บทที่ 8 สักวัน…เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขา!! 2
“ใช่ คุณกลับไปได้แล้วล่ะ ฉันเบื่อหน้าคุณ” พูดพลางสะบัดมือไล่อย่างไม่ไยดี ทำเอาเลือดหนุ่มทรนงแล่นปรี๊ดไปทั่วร่าง
“ว่าไงนะ นี่คุณกล้าไล่ผมงั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิคะ เกิดมาไม่เคยโดนไล่เหรอไง ออกไปจากบริเวณหน้าบ้านของฉันได้แล้ว ฉันจะกวาดเศษใบไม้ คุณยืนแบบนี้มันเกะกะนะ”
“หาผมว่าเกะกะ…!!” ดูเหมือนว่าศิวาจะช็อกไปซะแล้วกับคำกล่าวหานี้ และนาวิกาก็หัวเราะคิกอย่างพอใจเสียด้วยสิ
“ใช่ คุณน่ะเกะกะมากกกกก กลับไปได้แล้ว ไปๆ” เธอผลักเขาอย่างแรง แต่ร่างสูงไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนเลยสักนิด กรามแข็งถูกบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน ตาคู่คมวาวโรจน์อย่างไม่พอใจ
“ตั้งแต่ผมเกิดมา ไม่เคยมีใครกล้าว่า กล้าไล่ผมเหมือนคุณเลยสักคน”
“คนอื่นเขาไม่กล้าด่าคุณตรงๆต่อหน้าน่ะสิ แต่เผอิญว่าฉันกล้า”
“นาวิกา!!”
“ทำไม ทำเสียงเข้มทำไม ถ้าคุณไม่กลับ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจว่าคุณบุกรุกบ้านของฉัน” เธอขู่ แต่แทนที่เขาจะกลัว เขากลับมีสีหน้ายิ้มกริ่มขึ้นมาทันที แถมยังกวาดตามองเธอขึ้นลงตลอดร่างอย่างมีเลศนัยอีกด้วย
“ไหนๆก็จะโดนข้อหาบุกรุกบ้านแล้ว เพิ่มข้อหาข่มขืนเข้าไปอีกสักกระทงคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกริ่มๆ เล่นเอาคนที่โดนมองชักจะร้อนรน
“ข่มขืน? ข่มขืนอะไร”
“ข่มขืนคุณ”
“อะไรนะ อีตาบ้า ไอ้ทุเรศๆๆๆ” หญิงสาวหันไปคว้าไม้กวาดทางมะพร้าวที่วางอยู่ใต้ต้นตะขบขึ้นมาแล้วฟาดหลังเขาเต็มแรง
“โอ๊ย! นี่คุณ” ชายหนุ่มอุทาน หน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บ
“ถ้าเจ็บก็กลับไปซี่ หรือว่าอยากจะโดนอีก ห๊ะ” เธอขู่พร้อมเงื้อไม้กวาดขึ้นสูงอีก
“เออๆ ผมกลับก็ได้” เขากระแทกเสียงก่อนจะหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องจากไปอย่างรวดเร็วด้วยความโมโห
แสบ…แสบได้ใจจริงๆแม่นาวิกา
คอยดูเถอะ…คนอย่างศิวาไม่เคยมีคำว่าพ่ายแพ้ สักวันเขาจะต้องได้เธอมาขึ้นเตียงด้วยให้ได้ ไม่งั้นอย่ามาเรียกเขาว่า นายศิวา รัตนไพสิทธิ์เลย!!
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์หลังงามที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทันทีที่เท้าก้าวย่างเข้าประตูบ้าน สายตาคู่คมก็ปะทะเข้ากับร่างผอมสูงของผู้เป็นน้องชายที่กำลังจะเดินสวนออกมาพอดี
“วันนี้แต่งหล่อจะไปไหนอีกล่ะ” ศิวาถาม ขณะที่ศินันท์หยุดเดินแล้วเอียงคอมองพี่ชายอยู่ชั่วครู่ เพียงแค่มองแว่บเดียว เขาก็รู้แล้วล่ะว่าศิวากำลังอารมณ์ไม่ดี
“ไปทำงานครับ”
“งานที่ว่าเนี่ย…อยู่ในบ่อนหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างรู้เท่าทัน จนศินันท์ถึงกับชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ
“แล้วไงครับ ยังไงเงินที่ผมเอาไปลงทุนในบ่อน มันก็เป็นเงินของผม ผมไม่ได้ใช้เงินของพี่”
“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เตือนด้วยความหวังดีเฉยๆ”
“ครับ ขอบคุณที่เตือน แต่ผมโตพอที่จะตัดสินใจอะไรเองได้แล้ว ผมไปล่ะ” พูดจบ ร่างที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำหอมราคาแพงก็เดินฉุยฉายออกไปจากบ้านทันที ทิ้งให้ศิวามองตามหลังไปด้วยสายตาเป็นกังวล
ศินันท์โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาคงไม่สามารถไปห้ามปรามอะไรได้ ในเมื่อชีวิตเป็นของศินันท์ เขาเป็นแค่พี่ชาย…ทำได้ก็แค่เตือนสติเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนว่าน้องชายจะไม่ยอมฟังเขาเลย
ระหว่างที่เขากำลังยืนคลึงขมับอยู่นั้น บัวลอยสาวใช้ร่างอวบก็เดินมาหาพร้อมด้วยแก้วน้ำเย็นๆอีกหนึ่งแก้ว
“น้ำเย็นๆค่ะคุณซี”
ศิวาเอื้อมมือมารับแก้วน้ำไปจิบ ก่อนจะแทบสำลักน้ำเมื่อได้ยินบัวลอยรายงาน
“วันนี้คุณอรมาหาคุณซีด้วยนะคะ”
“อะไรนะ!!” ชายหนุ่มส่งแก้วคืนให้สาวใช้ คิ้วเข้มๆขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิดใจ
“คุณอรมาหาคุณค่ะ บอกว่าจะมาชวนคุณออกไปทานข้าวเช้าด้วยกัน พอบัวลอยบอกว่าคุณซีไม่อยู่ คุณอรก็ไม่เชื่อนะคะ ค้นหาจนเกือบจะทั่วบ้าน”
ยิ่งได้ฟังบัวลอยพูด เขาก็ยิ่งไม่พอใจ นับวันอินอรจะยิ่งทำตัวล้ำเส้นมากขึ้น
ความสัมพันธ์ชั่วคืนเพื่อความพึงพอใจของคนทั้งสอง มาวันนี้อินอรกลับอยากได้มากกว่านั้น เธอไม่ต้องการสัมพันธ์ชั่วคราว แต่ต้องการความสัมพันธ์ถาวร
เขารู้สึกหงุดหงิดใจทุกครั้งที่เห็นอินอรตามมาวุ่นวายกับเขา ตามหึงหวง ตามเขาทุกฝีก้าว ทั้งๆที่เธอไม่ได้แต่งงานกับเขาแท้ๆ
เขาตั้งปณิธานไว้แล้วว่า…นอกจากภรรยาที่เขาจะจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายด้วยแล้ว เขาจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงคนไหนง่ายๆแน่
กรามแข็งถูกบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน มือหนาปลดเนคไทออกอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง และแผนการบางอย่างกำลังถูกร่างในหัวสมองของเขาอย่างรวดเร็ว
