บทที่๑...คู่นอน (๒)
“ไม่ได้ พี่จะไปทวงจินคือมา”คนเมาทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องเซก่อนจะล้มลงบนโซฟาอีกรอบ เปมิกาลอบถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายหากไม่ใช่เพราะเหลือกันแค่สองคนเธอคงไม่มานั่งดูแลพี่ชายอย่างนี้หรอก
“เดี๋ยวค่อยไปทวงแต่ตอนนี้ช่วยขึ้นห้องไปอาบน้ำอาบท่าหน่อยเถอะ”ประคองพี่ชายลุกขึ้นแม้อีกฝ่ายจะปฏิเสธความช่วยเหลือแต่ดูแล้วไม่น่าจะรอด ขึ้นชั้นสองก็พบว่ามีห้องนอนสองห้องข้างบนเป็นบ้านไม้ที่จัดวางของอย่างเรียบร้อย กว่าจะพาพี่ชายเข้ามาในห้องต้อนเขาไปอาบน้ำได้ก็ทำเอาหอบ อายุก็ไม่ใช่น้อยยังทำตัวเหมือนเด็กอีก
“จิน อย่าไปจากพี่เลย”นั่งรอข้างนอกก็ได้ยินเสียงพี่ชายเพ้อ เธอเตรียมชุดวางไว้ให้เขาบนเตียงก่อนจะบอกให้พี่ออกมาได้แล้ว ชายหนุ่มเดินเซออกมามีผ้าเช็ดตัวพันข้างล่างก่อนน้องสาวจะยัดเสื้อผ้าใส่มือ
“แต่งตัวซะ เดี๋ยวเปรมจะลงไปทำข้าวต้มให้”น้องสาวผละออกไปดูที่ห้องครัวพบว่าทุกอย่างว่างเปล่าก็ถอนหายใจ หันไปมองหลังตู้เย็นพบซองโจ๊กอยู่สองซองเมื่อดูวันหมดอายุก็พบว่าอีกนานจึงจัดการต้มน้ำเทโจ๊กลงไปคนสักพักค่อยตักขึ้นใส่ถ้วยให้พี่ชาย
“มาแล้ว”เปมทัตนั่งรอบนเตียงแววตาเหม่อลอยโดยที่เธอเองยังสงสัยว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวทำให้พี่ชายเป็นมากขนาดนี้เลยหรือ
“กินโจ๊กก่อนนะพี่ทัต”แม้จะพูดเสียงเรียบแต่ก็แฝงไว้ด้วยความห่วงใย เปมทัตหันมามองแล้วส่ายหน้า
“พี่ไม่หิว”
“ยังไงก็ต้องกิน”น้องบังคับแล้วตักโจ๊กขึ้นมาเป่าให้หายร้อนค่อยป้อนใส่ปากเขาไปเรื่อยๆ คนบอกไม่อยากกินแต่เพียงไม่นานโจ๊กในถ้วยก็หมดเกลี้ยง
“เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้”ถือโอกาสเอาถ้วยลงไปเก็บพร้อมกับน้ำมาให้พี่ชายเธอดื่มก่อนจะให้เขานอน อีกฝ่ายก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม้จะมีเพ้อถึงคนรักอยู่บ้างก็ตาม หลังจากพี่ชายนอนหลับน้องสาวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเหลือบมองโต๊ะข้างเตียงที่มีรูปคู่อยู่ก็คว่ำลงเพราะทนเห็นหน้าคนรักของเขาไม่ไหว
วันนี้เธอว่างจึงลงไปเก็บกวาดบ้านข้างล่างให้ ตั้งแต่เด็กครอบครัวเธอมีความสุขมากพ่อแม่พี่ชายอยู่กันพร้อมหน้าจนกระทั่งพ่อประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตตอนเธออายุเพียงสิบสองปีก่อนแม่จะแต่งงานใหม่ตอนที่เธอขึ้นมอสอง พ่อเลี้ยงใจดีกับเธอมากเข้ากับพี่ชายได้ดีจนกระทั่งเมื่ออายุสิบหกปีแม่ก็เสียชีวิตด้วยโรคร้าย หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงก็กลายเป็นอีกคนทันที เขาติดการพนันอย่างหนักเงินที่แม่ฝากไว้ให้ก็ไม่เหลือจนเธอต้องออกมาทำงานพิเศษส่งเสียตนเองเรียน ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกปล่อยพี่ชายอยู่กับพ่อเลี้ยงสองคน
คิดถึงอดีตก็ไม่นึกฝันว่าตนจะมีวันนี้ เปมิกาเก็บกวาดบ้านข้างล่างให้พี่ชายก่อนออกไปจ่ายตลอดโดยไม่ลืมใส่แมสปิดหน้าไปกว่าครึ่งพร้อมแว่นตาอำพรางตน ดีที่ตลาดอยู่ใกล้เดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงที่หมาย ดาราสาวเลือกผักผลไม้และเนื้อไก่ไปทำอาหารให้พี่ชายกิน แม้ฝีมือจะไม่ได้ดีมากแต่ก็พอจะกินได้ไม่แย่ถึงขนาดต้องคายทิ้ง
เมื่อได้ของครบก็เดินกลับบ้านทำต้มไก่ให้พี่กินพร้อมทั้งหุงข้าวไว้ด้วย นึกย้อนไปตอนเด็กก็มีเปมทัตคอยดูแลเธอตลอดแม้ในวันที่แม่เสียพี่ก็นอนกอดเธอร้องไห้หลับไปด้วยกัน เขาคือครอบครัวที่เหลืออยู่คนเดียวของเธอจึงอยากรักษาเอาไว้
บ่ายคล้อยเปมทัตลุกจากที่นอนคล้ายจะสร่างเมาได้กลิ่นหอมก็ลงมาข้างล่างเดินมายังครัวเห็นหม้อตั้งอยู่บนเตาแก๊สไปเปิดดูก็พบว่าเป็นต้มไก่ เขาอมยิ้มคงเป็นน้องสาวที่ทำให้
“พี่ทัต ตื่นแล้วหรือ”หันตามเสียงก็พบน้องสาวตัวดีในสภาพมอมแมมราวกับไปเล่นซุกซนมา
“อือ ดีขึ้นแล้วด้วยว่าแต่เปรมเถอะทำไมตัวมอมแมมแบบนั้น”ร่างบางมองตามือตามแขนของตนเองก็รีบไปล้าง
“ไปถอนหญ้าให้พี่น่ะสิ สวนหลังบ้านรกจนกลัวว่างูจะมาอาศัย”บ่นไปล้างตามมือตามแขนไปด้วย
“แล้วไปทำทำไม เดี๋ยวว่างๆ พี่ก็ทำเอานั้นแหละ”
“ก็ไม่อยากนั่งเฉยๆ รอพี่ทัตตื่นอีกอย่างวันนี้ว่างไม่รู้จะไปไหนด้วย”พี่ชายเดินเข้ามาวางมือบนศีรษะน้องสาวก่อนลูบไปมาด้วยเอ็นดู
“ขอบใจนะ”พูดกันจบก็ช่วยกันตักอาหารวางไว้บนโต๊ะทานอย่างเอร็ดอร่อย กลายเป็นมื้อง่ายๆ ที่ความสุขโอบล้อมสองพี่น้อง
“เดี๋ยวพี่ล้างให้ ไปนั่งดูทีวีเถอะ”เปมิกาไม่ขัดเดินไปนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น บ้านของพี่ชายข้างล่างเป็นปูนส่วนชั้นสองเป็นไม้ทาด้วยสีฟ้าแม้ขนาดบ้านไม่ใหญ่มากแต่ก็ให้ความสะดวกสบายพอสมควร
“กวาดบ้านให้พี่ด้วย ขอบใจนะ”ล้างจานเสร็จเดินมานั่งข้างน้องสาวเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มที่เธอเคยชิ้น ทั้งสองนั่งดูการ์ตูนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กไร้เดียงสา
“พี่ทัต พี่รักผู้หญิงคนนั้นมากหรือ”ในขณะที่มีเพียงเสียงจากโทรทัศน์แต่ทั้งสองเองต่างก็จมอยู่ในภวังค์ของตนเองก่อนเปมิกาจะเอ่ยถามขึ้นหันมามองพี่ชายที่แววตาแสดงความเจ็บปวดชัดเจนไม่สามารถปิดบังได้
“จินเข้ามาในวันที่พี่ไม่มีใคร จินเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ พี่ขาดเขาไม่ได้”แววตาเหม่อลอยคิดไปถึงอดีตในวันที่แม่เสียนอกจากน้องสาวก็มีจิดารัณเคียงกายคอยปลอบปะโลมให้เขายืนหยัดขึ้นมาได้ วันที่น้องสาวจากไปก็ช่วยดูแลเขาทุกอย่าง เธอกลายเป็นคนที่เขาไม่สามารถเสียไปให้ใครได้
“แต่เขาไปกับคนอื่นขนาดนั้น คงไม่เหลืออะไรกลับมาให้พี่แล้ว”พูดตรงจนคนเป็นพี่ต้องหลุบตาต่ำมองพื้นยิ้มเยาะให้ตนเอง
“เชื่อไหมแม้ว่าพี่จะรู้ว่ามันเป็นแบบนั้นแต่พี่ก็อยากได้เขากลับมาเหมือนเดิม เปรม พี่โง่มากใช่ไหม”พี่ชายเธอไม่ใช่คนที่เข้มแข็งแม้อยากจะบอกว่าใช่ เขาโง่มากแต่เธอก็เงียบเอาไว้เพราะน้ำตาของชายหนุ่ม
“พี่รักจินมากเกินไป พี่รักจินมากกว่าชีวิตของพี่อีก”เช็ดน้ำตาออกไปก่อนจะหันไปมองน้องสาวด้วยแววตาแห่งความหวัง
“เปรม..ช่วยพี่หน่อยได้ไหม”ดาราสาวนั่งนิ่งไม่เอ่ยอะไรออกไปมองพี่ชายด้วยความเวทนา อยากจะบอกเหลือเกินว่าคนที่เขารักและคิดว่าดีแท้จริงไม่ได้เป็นแบบนั้นสักนิด
“เอาไอ้ภราดรออกไปจากจิน ถ้าเปรมช่วยพี่จินต้องกลับมาแน่ๆ”เขาจับมือน้องสาวเอาไว้แล้วพูดด้วยรอยยิ้มราวกับเจอแสงสว่างที่ตามหามานาน
“ไม่ ถ้าเขาจะไปก็ปล่อยให้ไปเถอะพี่จะเอากลับมาทำไม”ปฏิเสธเสียงแข็งด้วยไม่ชอบหน้าจิดารัณเป็นทุนเดิมอีกทั้งยังกลัว..
