บทที่ 8
ภายในห้องของโรงแรมโฮเรซ เชียล่ากำลังยิ้มอยู่กับโทรศัพท์ในมือ..
“ค่ะ..นั่นละค่ะที่หนูพูดถึงค่ะแม่” และเธอก็ทวนประโยคเดิมที่ได้พูดไปแล้วเมื่อครู่ “แบรดกับหนูแต่งงานกันเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วนี่เอง โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักซีวิล รีจิสตรี้ช่วยจัดการให้ค่ะ”
แบรดยืนอยู่เคียงข้าง โอบแขนไว้รอบไหล่ในท่าที่แสดงความเป็นเจ้าของ เชียล่าสางยิ้มให้สามีเจ้าเสน่ห์ของเธอ สัมผัสของเขาช่างอบอุ่นยิ่งนัก มันช่วยบำบัดความรู้สึกสับสนเย็นชาที่เกิดกับเธอมาตลอดทั้งวันให้มลายหายสิ้นไปได้ ซึ่งแม้จะได้คิดทบทวนอย่างดีแล้ว แต่คำพูดที่พูดอกมาก็ยังฟังเหมือนมีแต่ความโง่เขลาเบาปัญญาอยู่นั่นเอง
“อย่าเสียใจนะคะแม่ แบรดกับหนูจะมีความสุขแน่นอน เราจะอยู่ฮันนีมูนที่ฮัวเรซนี่สักสองวัน หลังจากนั้นเราก็จะกลับบ้าน เรารักกันมากเกินกว่าจะคอยต่อไปค่ะ”
หลังจากที่อธิบายให้มารดาเข้าใจเรียบร้อยแล้ว เธอก็หันเข้าสู่อ้อมแขนของแบรด และเขาก็รีบโอบร่างเธอไว้ สูดซับความหอมบนเรือนผมที่สลวยปรกอยู่กับหน้าผาก
“แม่คุณโมโหหรือเปล่า?”
“ไม่หรอกค่ะ” เชียล่าตอบขณะก้มลงพิจารณาแหวนทองคำเรียบๆบนนิ้วนาง “ก็ไม่ได้ต่อว่าต่อขานอะไรมากนักหรอก เพียงแต่ผิดหวังจนพูดไม่ออกที่เราไม่บอกท่านก่อนเท่านั้น
“ผมดีใจด้วยนะ” แบรดเอนตัวอ่านความรู้สึกในสีหน้าของเธออยู่ “ผมดีใจกับคุณด้วยจริงๆ” เขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำพูดว่า..เขากำลังดีใจกับตัวเอง..
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ” เธอคล้อยตามก่อนที่เขาจะก้มลงจูบ
“สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปก็คือ..”เขาจูบลงตรงมุมปาก “ลงไปที่ห้องอาหารของโรงแรม ดื่มมาการิต้นกันสองสองแก้ว เพื่อเป็นการเลี้ยงฉลองวันแต่งงานของเรา หลังจากนั้นก็ออกไปที่ร้านอาหาร มื้อค่ำวันนี้จะต้องประทับใจที่สุด เราจะกินกันภายใต้แสงเทียน สั่งอาหารดีๆแพงๆมากินให้อร่อยสักหน่อย ผมสังเกตเห็นว่าวันนี้คุณกลืนอะไรแทบไม่ลงเลยนะ ตอนกินกลางวันวันนี้ แล้วผมก็ไม่อยากเห็นคุณเป็นลมเพราะความหิวในคืนนี้หรอกนะครับ คุณนายทาวน์เซน”
“นั่นชื่อฉันใช่ไหมคะ..มิสซิสทาวเซน?” เชียล่าตอบรับด้วยน้ำเสียงเปี่ยมปลื้ม “ฉันจะต้องทำตัวให้คุ้นชินกับชื่อใหม่นี้ให้ได้”
