บทที่ 8 สักวัน…เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขา!! 1
บทที่ 8
สักวัน…เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขา!!
ชื่อ : นางสาวนาวิกา เพชรสมบูรณ์ อายุ 23ปี เป็นบุตรบุญธรรมของนาย สมศักดิ์ และนาง สมทรง ซึ่งนางสมทรงเองก็มีบุตรสาวชื่อ หฤดี (หงส์) อายุ 20ปี
สีที่ชอบ: สีฟ้า
การ์ตูนที่ชอบ: โดราเอมอน และ ชินจัง
อาชีพสมัยก่อน: นักแสดง
บทบาทที่ได้รับ: นางร้าย
ผลงานที่เคยมีมา : ละครเรื่อง วิวาห์วุ่น, ดวงใจทรนง, กับดักสีชมพู
ปัจจุบันมีอาชีพ : ทำงานที่ผับสยาม แต่เพิ่งตกงานมาเมื่อไม่กี่วันนี้
งานอดิเรก : วาดภาพ
คติประจำตัว : ฝันอยู่ไกล ต้องไปให้ถึง
เกิดวันที่ : 14 มกราคม
เรียนจบปริญญาตรี ด้านคอมพิวเตอร์
สเปคผู้ชายที่ชอบ : หล่อ
ผู้ชายที่อยากจะรัก : รวย
ผู้ชายที่อยากแต่งงานด้วย : ใจดี อบอุ่น น่ารัก
ผู้ชายที่เกลียด : ผู้ชายกวนตีน
ขนมที่ชอบ : ขนมปังราดนม
ผลไม้ที่ชอบ : ตะขบ,มะขวิด
อาหารที่ชอบ : ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ ยกเว้นเนื้อไก่ หนูนา งูเห่า กบ ปลาไหล เขียด นก
ส่วนกระดาษที่เหลืออีกใบหนึ่งเป็นกระดาษวาดแผนที่ทางไปบ้านหลังน้อยของนาวิกา เมื่อกวาดสายตาดูจนครบไม่มีอะไรตกหล่นแล้ว ศิวาก็ถอนหายใจเฮือกพร้อมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มุมปากกระตุกเล็กน้อย จะยิ้มก็ไม่ใช่ จะบึ้งก็ไม่เชิง ความรู้สึกสับสนจริงๆ…
ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าผู้หญิงอย่างนาวิกาจะชอบกิน หนู นก เขียด ปลาไหล งู !!! ให้ตายเถอะ!!!!
เช้าวันต่อมา…
แปร๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงเป่าเขาควายดังสะท้อนไปทั่วซอยสาม เล่นเอาร่างบางที่กำลังฝันว่าได้กินหมูย่างทั้งตัวต้องสะดุ้งตื่นขึ้นทันควัน นาวิกาลุกขึ้นนั่งอย่างกระฉับกระเฉงพร้อมยืดแขนออกไปจนสุดลำตัวแล้วบิดซ้ายทีขวาทีเพื่อบรรเทาความเมื่อยขบ ก่อนจะเดินมาหยุดยืนตรงหน้าต่าง มองออกไปนอกบ้านมองถนนที่ถูกลาดด้วยคอนกรีตสีขาว มีรถสามล้อคันหนึ่งกำลังขับผ่านหน้าบ้านเธอออกไปพร้อมเป่าเขาควายไปด้วย
แปร๊ดดดดด แปร๊ดดดด ปู๊ดดดดดดดดดดด
เสียงเป่าเขาควายนี้จะดังในช่วงราวๆหกโมงเช้า ซึ่งถูกเป่าโดยคนขายหมูที่มักจะขับรถสามล้อเข้ามาในซอยสามแล้วเป่าเขาควายเชิญชวนให้ผู้คนมาซื้อหมูของตัวเองกัน ซึ่งเป็นอันรู้กันทั่วซอยว่า หากได้ยินเสียงเป่าเมื่อไหร่ แสดงว่ามีหมูมาเร่ขายถึงหน้าบ้านแล้ว
แต่คนอย่างนาวิกาไม่คิดจะอุดหนุนหมูของอาเฮียเขาควายนี่หรอกนะ แต่เธอยึดเอาเสียงเป่าเขาควายเป็นนาฬิกาปลุกในยามเช้าแทน
เสียงเป่าดังขึ้นเมื่อไหร่ เธอก็จะตื่นเมื่อนั้น
แต่เช้านี้ดูจะแปลกมากกว่าทุกวัน เพราะ…เธอเห็นใครคนหนึ่งยืนกอดอกพิงต้นตะขบหน้าบ้านของเธออยู่ ขายาวๆไขว้เข้าหากัน ตาคมกริบมองตรงมาที่เธอด้วยแววตาประหลาด
อยากร้องกรี๊ดดังๆแล้วพูดว่า ‘เท่ห์เว่อร์’ แต่สิ่งที่เธอทำได้ก็คือ…ร้องอุทานด้วยความตกใจแล้วพูดออกมาว่า
“แว้กกกกก ไอ้โรคจิต มาได้ไง”
ศิวายังไม่ทันจะอ้าปากตอบ ร่างบางก็วิ่งปรู๊ดออกมาเปิดประตูบ้านแล้วถลันมาผลักเขาด้วยมาดนักเลงทันที
“มาทำไมที่บ้านฉัน ห๊ะ”
“อ้าว มาไม่ได้เหรอไง ผมอยากมา” ศิวาถามพลางเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างยียวนกวนประสาท ตาคมๆกวาดมองทั่วร่างบางในชุดเสื้อแขนสั้นกับกางเกงขาสั้นเนื้อบางอย่างพอใจ เล่นเอานาวิกาหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที
“มะ มองอะไร”
“มองคุณ” เขาตอบตามตรง พร้อมชูถุงมากมายในมือให้เธอดู
“จะมามือเปล่าๆก็ดูกระไรอยู่ ผมเลยซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากคุณด้วย”
“อะไรของคุณ” คิ้วเรียวขมวดมุ่น แม้จะไม่ค่อยพอใจที่เขามาหาเธอถึงที่บ้าน แต่ความสงสัยปนอยากรู้มันมีมากกว่า เธอจึงชะเง้อคอยืดคอยาวมองของในมือของเขา ซึ่งเขาก็ส่งถุงมาให้เธอ
“อะไรเนี่ย” นาวิการับถุงมา พร้อมก้มลงมองก่อนจะกรีดร้องดังลั่นอย่างขวัญหาย
“กรี๊ดดดดดดดดดด งูๆๆๆๆๆๆๆๆ งูเป็นๆๆ อ๊ากกกก”
“หืม? ร้องทำไม” เขาถามอย่างงุนงง ในขณะที่นาวิกาเต้นพั่บๆ มือข้างซ้ายก็ชี้ถุงที่อยู่ในมือขวาไปด้วยด้วยท่าทางร้อนรน
“งู นี่มันงู”
“ก็ใช่ไง งูน่ะสิ ใครว่าเป็นควายกันล่ะ ผมรู้มาว่ามันเป็นของโปรดของคุณ ผมเลยซื้อมาฝาก เชิญคุณเอามันไปถลกหนังแล้วผัดเผ็ดกินได้เลยครับ
“อ๊ากกก ไอ้บ้า ใครจะไปกินลง ฉันกินเฉพาะงูที่คนอื่นเป็นคนผัดย่ะ” พูดจบ เธอก็โยนถุงใบใหญ่ในมือทิ้งไปทันที ทำให้เจ้าอสรพิษที่เซื่องซึมเพราะโดนกักขังมานานค่อยๆเลื้อยออกมาแล้วหนีไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
“อ้าว ผมอุตส่าห์ไปหาซื้อมาด้วยความยากลำบากนะ”
“ฉันไม่กิน แพงแค่ไหน ฉันก็ไม่เอา เชิญคุณกลับบ้านไปได้แล้ว” มือเรียวยกขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากตัวเองป้อยๆพร้อมออกปากไล่ เล่นเอาศิวาต้องชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ
“ผมไม่ชอบให้ใครมาไล่นะ”
“แต่ที่นี่มันเป็นบ้านของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะไล่ใครก็ได้”
“แต่ผมมาเพื่อจะเสนองานให้คุณ”
“งานอะไร”
“งานเลขาของผม เห็นว่าคุณจบด้านนี้มาโดยเฉพาะไม่ใช่หรือ…?”
เอ…ฟังๆไปแล้ว ข้อเสนอของเขาก็น่าสนใจไม่เบา เธอเองก็อยู่ในช่วงตกงาน หากได้ไปทำงานกับเขา เธอคงไม่ต้องอยู่แบบอดๆอยากๆกินข้าวกับไข่เค็มทุกมื้อแบบนี้ต่อไปแน่ๆ
แต่พอคิดๆอีกทีแล้ว เธอก็ชักจะสงสัยว่า…เขารู้ได้ไงว่าเธอเรียนจบด้านเลขามา แถมยังรู้อีกด้วยว่าเธอชอบกินงู
“นี่คุณรู้ได้ไง ห๊ะ” เมื่อความสงสัยมันแน่นอก เธอจึงไม่รอช้าที่จะถามออกมา และเขาเองก็แมนพอที่จะตอบตามความจริงเสียด้วยสิ
“ผมก็สืบเอาน่ะสิ”
“อะไรนะ สืบงั้นเหรอ นี่คุณจะยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันมากไปแล้วนะ” นาวิกาโวยวาย ในขณะที่ศิวาเริ่มมีสีหน้าเครียดขึ้น ชายหนุ่มพูดเสียงลอดไรฟันว่า
“ผมไม่ชอบให้ใครมาตำหนิผมแบบนี้นะนาวิกา ผมมีเงิน ผมอยากจะทำอะไรก็ได้”
“คิดเหรอว่าเงินมันวิเศษไปซะทุกเรื่อง ฉันจะบอกอะไรให้นะ…” เธอค้างคำพูดของตัวเองไว้เพียงเท่านั้น พลางกระดิกนิ้วชี้จิ๊กๆเป็นเชิงให้เขาเอียงหูมาใกล้ๆ
ดวงตาคมกริบหรี่ลงมองคนตัวเล็กอย่างชั่งใจ ก่อนจะยอมเอียงหูมาใกล้ๆเธอตามที่เธอต้องการ แต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว เสียงแหลมๆก็แหกปากพูดเสียงดังจนแก้วหูของเขาแทบแตก
“ฉันไม่มีวันไปทำงานร่วมกับคุณเด็ดขาด จำไว้!!”
“ทำไม คุณตกงานอยู่ไม่ใช่เหรอไง” ชายหนุ่มคลำหูตัวเองป้อยๆพร้อมเค้นเสียงถามอย่างคับแค้น
“ต่อให้ฉันจนกรอบแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ฉันก็ไม่มีวันไปขอร่วมงานกับคุณเด็ดขาด”
“เหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงอีกครั้ง