ภราดรเหมือนไฟที่ไม่ควรบินเข้าไปใกล้
“เปรม พี่ขอร้อง”
“พี่อยากให้เปรมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้แฟนพี่กลับมาอย่างนั้นหรือ พี่ไม่ห่วงน้องเลยใช่ไหม”ถามกลับเสียงนิ่งแต่แฝงด้วยความน้อยใจ พี่ชายเห็นเธอเป็นอะไร
“ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น พี่รักเปรมพี่ห่วงเปรมอยู่แล้ว แค่อยากให้เปรมช่วยไปกันมัน”ประโยคสุดท้ายพูดเสียงเบาลงก่อนเขยิบมาใกล้น้องสาวแล้วจับมือนิ่มเอาไว้
“ขอร้องนะเปรม ช่วยพี่ด้วยนะ”น้ำเสียงอ้อนวอนของพี่ทำให้น้องสาวต้องนิ่งไป หัวใจรวดร้าวด้วยคิดว่าไม่มีใครรักเธอจริงสักคน ทุกคนต้องการผลประโยชน์จากตัวเธอทั้งนั้นแม้แต่พี่ชายที่เป็นครอบครัวคนเดียวก็ต้องการให้เธอทำเพื่อผู้หญิงที่เขารัก
“ถ้าจินกลับมาเปรมก็ไม่ต้องทำ ได้โปรดนะเปรมช่วยพี่ชายคนนี้ด้วย”เสียงอ้อนวอนและแววตาที่ส่งมาทำให้หญิงสาวต้องเบือนหน้าหนี
“ก็ได้”จำใจตอบรับออกไปแต่ทำให้อีกคนเข้ามากอดเธอทันทีด้วยความดีใจ เปมิกาหน้านิ่งแม้พี่ชายจะยิ้มและขอบคุณซ้ำๆ หัวใจเธอราวกับกำลังปริมันเจ็บปวดเมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา
“ถ้าพี่กับจินแต่งงานกันเปรมค่อยเลิกยุ่งกับมันนะ”เขาพูดราวกับทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายดายโดยไม่รู้เลยว่ากว่าจะลืมภราดรได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเพราะต่อให้ผ่านมากี่ปีก็ไม่เคยลบเลือนเขาออกไปจากหัวใจได้เลย ไม่มีใครมาแทนที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นได้
“ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ”อยากจะโกรธพี่ชายที่เห็นเธอเป็นเพียงตุ๊กตาไร้หัวใจแต่ก็ทำไม่ลงเพราะโกรธตนเองมากกว่าที่อยากลองสักครั้ง อยากรู้ว่าเขาจะสามารถจำเธอได้หรือไหม จำผู้หญิงที่เขาเคยย่ำยีเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนได้หรือไม่..และก็ได้รู้ว่า
เขาจำเธอไม่ได้
เปมิกาเดินเข้าห้องราวนกปีกหัก ดวงตากลมโตแดงก่ำจากการร้องไห้มุ่งตรงไปห้องนอนก่อนจะซบหน้าลงกับหมอนปล่อยน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ไม่มีแม้เสียงสะอื้นให้ตนเองได้ยิน ก่อนเสียงมือถือจะดังขึ้นเรียกความสนใจจากเธอ
‘ภราดร’
ชื่อที่ปรากฏทำให้หัวใจยิ่งเจ็บปวด ทุกครั้งที่เขาโทรมาหาเธอมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
“ค่ะ”กรอกเสียงลงไปนิ่งราวกับไม่เคยผ่านการร้องไห้มา ปลายสายเงียบไปสักพักราวกำลังตัดสินใจอะไรบ้างอย่างหรือติดธุระที่ยังทำไม่เสร็จ
‘วันนี้ไม่ต้องมานะ ฉันจะไปดูตัว’เขาบอกออกมาโดยไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดช่างเป็นผู้ชายที่ทำร้ายจิตใจเธอได้ทุกคำพูดจริงๆ
“ค่ะ”สายถูกตัดไปเมื่อเขาพูดธุระเสร็จแล้ว สำหรับภราดรเธอคือคู่นอนทั่วไปจะมีเพียงกฎที่สร้างขึ้นคือในเวลาที่มีเธอเป็นคู่นอนเขาห้ามมีความสัมพันธ์กับคนอื่นอีก ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบรับทันทีแต่นั้นไม่นับรวมผู้หญิงที่เขาไปดูตัวเพื่อแต่งงานเข้าบ้านเชิดชูเป็นหน้าตา คนที่ทัดเทียมกับเขาเท่านั้นไม่ใช่ผู้หญิงโชกโชนอย่างเธอ
น้ำตาที่ไหลลงบนหมอนราวกับจะย้ำถึงความโง่เขลาของเธอ คิดว่าเขาอาจจะหันมามองตนเอง ยอมเล่นกับไฟจนในที่สุดก็โดนไฟแผดเผาไม่เหลือชิ้นดี หัวใจของเธอแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจบอกใครได้ถึงความเจ็บช้ำที่เกิดขึ้น เขาอาจจะคิดว่าเรื่องมันเพิ่งเริ่มแต่สำหรับเธอความเจ็บปวดนี้สะสมมาตลอดเวลาสิบเอ็ดปี!