บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 : เรื่องร้าย

ร่างบางในชุดกระโปรงสีขาวยาวพอดีเข่า สายฝนที่โปรยลงมาอย่างบ้าคลั่งไม่ได้ทำให้ใจที่ร้อนรุ่มของเธอเบาบางลงได้เลย ความแค้นที่สุมอยู่ในใจรอวันระเบิดออกมา

โซยูเดินมุ่งหน้าไปยังสุสานเก็บศพของพ่อแม่และน้องสาวอันเป็นที่รักของเธอ พ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในตอนที่เธออายุได้เพียง 17 ปี ทิ้งให้เธออยู่กับพี่ชายและน้องสาวเพียงลำพัง แต่โชคยังดีที่มีคุณป้าและคุณลุงคอยดูแลพวกเขาทั้ง 3 คน และคอยบริหารงานบริษัทของพ่อเพื่อรอวันเวลาที่เธอและพี่ชายจะเรียนจบ

เธอคิดไว้ว่าสักวันหนึ่งชีวิตที่เหลือกันแค่เธอ 3 คนพี่น้องจะมีความสุข ได้อยู่ด้วยกันแม้จะเหลือกันแค่ 3 คน แต่ทุกอย่างก็ต้องมาจบลงเมื่อปีที่ผ่านมา น้องสาวที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตต้องมาตายเพียงเพราะผู้ชายเลวคนหนึ่งทำเธอท้องแล้วไม่ยอมรับ ผู้ชายคนนั้น ภาคิน พงศ์สานุกรณ์ ฉันจดจำชื่อนั้นได้ดี

ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโกศใส่อัฐิทั้ง 3 อันที่เรียงอยู่ข้างกัน เธอก้มลงวางช่อดอกไม้ลงอย่างเบามือ มือบางกวาดปัดเศษใบไม้ออกจากรอบโกศทั้งสาม

“พ่อคะ แม่คะ...ยูโร... อยู่ทางนั้นให้มีความสุขนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงโซยูกับพี่ เรื่องทางนี้เรา 2 คนจะจัดการให้เอง...” ฉันพูดพร้อมกับพยายามกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมาอย่างยากลำบาก ความคิดถึงมันพรั่งพรูออกมา ตอนนี้ทำได้แค่ต้องเข้มแข็งเท่านั้น

“ยูโร...ไม่ต้องกังวลเรื่องไอ้ผู้ชายคนนั้นนะ พี่จะจัดการให้เธอเอง พี่จะให้เขาเจ็บเจียนตาย ให้ทรมานยิ่งกว่าเธอ...” ความแค้นในใจของฉันไม่มีหมดไปง่ายแน่ ๆ ฉันจะต้องทำให้นายเจ็บยิ่งกว่าน้องฉัน!

ฉันได้แต่ยืนมองรูปพ่อแม่และน้องสาวอย่างเงียบ ๆ ชีวิตภายนอกที่ดูเพียบพร้อม แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าฉันโหยหาคำว่าครอบครัวมากแค่ไหน ฉันแค่อยากหัวเราะไปพร้อม ๆ กันกับพ่อ แม่ พี่ และก็น้องสาวเพียงเท่านั้น ฉันขอเพียงเท่านั้นจริง ๆ น้ำตาค่อย ๆ ไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่ มีเพียงแค่เสียงร้องไห้ของฉันที่ดังไปทั่วบริเวณนั้น ความเข้มแข็งที่แสดงออกมามันก็แค่ฉากบังหน้าเท่านั้น

ณ บริษัท อาร์.วี.เค จำกัด (บริษัทของโซยู)

หลังกลับจากการไปเยี่ยมครอบครัวที่สุสาน ฉันก็ต้องรีบกลับเข้าบริษัททันที ไหนจะงานต่าง ๆ ที่ท่วมหัว แต่ทำตัวเหมือนว่าง ตอนเย็นต้องไปงานวันเกิดอีก เฮ้อ! ขยันเกิดกันจริงนะ

“พี่มุกคะ เข้ามาหาโซหน่อยค่ะ” ฉันยกหูโทรศัพท์เรียกเลขาส่วนตัวอย่างเร่งรีบ

ไม่รีบไม่ได้แล้ว อะไรก็ยังไม่ได้ทำสักอย่าง พี่ชายสุดจะห่วยแตกก็หายหัวทั้งที่ตัวเองเป็นประธานบริษัท แต่ไม่เคยได้เห็นหน้ามาเป็นอาทิตย์

“คุณโซมีอะไรหรือเปล่าคะ” เลขาของฉันรีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน แทบจะกลิ้งเข้ามาเลยก็ว่าได้

“พี่ไม่เข้าบริษัทมากี่วันแล้ว”

“น่าจะประมาณ...เกือบ ๆ 2 อาทิตย์ได้แล้วมั้งคะ” อยากจะบ้าตาย

“ช่วยติดต่อให้ด่วนเลยค่ะ วันนี้ต้องไปงานวันเกิดคุณพิมพาด้วย งานใหญ่ด้วย ไม่เจอตัวโซจะจัดการพี่นะคะ” ไม่ไปก็ไม่ได้ คู่ค้าคนสำคัญเลยนะนั่น

“จัดการให้ค่ะ” พี่มุกรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานอย่างเร่งด่วน

เฮ้อ! ขอถอนหายใจอีกสักรอบ ฉันนั่งลงอย่างเหนื่อยล้า สายตาดันไปสะดุดเข้ากับซองสีน้ำตาลอยู่บนโต๊ะทำงาน ไม่มีการจ่าหน้าซองใด ๆ ฉันเอื้อมมือไปหยิบมาแกะดู ด้านในเป็นเอกสารจำนวนมาก หัวเอกสารระบุถึงพี่ชายของฉันเอง ไปสร้างเรื่องอะไรไว้อีกล่ะเนี่ย

