาหาโซหน่อยค่ะ” ฉันยกหูโทรศัพท์เรียกเลขาส่วนตัวอย่างเร่งรีบ
ไม่รีบไม่ได้แล้ว อะไรก็ยังไม่ได้ทำสักอย่าง พี่ชายสุดจะห่วยแตกก็หายหัวทั้งที่ตัวเองเป็นประธานบริษัท แต่ไม่เคยได้เห็นหน้ามาเป็นอาทิตย์
“คุณโซมีอะไรหรือเปล่าคะ” เลขาของฉันรีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน แทบจะกลิ้งเข้ามาเลยก็ว่าได้
“พี่ไม่เข้าบริษัทมากี่วันแล้ว”
“น่าจะประมาณ...เกือบ ๆ 2 อาทิตย์ได้แล้วมั้งคะ” อยากจะบ้าตาย
“ช่วยติดต่อให้ด่วนเลยค่ะ วันนี้ต้องไปงานวันเกิดคุณพิมพาด้วย งานใหญ่ด้วย ไม่เจอตัวโซจะจัดการพี่นะคะ” ไม่ไปก็ไม่ได้ คู่ค้าคนสำคัญเลยนะนั่น
“จัดการให้ค่ะ” พี่มุกรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานอย่างเร่งด่วน
เฮ้อ! ขอถอนหายใจอีกสักรอบ ฉันนั่งลงอย่างเหนื่อยล้า สายตาดันไปสะดุดเข้ากับซองสีน้ำตาลอยู่บนโต๊ะทำงาน ไม่มีการจ่าหน้าซองใด ๆ ฉันเอื้อมมือไปหยิบมาแกะดู ด้านในเป็นเอกสารจำนวนมาก หัวเอกสารระบุถึงพี่ชายของฉันเอง ไปสร้างเรื่องอะไรไว้อีกล่ะเนี่ย
'ถึง...นาย อภิวัฒน์ อินนุภาพงศ์
เรื่องการเสนอขายหุ้นของบริษัท อาร์.วี.เค จำกัด จำนวน 60% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อเป็นการปลดหนี้ที่ทางคุณติดไว้กับกาสิโนของเราเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2 พันล้านบาท หนี้ที่ทางคุณได้ทำสัญญาไว้เป็นเวลา 1 ปี แต่ทางคุณยังไม่สามารถหาเงินมาชำระให้ทางเราได้ และได้มีการขอกู้ยืมมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทั้งนี้ทางคุณได้มีการเสนอขอขายหุ้นบริษัทอาร์.วี.เค จำกัด และทางเรายินดีรับข้อเสนอของคุณ หักจากหนี้ที่คุณติดอยู่กับทางเราแล้วเหลือเป็นเงินจำนวน 600 ล้านบาท ทางเราจะทำการโอนส่วนต่างเข้าบัญชีตามที่คุณได้แจ้งไว้ก็ต่อเมื่อ คุณอภิวัฒน์ อินนุภาพงศ์ และคุณลลินทิพย์ อินนุภาพงศ์ได้เซ็นเอกสารการโอนหุ้นในวันและเวลาที่ทางเราได้แจ้งเอาไว้ ทางเราจะนำเอกสารไปให้คุณเซ็นที่บริษัทอาร์.วี.เค จำกัด
ลงชื่อ นายภาคิน พงศ์สานุกรณ์'
“เรื่องบ้าอะไรกัน” ภาคินคนที่ทำให้น้องฉันต้องฆ่าตัวตาย และนี่ยังจะมาซื้อหุ้นในบริษัทของฉันอีก จะทำลายความสุขของฉันไปถึงไหน แล้วพี่ฉันทำไมถึงไปติดหนี้ที่กาสิโนนั้นได้ อย่าบอกนะที่แอบหายตัวไปบ่อย ๆ เพราะไปเข้ากาสิโนนี่เหรอ
ฉันไม่มีทางยอมเซ็นเด็ดขาด อยากได้เงินก็ไปตามเอาที่พี่ชายฉันเถอะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยเจอกับเขานะ ฉันเคยไปอาละวาดที่บ้านของเขาเมื่อตอนที่น้องฉันตาย เป็นข่าวใหญ่โตอยู่พักหนึ่งเลย ฉันไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่เอาพวงหรีดเป็นสิบพวงไปเผาหน้าบ้านเขาก็แค่นั้นเอง ถึงจะใหญ่โตมากมาย แต่คนอย่างฉันก็ไม่คิดจะกลัวหรอก มือเล็กหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงานอย่างเร่งรีบ เพื่อที่จะไปตามหาตัวพี่ชายเอง แต่ดันไปสบตากับผู้ชายที่เดินตรงมาทางฉันเข้าเสียก่อน ตายยากตายเย็นจริงนะ หมอนั่นเดินเหยียดยิ้มมุมปากตรงมาทางฉัน นี่ยังไม่ถึงวันเซ็นสัญญาเลยนะจะรีบโผล่มาทำไม
“เอ่อ...คุณคะ ไม่ทราบว่ามาพบใครเหรอคะ” พี่มุกรีบวิ่งเข้าไปดักหน้าหมอนั่นไว้ เขาไม่ได้สนใจในคำถามของพี่มุกเลยสักนิด ภาคินเดินผ่านพี่มุก และมุ่งตรงมาทางฉัน
“คุณคะ คุณ! คุณยังได้บอกฉันเลยนะคะว่ามาพบใคร!” พี่มุกพูดพร้อมรีบวิ่งมากางแขนออกเพื่อไม่ให้เขาเดินเข้าหาฉันได้มากกว่านี้ เขาหยุดมองหน้าพี่มุกและเงยหน้าจ้องตาฉัน สายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้นั่นฉันเกลียดที่จะเห็นมันที่สุด
“คุณมาพบใครคะ กรุณาตอบคำถามฉันด้วยค่ะ” พี่มุกถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ และสายตาของพนักงานรอบข้างที่ต่างอยากรู้อยากเห็น เพราะทุกคนต่างรู้ว่าเขาคือใคร แต่มาทำอะไรที่นี่นั่นแหละคือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด
“มาพบคุณลลินทิพย์ครับ” ในที่สุดเขาก็ยอมตอบคำถามของพี่มุกสักที แต่มาพบฉันเรื่องอะไรมิทราบ
“นัดไว้หรือเปล่าคะ” พี่มุกถามไปตามหน้าที่ทั้ง ๆ ที่ก็รู้กันอยู่แล้วว่าคนอย่างภาคินไม่จำเป็นต้องนัดกับใคร แต่ฉันจะเป็นคนตอบให้
“ไม่ได้นัด” ฉันพูดพร้อมกับก้าวเดินไปอีกทางหนึ่ง หน้าก็ไม่อยากจะมอง
“พี่คุณอยู่กับผม” น้ำเสียงเย็นของเขาทำให้ต้องหยุดเดินแล้วหันกลับมา
“จะทำอะไร”
“คุยกันตรงนี้คงไม่ดี เข้าไปข้างในไหม” พูดจบเขาก็เดินตรงเข้าไปในห้องทำงานฉันอย่างถือวิสาสะ
“คุณโซ” เลขาของฉันตรงเข้ามาจับแขนไว้แน่น
“โซจัดการได้ค่ะ” พูดจบฉันก็เดินตามหลังไปทันที จะมาไม้ไหนอีก วนเวียนอยู่รอบตัวฉันไม่จบไม่สิ้นสักที