ค่ำคืนที่เร่าร้อน
ในขณะเดียวกัน ณ ห้องพักของเฉินเหม่ยซิน บรรยากาศกลับตึงเครียดขึ้นอย่างกะทันหัน หวังเยี่ยนหลงผู้ถูกฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดเล่นงานจนแทบจะควบคุมสติไม่อยู่ พลั้งเผลอวิ่งเข้ามาในห้องโดยไม่ทันระวัง
เฉินเหม่ยซินที่กำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นหวังเยี่ยนหลงพุ่งเข้ามาหานางด้วยท่าทีร้อนรุ่ม ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยไฟราคะ บ่งบอกถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่ยากจะควบคุม เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ทำให้เฉินหม่ยซินตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ นางไม่ทันได้ตั้งตัวหรือเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ความตึงเครียดในห้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด บรรยากาศรอบตัวราวกับจะหยุดนิ่ง มีเพียงเสียงหายใจหอบถี่ของหวังเยี่ยนหลงที่ดังก้องอยู่ในห้องเงียบๆ นั้น
"ท่าน...ท่านเข้ามามีธุระอันใด!?" นางถามเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ความหวาดกลัวฉายชัดบนใบหน้า
หวังเยี่ยนหลงไม่ตอบ ทว่าชายหนุ่มโถมตัวเข้าหาหญิงสาวทันที จึงทำให้ทั้งสองล้มลงบนเตียง ก่อนที่ความร้อนแรงจะครอบงำสติสัมปชัญญะของทั้งคู่
“อย่านะ ปล่อย..” ยังไม่ทันขาดคำ ริมฝีปากหนาก็เข้าครอบงำกรีบปากนุ่มนวลทันที ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปเกี่ยวตวัดกับลิ้นของหญิงสาว ขณะที่มือหนานั้นกำลังกอบกุมดอกบัวคู่งาม เขาบีบเคล้นคลึงจนสาบเสื้อเริ่มคลายออก
‘แคว่ก!’ อาภรณ์ของหญิงสาวถูกกระชากออกจนหมด เฉินเหม่ยซินตกใจอย่างสุดขีด ตอนนี้น้ำตาของนางนั้นกำลังคลอเคล้าอยู่ตรงเบ้าตาคู่งาม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสะเทือนใจหรือว่าสุขสมกันแน่ หรืออาจจะเป็นทั้งสองอารมณ์
ลิ้นหนาก็ยังตวัดอยู่ตามร่างนวลเนียนของนางไม่หยุดยั้ง ริมฝีปากครอบไปที่ยอดอกจากนั้นจึงผลัดกันเอาลิ้นดูดดุนเล่นทั้งสองข้างสลับไปมา เล่นเอาหญิงสาวเผลอแอ่นอกขึ้นมาตอบรับสัมผัสที่วาบหวามนี้อย่างห้ามไม่อยู่ แม้ใจจริงก็อยากขัดขืนแต่ด้วยสัมผัสของคนตรงหน้าผสมกับฤทธิ์ของสุราทำให้ไม่สามารถขัดขืนได้เลย
เหมือนว่าสติของชายหนุ่มจะขาดผึง เขารีบส่งนิ้วเรียวยาวเข้าไปในช่องทางรักเพื่อเบิกทาง แต่จังหวะที่ส่งนิ้วเข้าไปนั้นช่างเป็นจังหวะที่หยาบคายจนร่างอรชรถึงกับกรีดร้องออกมา
“เจ็บ อื้ออ เจ็บจัง หยุดได้แล้ว” พร้อมกับนอนดิ้นเร่าไปเร่ามาด้วยความทรมาน แต่เสียงครางที่ส่งออกมายิ่งทวีความกระหายให้กับคนที่ถูกอารมณ์ครอบงำ