'ถึง...นาย อภิวัฒน์ อินนุภาพงศ์

เรื่องการเสนอขายหุ้นของบริษัท อาร์.วี.เค จำกัด จำนวน 60% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อเป็นการปลดหนี้ที่ทางคุณติดไว้กับกาสิโนของเราเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2 พันล้านบาท หนี้ที่ทางคุณได้ทำสัญญาไว้เป็นเวลา 1 ปี แต่ทางคุณยังไม่สามารถหาเงินมาชำระให้ทางเราได้ และได้มีการขอกู้ยืมมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทั้งนี้ทางคุณได้มีการเสนอขอขายหุ้นบริษัทอาร์.วี.เค จำกัด และทางเรายินดีรับข้อเสนอของคุณ หักจากหนี้ที่คุณติดอยู่กับทางเราแล้วเหลือเป็นเงินจำนวน 600 ล้านบาท ทางเราจะทำการโอนส่วนต่างเข้าบัญชีตามที่คุณได้แจ้งไว้ก็ต่อเมื่อ คุณอภิวัฒน์ อินนุภาพงศ์ และคุณลลินทิพย์ อินนุภาพงศ์ได้เซ็นเอกสารการโอนหุ้นในวันและเวลาที่ทางเราได้แจ้งเอาไว้ ทางเราจะนำเอกสารไปให้คุณเซ็นที่บริษัทอาร์.วี.เค จำกัด

ลงชื่อ นายภาคิน พงศ์สานุกรณ์'



“เรื่องบ้าอะไรกัน” ภาคินคนที่ทำให้น้องฉันต้องฆ่าตัวตาย และนี่ยังจะมาซื้อหุ้นในบริษัทของฉันอีก จะทำลายความสุขของฉันไปถึงไหน แล้วพี่ฉันทำไมถึงไปติดหนี้ที่กาสิโนนั้นได้ อย่าบอกนะที่แอบหายตัวไปบ่อย ๆ เพราะไปเข้ากาสิโนนี่เหรอ

ฉันไม่มีทางยอมเซ็นเด็ดขาด อยากได้เงินก็ไปตามเอาที่พี่ชายฉันเถอะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยเจอกับเขานะ ฉันเคยไปอาละวาดที่บ้านของเขาเมื่อตอนที่น้องฉันตาย เป็นข่าวใหญ่โตอยู่พักหนึ่งเลย ฉันไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่เอาพวงหรีดเป็นสิบพวงไปเผาหน้าบ้านเขาก็แค่นั้นเอง ถึงจะใหญ่โตมากมาย แต่คนอย่างฉันก็ไม่คิดจะกลัวหรอก มือเล็กหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงานอย่างเร่งรีบ เพื่อที่จะไปตามหาตัวพี่ชายเอง แต่ดันไปสบตากับผู้ชายที่เดินตรงมาทางฉันเข้าเสียก่อน ตายยากตายเย็นจริงนะ หมอนั่นเดินเหยียดยิ้มมุมปากตรงมาทางฉัน นี่ยังไม่ถึงวันเซ็นสัญญาเลยนะจะรีบโผล่มาทำไม

“เอ่อ...คุณคะ ไม่ทราบว่ามาพบใครเหรอคะ” พี่มุกรีบวิ่งเข้าไปดักหน้าหมอนั่นไว้ เขาไม่ได้สนใจในคำถามของพี่มุกเลยสักนิด ภาคินเดินผ่านพี่มุก และมุ่งตรงมาทางฉัน

“คุณคะ คุณ! คุณยังได้บอกฉันเลยนะคะว่ามาพบใคร!” พี่มุกพูดพร้อมรีบวิ่งมากางแขนออกเพื่อไม่ให้เขาเดินเข้าหาฉันได้มากกว่านี้ เขาหยุดมองหน้าพี่มุกและเงยหน้าจ้องตาฉัน สายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้นั่นฉันเกลียดที่จะเห็นมันที่สุด

“คุณมาพบใครคะ กรุณาตอบคำถามฉันด้วยค่ะ” พี่มุกถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ และสายตาของพนักงานรอบข้างที่ต่างอยากรู้อยากเห็น เพราะทุกคนต่างรู้ว่าเขาคือใคร แต่มาทำอะไรที่นี่นั่นแหละคือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด

“มาพบคุณลลินทิพย์ครับ” ในที่สุดเขาก็ยอมตอบคำถามของพี่มุกสักที แต่มาพบฉันเรื่องอะไรมิทราบ

“นัดไว้หรือเปล่าคะ” พี่มุกถามไปตามหน้าที่ทั้ง ๆ ที่ก็รู้กันอยู่แล้วว่าคนอย่างภาคินไม่จำเป็นต้องนัดกับใคร แต่ฉันจะเป็นคนตอบให้

“ไม่ได้นัด” ฉันพูดพร้อมกับก้าวเดินไปอีกทางหนึ่ง หน้าก็ไม่อยากจะมอง

“พี่คุณอยู่กับผม” น้ำเสียงเย็นของเขาทำให้ต้องหยุดเดินแล้วหันกลับมา

“จะทำอะไร”

“คุยกันตรงนี้คงไม่ดี เข้าไปข้างในไหม” พูดจบเขาก็เดินตรงเข้าไปในห้องทำงานฉันอย่างถือวิสาสะ

“คุณโซ” เลขาของฉันตรงเข้ามาจับแขนไว้แน่น

“โซจัดการได้ค่ะ” พูดจบฉันก็เดินตามหลังไปทันที จะมาไม้ไหนอีก วนเวียนอยู่รอบตัวฉันไม่จบไม่สิ้นสักที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel