บทย่อ
เฉินเหม่ยซิน สาวน้อยผู้มีชีวิตชีวาและแสนซุกซน ต้องเผชิญหน้ากับชะตาชีวิตที่พลิกผัน หลังจากตัดสินใจหนีออกจากบ้าน นางต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เริ่มจากการแต่งงานสายฟ้าแล่บกับหวังเยี่ยนหลง แม่ทัพหนุ่มผู้สูงศักดิ์ในฐานะองค์ชายสาม ไหนนางต้องรับมือกับการถูกกลั่นแกล้งจากเหล่าผู้มีอำนาจ และความริษยาจากศัตรูที่ไม่พอใจที่นางได้เป็นชายาขององค์ชาย แต่ในความมืดมนนั้น ยังมีแสงสว่างเรืองรองอยู่ นั่นคือ หวังเยี่ยนหลง เขาคอยปกป้องนางจากภยันตรายทั้งปวง ความผูกพันของทั้งสองก่อตัวขึ้นเป็นความรักที่งดงาม ทว่ากลับต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากการกีดกันของราชวงศ์และแผนร้ายของผู้ไม่หวังดี เฉินเหม่ยซินและหวังเยี่ยนหลงจะสามารถฝ่าฟันทุกอุปสรรคและพิสูจน์ความรักที่แท้จริงของพวกเขาได้หรือไม่? ติดตามการเดินทางของพวกเขาในวังวนแห่งอำนาจ ความรัก และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ที่จะทำให้คุณลุ้นระทึกและซาบซึ้งไปกับความรักที่งดงามท่ามกลางความโหดร้ายของวังหลวง
หลบหนี
จวนของเสนาบดีเฉินชูชางตั้งตระหง่านกลางเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่โอ่อ่า ภายนอกประตูจวน สวนหน้าบ้านอวดความงามของพันธุ์ไม้นานาชนิด บัวแดงในสระน้ำเบ่งบานสะพรั่ง งดงามราวกับภาพวาด แต่เบื้องหลังความงดงามนั้นกลับซุกซ่อนความลับและความทุกข์ไว้
ลึกเข้าไปภายในจวน มีสวนลับที่ถูกซ่อนเร้นจากสายตาผู้คน ความงามของสวนลับนี้เหนือล้ำกว่าสวนด้านนอกหลายเท่านัก ดอกไม้นานาพรรณส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจ สมุนไพรสีเขียวขจีถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ สวนแห่งนี้เปรียบเสมือนโลกอีกใบที่แยกตัวออกจากความวุ่นวายภายนอก
เฉินเหม่ยซินคุกเข่าอยู่ข้างแปลงผักบุ้งทะเล ใบหน้าสวยหวานถูกซับหงาดเหงื่อด้วยชายผ้าแพรสีซีดจาง ปลายนิ้วเรียวบรรจงเด็ดใบเหลืองออกอย่างทะนุถนอมราวกับไม่อยากให้มันบอบซ้ำแม้แต่เศษเสี้ยว แววตาของนางเป็นประกายด้วยความรักใคร่หลงใหลในพืชพรรณและสมุนไพร
"คุณหนู ท่านเสนาบดีเรียกหาเจ้าค่ะ" เสียงอาหลิง สาวใช้คนสนิท ดังขึ้นขัดจังหวะความสงบสุขของเหม่ยซินที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ในสวนลับ
เหม่ยซินเงยหน้าขึ้นจากแปลงสมุนไพร ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ "ท่านพ่อ?" นางทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ปกติแล้วบิดาแทบไม่เคยสนใจใยดีนางเลยสักนิด นับประสาอะไรกับการเรียกหานางเป็นการส่วนตัว
อาหลิงพยักหน้ารับ "เจ้าค่ะ มิหนำซ้ำท่านยังกำชับให้คุณหนูแต่งตัวให้สวยงามอีกด้วย"
เหม่ยซินขมวดคิ้ว ความรู้สึกสับสนและกังวลถาโถมเข้ามาในใจ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดบิดาจึงเรียกหานาง และเหตุใดจึงต้องแต่งตัวให้สวยงามด้วย นางพยายามนึกถึงความผิดที่อาจจะทำลงไป แต่ก็นึกไม่ออก
"ท่านพ่ออยู่ที่ใด" เหม่ยซินถามอาหลิง
"ที่ห้องโถงใหญ่เจ้าค่ะ" อาหลิงตอบ
เหม่ยซินถอนหายใจยาว นางรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะคาดเดาต่อไป นางต้องไปพบกับบิดาและหาคำตอบด้วยตัวเอง
"ขอบใจเจ้ามาก อาหลิง" เหม่ยซินกล่าวขอบคุณสาวใช้คนสนิท ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในจวนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำสั่งของบิดา
ระหว่างทางเดินกลับไปยังห้องของตนเอง เหม่ยซินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลใจ นางไม่รู้ว่าการพบกันครั้งนี้จะนำพาอะไรมาให้นาง แต่นางก็หวังว่ามันจะเป็นข่าวดี
เหม่ยซินรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตของนาง นางเพิ่งล้างมือที่เปื้อนดินจากการดูแลสวนสมุนไพร ล้างหน้าล้างตา และเปลี่ยนเป็นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่นางมี แม้จะเป็นเพียงผ้าไหมสีซีดที่เคยสวยงามในอดีต แต่มันก็ยังคงขับผิวขาวผ่องของหญิงสาวให้ดูโดดเด่น
ภายในห้องรับรองใหญ่ บิดาและฮูหยินใหญ่กำลังต้อนรับแขกด้วยท่าทีนอบน้อมผิดไปจากปกติ เหม่ยซินก้มศีรษะคารวะบิดามารดาก่อนจะหันไปมองแขกแปลกหน้าผู้มาเยือนด้วยความสงสัย
"เหม่ยซิน นี่คือไต้เท้าจาง และบุตรชายของเขา จางอี้ชวน" ผู้เป็นบิดาแนะนำแขกคนสำคัญทั้งสองให้นางได้ทำความรู้จัก สายตาของสองพ่อลูกจ้องมองเหม่ยซินราวกับจะกลืนกินนางเสียให้ได้ หญิงสาวรู้สึกขนลุกซู่ และรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างต่อสถานการณ์เบื้องหน้า
"คารวะไต้เท้าจางและคุณชายจาง" เหม่ยซินเอ่ยด้วยถ้อยคำเสียงหวาน นางพยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บความรู้สึกประหม่าไม่ให้แสดงมันออกมาต่อหน้าผู้ให้กำเนิดและคนแปลกหน้าทั้งสอง
"เหม่ยซิน ทั้งสองมาสู่ขอนาง วันมงคลจะมีขึ้นในอีกสองสัปดาห์ เจ้าจะได้ไปเป็นภรรยาของเขาที่เมืองซีโจว" คำพูดของบิดาดังก้องในหัว เสมือนฟ้าผ่าลงกลางใจราวกับไม่ทันให้เหม่ยซินได้เตรียมใจ
หญิงสาวเบิกตากว้าง ริมฝีปากสั่นระริก "ท่านพ่อ..."
เสียงของฮูหยินใหญ่ก็ตวาดดังลั่น "อย่าเสียมารยาท!" แต่ไหนแต่ไรที่ฮูหยินใหญ่ผู้นี้ก็ไม่เคยชอบเหม่ยซินกับมารดาที่จากโลกนี้ไปแล้วเลยสักครั้ง คงจะดีใจมากเสียด้วยซ้ำที่จะได้ผลักไสนางได้สำเร็จเสียที
ยิ่งเฉินเหม่ยซินยังคงอยู่ในจวนนี้ ก็ยิ่งเหมือนเป็นหนามตำใจฮูหยินใหญ่ การมีอยู่ของนางนั้นราวกับเป็นเครื่องเตือนใจถึงความล้มเหลวของฮูหยินในการเลี้ยงดูบุตรสาวให้เป็นที่หมายปองของเหล่าตระกูลใหญ่โต ยิ่งเหม่ยซินเติบโตขึ้นเป็นสาวงาม ก็ยิ่งตอกย้ำความกังวลในใจฮูหยินใหญ่ว่าบุตรสาวของตนเองอาจจะไม่มีโอกาสได้แต่งงานออกเรือนไปอย่างมีหน้ามีตา ความริษยาในใจของฮูหยินใหญ่จึงเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน จนไม่อาจทนเห็นเหม่ยซินอยู่ในจวนนี้ได้อีกต่อไป
แถมบิดายังใช้ข้ออ้างเรื่องปัญหาการเงินของตระกูลมาบีบบังคับ ทั้งที่ความจริงแล้วเหม่ยซินไม่เคยรบกวนเงินทองของบิดาเลยแม้แต่น้อย นางใช้เงินมรดกของมารดาและรายได้จากการขายสมุนไพรที่นางปลูกเองกับมือเลี้ยงชีพตนเองมาโดยตลอด เหตุใดบิดาจึงยอมยกนางให้กับชายแปลกหน้าเพื่อแลกกับสินสอด เหตุใดชีวิตของนางจึงไร้ค่าในสายตาบิดาถึงเพียงนี้
คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในใจของเฉินเหม่ยซิน นางรู้สึกเหมือนถูกทรยศและถูกมองข้ามราวกับเป็นเพียงสินค้าที่สามารถนำไปขายได้ หญิงสาวไม่เคยคาดคิดว่าบิดาผู้ให้กำเนิดจะตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิตของนางโดยไม่ถามความสมัครใจของนางเลยแม้แต่น้อย
ความคับแค้นกัดกินหัวใจเหม่ยซินราวกับปลวกแทะเนื้อไม้ นางไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตของตนเองจะถูกตีค่าด้วยสินสอดทองหมั้น ไม่เคยคิดว่าบิดาที่นางรักและเคารพจะมองนางเป็นเพียงสินค้าที่จะนำไปแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล
ยามราตรีคลี่คลุมทั่วผืนฟ้า ดวงจันทร์สาดแสงสีนวลจางลงมาอาบไล้จวนเสนาบดีอันเงียบสงัด เงาเพรียวบางของเหม่ยซินเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง นางก้าวเท้าเบาๆ ผ่านสวนดอกไม้ที่เคยเป็นที่พักพิงทางใจ บัดนี้กลับกลายเป็นกรงขังที่นางไม่อาจทนอยู่ได้อีกต่อไป
ห่อผ้าเล็กๆ บรรจุเพียงเสื้อผ้าสองสามชุด ยาสมุนไพรคู่ใจ และเงินเก็บเล็กน้อยที่นางสะสมไว้จากการขายสมุนไพร มันอาจจะไม่มากมาย แต่ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่
เมื่อเหม่ยซินก้าวพ้นประตูจวน นางรู้สึกเหมือนนกน้อยที่ถูกปลดปล่อยจากกรงขัง น้ำตาแห่งความเสียใจ ความคับแค้น และความหวาดกลัวไหลรินอาบแก้ม แต่ก็ปะปนไปด้วยความรู้สึกโล่งอกและอิสรภาพ
"ข้าจะไม่ยอมเป็นหมากในเกมของใครอีกต่อไป" นางพึมพำกับตัวเอง "ชีวิตนี้ของข้า ข้าจะเป็นผู้กำหนดเอง"
เหม่ยซินไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร นางอาจจะต้องเผชิญกับความยากลำบากและอันตราย แต่สิ่งหนึ่งที่นางรู้แน่ชัดคือ นางจะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนางอีก นางมีค่ามากกว่าการเป็นเพียงเครื่องมือของใครบางคน
แสงจันทร์สาดส่องนำทางให้เหม่ยซินก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่น นางจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่านางสามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง และเฉินเหม่ยซินจะสร้างชีวิตใหม่ที่นางเป็นผู้เลือกเอง