เขารีบเอานิ้วออกแล้วจ่อแก่นกายของตนเองจรดเข้าไปที่ปากทาง จากนั้นจึงตอกเข้าไปจนสุด จนหญิงสาวต้องกรีดร้องออกมาอีกหลายรอบ เอวสอบกระทั้นเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง จังหวะเร็วและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หวังเยี่ยนหลงมอบความเร่าร้อนให้เหม่ยซินตลอดทั้งคืน กว่าศึกรักอันร้อนแรงจะจบลง ก็ปาเข้าไปหลายชั่วยาม นับไม่ได้ว่าร่างอรชรของหญิงสาวโดนกระทำไปกี่ครั้งกว่าฤทธิ์ของยาจะสงบ
รุ่งเช้า หวังเยี่ยนหลงตื่นขึ้นมา เห็นสาวน้อยนางหนึ่งกำลังนอนอยู่ข้างกายก็ตกใจมากจนแทบจะผลักนางให้กระเด็นลงจากเตียง แต่พอมองไปรอบๆ ถึงรู้ว่าเป็นเขาเองที่บุกเข้ามาในห้องของหญิงสาว
ด้วยความรู้สึกผิด จึงหันไปมองสาวน้อยที่ยังคงหลับใหลอยู่ข้างๆ สายตาไล่มองไปตามเนื้อตัวของนาง เห็นรอยแดงสีกุหลาบเต็มลำคอ หัวไหล่และเนินอกเต็มไปหมด หวังเยี่ยนหลงมองแล้วต้องรีบก้มต่ำลง ร่องรอยพวกนี้เขาเป็นคนทำมันเอง
หวังเยี่ยนหลงเหลือบไปเห็นแผลเป็นที่ต้นขาหญิงสาว ภาพความทรงจำเก่าๆ วูบเข้ามาในหัว ใบหน้าเขาซีดเผือด ราวกับเพิ่งค้นพบความลับดำมืดบางอย่าง
เขาพึมพำเบาๆ "เป็นเจ้า..." ก่อนจะรีบแต่งตัวและกลับเข้าห้อง
ทันทีที่กลับถึงห้อง เขาสวมเสื้อผ้าบุรุษให้หญิงสาวที่ยังหมดสติอยู่ แล้วอุ้มนางเข้าไปในห้องตัวเอง ก่อนจะสั่งอาตวน "เก็บข้าวของในห้องของนางให้หมด เราจะเตรียมตัวกลับเข้าเมืองหลวงทันที"
อาตวนสงสัย "นายท่าน แม่นางคนนี้คือใครกัน เหตุใดเราถึงต้องพานางไปด้วย"
หวังเยี่ยนหลงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว "นางจะเป็นพระชายาของข้า ข้ามีเหตุที่จะต้องแต่งงานกับนาง"
หลินเยี่ยนฟางที่แอบฟังอยู่ถึงกับร้องออกมา "เยี่ยนหลง! เจ้าว่าเจ้าจะแต่งใครนะ!?"
หวังเยี่ยนหลงรู้ทันทีว่าหลินเยี่ยนฟางต้องเกี่ยวข้องกับสุราที่วางยาเขา แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องนั้นอีกแล้ว
"ข้าจะแต่งงานกับนาง เยี่ยนฟาง เจ้ากลับจวนของเจ้าได้แล้ว เป็นสตรีออกมานัดพบกับบุรุษแบบนี้มันดูไม่งาม ถึงแม้ว่าเราจะเป็นสหายกันก็ตามที" หวังเยี่ยนหลงเน้นคำว่า สหาย เพื่อให้หลินเยี่ยนฟางเข้าใจว่าเขาจะไม่มีวันเห็นนางเป็นมากกว่าเพื่อน
หลินเยี่ยนฟางถูกทิ้งให้อยู่ในโรงเตี๊ยมตามลำพัง ริมฝีปากและดวงตาสั่นเทา กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเนื้อ "ทำไมแผนการของข้าถึงล้มเหลว หญิงสาวคนนั้นเป็นใคร ทำไมเยี่ยนหลงถึงได้นอนกับนางแทนที่จะเป็นข้า"
ความโกรธและความผิดหวังแผดเผาใจของเยี่ยนฟาง หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมแผนการที่วางไว้อย่างรอบคอบถึงได้ล้มเหลวไม่เป็นท่า ใครคือหญิงสาวคนนั้น และทำไมเยี่ยนหลงถึงเลือกแต่งงานกับนาง