บทที่ 3 ผูกพันแค่กาย…หัวใจผูกมัดไม่อยู่ 2
ท่ามกลางความรู้สึกเลือนราง เธอรู้สึกเหมือนกำลังโดน…ฮิปโปทับ!
นาวิกาขยับกายอย่างอึดอัด ยิ่งพยายามผลักไส ฮิปโปตัวนั้นก็ยิ่งรัดเธอแน่นมากขึ้นจนหญิงสาวรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
เมื่อสติเริ่มกลับมา ภาพตรงหน้าก็เริ่มชัดเจน เธอจึงเห็นบุคคลที่เธอคิดว่าเป็นฮิปโปได้อย่างถนัดตา
“คุณบุญรอด!!”
“เรียกพี่ทำไมจ๊ะ” บุญรอดเงยหน้าขึ้นถามพลางแสยะยิ้มที่มีกลิ่นปากตุๆโชยออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงพยายามดึงเสื้อเกาะอกของเธอออกต่อไป
“กรี๊ดด! ไอ้บุญรอด ไอ้หัวล้าน นี่แกจะทำอะไรฉันยะ ออกไปๆๆ” นาวิกาดิ้นพั่บๆจนบุญรอดชักจะหงุดหงิด เขายันกายลุกขึ้นนั่งข้างๆตัวหญิงสาวแล้วแสดงความแข็งแกร่งออกมาโดย…
ตบเข้าที่ใบหน้าของเธอเต็มแรง
เพียะ!!
“เงียบ อย่าดิ้น อย่าขัดขืน ไม่งั้นแกจะเจ็บตัวยิ่งกว่านี้”
“ใครจะยอมให้แกปล้ำได้ง่ายๆไม่มีวันเสียหรอก” แล้วนาวิกาก็พยายามลงจากเตียงนอนหนานุ่มเพื่อจะหนีให้พ้นจากคนกักขฬะ
“จะหนีไปไหน” มือหนาหยาบกร้านคว้าพวงผมสลวยจากทางด้านหลังกระชากอย่างแรงจนเธอหน้าหงาย “ฉันเสียเงินค่าตัวของแกให้กับเจ๊สวยสมไปแล้วเป็นหมื่น เพราะฉะนั้น…ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปหรอก”
“อะ อะไรนะ” นาวิกาถามเสียงกระอึกกระอัก หน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินความจริงจากปากของฮิปโปเอ้ยบุญรอด
สวยสมขายเธอให้กับหมอนี่งั้นเหรอ!!
จากความตกใจก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความโกรธ เธอจะต้องไปจัดการกับยัยเจ๊นั่นให้ได้ กล้าดียังไงมาขายเธอให้กับผู้ชายคนนี้!
เมื่อแรงโกรธมาผสมกับความต้องการเอาตัวรอด เรี่ยวแรงมหาศาลจึงบังเกิดขึ้น เธอหันกลับไปปล่อยหมัดใส่กระโดงคางของบุญรอดเต็มแรงจนอีกฝ่ายหน้าหงาย
“โอ๊ย!!”
จากนั้นก็ผลักร่างบุญรอดเต็มแรงจนเขาล้มไปนอนกองบนเตียง
เมื่อเห็นท่าทางเจ็บปวดของเสี่ยตัวอ้วน เธอก็เริ่มได้ใจ หญิงสาวจึงลุกขึ้นยืนบนเตียงค้ำหัวบุญรอดแล้วยกมือเท้าเอว เงยหน้าขึ้นหัวเราะด้วยมาดของนางร้ายเต็มที่
“โฮะๆๆ จำไว้นะไอ้แก่ ว่าคนอย่างแกไม่มีวันได้เห็นขาอ่อนของฉันหรอก ไอ้คนจิตทราม ลามก โรคจิต ภูมิคุ้มกันคนสวยบกพร่อง ไอ้ควาย ไอ้วิปริต ไอ้ขุนช้าง ไอ้ตัณหากลับ” หญิงสาวด่าเขาฉอดๆ ก่อนจะยกขาขึ้นแล้วเหยียบที่หน้าอกของเขาอย่างแรงจนบุญรอดตีหน้าเหยเก
“อะ โอยย”
“เจ็บล่ะสิ เฮอะ เดี๋ยวฉันจะต้องรีบกลับไปจัดการนังเจ๊ปลาเค็ม เลยไม่มีเวลาจัดการกับแกมากกว่านี้ ถ้าไม่งั้นนะ…แกสูญพันธ์ไปแล้วล่ะ” พูดจบ นาวิกาก็สะบัดหน้าพรืดแล้วกระโดดลงจากเตียง แต่เธอดันสวมรองเท้าส้นสูงไว้ ขาของเธอจึงเกิดพลิก หล่นลงมาหน้าฟาดพื้นดังป๊าบ แล้วก็…หมดสติไปทันที
พลั่ก !
บุญรอดนอนมองสาวสวยตกเตียงหน้าทิ่มพื้นจนสลบด้วยสายตากระหยิ่ม ก่อนที่เขาจะลุกลงจากเตียงมาจับร่างบางขึ้นไปนอนบนเตียงเหมือนเก่า
“โธ่เอ้ย นึกว่าจะเก่งสักแค่ไหน สุดท้าย…แกก็ไม่รอดมือฉันไปได้หรอกนกกา”
ยังไม่ทันที่บุญรอดจะปลดชุดของนาวิกาและตัวเองออกเพื่อเริ่มกิจกรรมจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะ เสียงเคาะประตูห้องพักก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ใครวะ” บุญรอดถามตัวเอง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงก้มหน้าก้มตาลูบต้นแขนเรียวไปมาอย่างหื่นกระหาย
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ
คราวนี้เสียงเคาะประตูเลยเริ่มรัวขึ้นเหมือนคนเคาะกำลังร้อนใจจนบุญรอดทนหนวกหูไม่ไหว จึงตะโกนถามออกไปเสียงดังว่า “ใครวะ!”
เงียบ… ไม่มีเสียงตอบรับ
มีแต่เสียงเคาะประตูเท่านั้นที่ยังคงทวีความดังขึ้นเรื่อยๆจนบุญรอดหงุดหงิดต้องยอมผละออกจากร่างงามแล้วเดินมากระชากบานประตูให้เปิดออก
ผ่าง !
และทันทีที่ประตูถูกเปิด บุญรอดก็ถึงกับผงะหงายเมื่อเห็นผู้ชายร่างใหญ่หน้าตาถมึงทึงยืนรออยู่ ยังไม่ทันที่บุญรอดจะได้เอื้อนเอ่ยวาจาถามไถ่ออกไป หมัดหนักๆก็ถูกเสยเข้าที่ครึ่งปากครึ่งจมูกของเขาเข้าเสียก่อน
พลั่ก!
หนุ่มหัวล้านถึงกับหน้าหงาย ก่อนจะร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดเมื่อฝ่าเท้าใหญ่ถีบเข้าที่หน้าท้องของเขาเต็มแรง ตามด้วยกำปั้นที่อัดใส่หน้าของบุญรอดครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนที่สติของหนุ่มหื่นจะดับไป…!