ตอนที่ 3
เป็นเสียงของแม่บ้านที่ดูแลมารดาของชลวัฒน์อยู่ที่อีกบ้านในกรุงเทพฯ โทรมาบอกว่าตอนนี้คุณนาย ‘เจิดจันทร์’ มารดาของเขาเข้าแอดมิทในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
“คุณย่าเป็นอะไรคะคุณพ่อ”
ปัทมาถามบิดาด้วยความเป็นห่วง
“ก็อาการเดิมนั่นแหละ หน้ามืดเพราะเบาหวาน น้ำตาลลดต่ำมาก”
ชลวัฒน์กล่าวหลังจากกดตัดสาย
“พรุ่งนี้พ่อจะไปเยี่ยมคุณย่า”
ชลวัฒน์เป็นห่วงมารดา ทั้งที่ก็รู้ว่าคงจะไม่เป็นอะไรมาก เหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยเกิดขึ้น
“งั้นปัทม์ไปด้วยนะคะ… นานแล้วค่ะที่ไม่ได้ไปหาคุณย่า”
“แล้วหนูยาร์ล่ะ… เพิ่งมาถึงยังไม่ทันได้เที่ยวเลย”
ชลวัฒน์หันไปมองลูกสาวเพื่อน ไม่ทันที่ดลยาร์จะกล่าวอะไร ยักษ์ก็รีบเอ่ยขึ้นทันควัน
“น้องยาร์ก็รออยู่ที่นี่ก็ได้นี่ครับ… เดี๋ยวผมดูแลให้เอง เพราะว่าพ่อกับยัยปัทม์ก็ไม่ได้ไปนานนี่ครับแค่คืนเดียวเอง… ใช่ป่ะ”
“ใช่… แค่คืนเดียวก็กลับมาแล้ว”
ชลวัฒน์เห็นด้วยกับความคิดของลูกชาย
“งั้นให้พี่ยักษ์พาเที่ยวนะยัยยาร์… แค่คืนเดียวฉันก็กลับมาแล้ว… อยู่ต่อนะเพื่อน”
ปัทมาคะยั้นคะยอ และดูเหมือนว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับความคิดนี้
“งั้นก็ได้จ้ะ”
หญิงสาวพยักหน้ารับ และคนที่ยิ้มจนหน้าบานเป็นจานเชิงก็คือพี่ยักษ์
วันรุ่งขึ้น
ตอนเย็น เสร็จจากดูแลงานในฟาร์ม ยักษ์รีบขับรถกลับเข้ามาที่บ้าน ด้วยเย็นนี้มีแผนจะพาดลยาร์ไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวบนเนินเขาท้ายไร่ที่เขาเกริ่นเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
ในเวลาต่อมา
ใช้เวลาไม่นาน รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อสีส้มคันใหญ่ที่ยักษ์เป็นคนขับก็วิ่งมาถึงจุดชมวิว
“ว้าว… สวยมากค่ะพี่ยักษ์”
เมื่อเปิดประตูออกมาจากรถ ดลยาร์จ้องมองผืนฟ้าสีส้มอมแดงด้วยความตื่นตาตื่นใจ พระอาทิตย์สีแดงกลมโต กำลังลอยต่ำลงเกือบแตะสันเขา นกปากห่างฝูงใหญ่ชักแทวบินตามกันอยู่บนโค้งขอบฟ้า มองไวๆ เหมือนเส้นสีดำพาดผ่านกลุ่มเมฆสีแดง รอบๆ เนินเขาเล็กๆ ของจุดชมวิวโอบล้อมไปด้วยทุ่งดอกไม้และป่าเขียวขจี
“น้องยาร์จ๋า… มานั่งทางนี้ดีกว่า”
ยักษ์เอาเสื่อที่ใส่ไว้หลังรถกระบะออกมาคลี่ปูลงบนเนินดิน
“ให้ยาร์ช่วยนะคะ”
หญิงสาวขยับเข้ามาช่วยดึงเสื่อคนละด้าน คลี่ออกจากม้วน จากนั้นยักษ์ก็เดินกลับไปเอากระติกน้ำแข็งที่ข้างในแช่เบียร์เย็นฉ่ำไว้หลายกระป๋อง
“พี่ยักษ์เตรียมเบียร์มาด้วยหรือคะ... ”
หญิงสาวตกใจเมื่อยักษ์เดินกลับไปที่รถกระบะแล้วกลับมาพร้อมกับเบียร์ อีกมือหิ้วถุงพลาสติก มองไวๆ คล้ายมีกล่องสีขาวอยู่ข้างใน ที่น่าตกใจกว่าเบียร์ก็คือหมอนสองใบที่หนีบอยู่ใต้วงแขน
“จ้ะ… ดื่มด้วยกันนะครับ”
“ค่ะ… เอ่อ… มีหมอนมาด้วยหรือคะ”
“ใช่… พี่เตรียมหมอนมาด้วย เผื่อว่าน้องยาร์อยากนอนดูดาว… ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยนะครับ ที่นี่เป็นอาณาเขตของฟาร์มเรา ไม่มีใครกล้าเข้ามา ทั้งประตูหน้าและประตูหลังของฟาร์มมีป้อมยามอยู่ทั้งสองด้าน”
เจ้าของฟาร์มการันตีความปลอดภัยของพื้นที่แห่งนี้
“ดีจังค่ะ… ฟาร์มของพี่ยักษ์กว้างขวางมากเลยค่ะ”
“ใช่ครับ… ฟาร์มนี้เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นทวดของพี่ พอเรียนจบพี่ก็มาช่วยพ่อดูแลฟาร์ม น้องยาร์จ๋า… มาตรงนี้เถอะ”
หนุ่มสาวพากันมานั่งลงบนเสื่อ ยักษ์เอากล่องกระดาษสีขาวออกมาจากถุงพลาสติก มันคือของที่เขาแอบสั่งมาเซอร์ไพรส์ดลยาร์
“นี่อะไรคะพี่ยักษ์… ”
ลดยาร์จ้องมองกล่องสีขาวด้วยความสงสัย กระทั่งเขาเปิดฝาออก หล่อนจึงเห็นว่ามันคือเค้กรูปทรงหัวใจสีชมพูหวาน ตรงกลางมีครีมรูปทรงดอกกุหลาบสีแดงสลับชมพู มีตัวอักษรสีขาวโรยเอาไว้บนพื้นสีเหลืองอ่อน อ่านข้อความได้ว่า ‘สุขสันต์วันเกิดน้องยาร์… รักนะ… จากพี่ยักษ์’
“โอ้ว… พี่ยักษ์รู้ได้ยังไงคะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของยาร์”
เจ้าของวันเกิดตกใจมาก ด้วยหล่อนเองก็ยังลืมว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตัวเอง
“อะไรที่พี่สนใจ… พี่จะใส่ใจเสมอ”
ยักษ์ตอบยิ้มๆ ออร่าความเจ้าชู้แผ่ออกมาจนเห็นได้ชัด
อันที่จริงเป็นเพราะว่าปัทมาผู้เป็นน้องสาวของเขานั่นเอง ที่แอบกระซิบบอกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้เป็นวันเกิดของดลยาร์เพื่อนหล่อน แต่ตัวเองอยู่ไกล จึงฝากพี่ชายให้จัดเค้กวันเกิดให้เพื่อนสาว
“สุขสันต์วันเกิดนะครับน้องยาร์”
ยักษ์กล่าวเสียงหวานพร้อมกับเอาเทียนสีชมพูออกมาปักลงกลางเค้กเพียงแท่งเดียว จุดด้วยไฟแช็กแล้วหันมาหาหญิงสาว
“มีเทียนแค่แท่งเดียวหรือคะ”
ดลยาร์ถามด้วยความสงสัย