ดีแล้วละ” เขาทำเสียงล้อกระด้างๆ รัดตัวเธอเข้ามาแนบร่างแน่นๆอีกครั้งก่อนจะปล่อยออก “เติมลิปสติกเสียก่อนเราจะได้ลงไปข้างล่าง” เขาตบเบาๆลงตรงสะโพกขณะเชียล่ารีบทำตามคำสั่ง “อ้อ..เดี๋ยวก่อน” แบรดทำหน้าเศร้า “กระเป๋าผมเบาโหวงเลย ถ้าคุณไม่อยากเห็นผมต้องใช้คืนแต่งงานของเรา ไปช่วยล้างจานเพื่อเป็นค่าดินเนอคืนนี้ ผมอยากจะถือเงินที่คุณถอนมาจากบัญชีเอามาไว้ที่ผมทั้งหมดก็แล้วกัน มันดูไม่เข้าท่าหรอกที่จะเปิดโอกาสให้ใครมาฉกกระเป๋าของคุณไป”
เชียล่าเดินตรงไปที่กระจกเงาเติมสีสตรอเบอรี่ลงบนเรียวปาก ภาพของแบรดสะท้อนเงาอยู่ตรงมุมกระจกบานนั้น เธอมองดูเขาเปิดซองธนบัตรและเริ่มลงมือนับอย่างตั้งใจ
เชียล่าอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของเขา
“ทั้งหมดนั่นหนึ่งหมื่นแน่ค่ะ” เธอเอ่ยออกไปราวจะให้ความมั่นใจกับเขา
“คุณว่าอะไรนะ?”สายตาที่ว่างเปล่ามองตอบเธออยู่ในกระจก
“ฉันหวังว่าคุณจะไม่ตั้งอกตั้งใจนับมันทั้งหมดหรอกนะคะ” ลิปสติกเปื้อนเป็นรอยอยู่ตรงริมฝีปาก เธอจึงเช็ดมันออก “ฉันหิวแล้วด้วย”
“ไม่หรอก..เอ้อ..ไม่จำเป็น..” เขาตอบอย่างลุกลน ค่อยๆถอยห่างจากกระจกเงา
ความสนใจของเขา กลับไปอยู่ที่ฟ่อนเงินที่ถืออยู่ในมือในลักษณะที่เหมือนคนถูกสะกดจิต เขาลงมือนับมันอีกครั้ง เชียล่ายิ้มให้กับตัวเองด้วยความเข้าใจดีที่สุด ในการกระทำเช่นนี้ของแบรด เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว มันก็เป็นเงินจำนวนมากเกินกว่าที่เขาเคยพบเห็นมา ดวงตาของเธอเลื่อนไปจับอยู่ที่มือของเขา ออกจะไม่สบายใจนักเมื่อเห็นท่าทางที่เขาจับเงินฟ่อนนั้นไว้ เชียล่าจึงหันไปมองหน้าเขาอีกครั้ง
แบรดเงยหน้าขึ้นพอดี เขารีบยัดเงินทั้งฟ่อนลงในกระเป๋ากางเกง สีหน้าที่แสดงออกถึงความเปรมปลื้มจางหาย ขณะนี้เขากำลังยิ้มให้เธอเหมือนเดิม
“คุณสวยมากทีเดียว เชียล่า” เขาเสพูดไปอีกทางหนึ่ง
ความคิดคำนึงของเธออาจจะก่อให้เกิดภาพลวงตาขึ้นกระมัง..?
“ฉันดีใจค่ะ ที่คุณคิดอย่างนั้น” เธอตอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เราจะไปกันหรือยังล่ะคะ?”
หลังจากมาการิต้าลงไปอยู่ในกระเพาะถึงสองแก้วแล้ว เชียล่าก็เริ่มรู้สึกสมองเบา ส่วนแบรดนั้นสั่งเพิ่มอีกสองเท่า ท่าทางไม่ได้รู้สึกอะไรเลย และถ้าจะพูดกันตามจริง ขณะนี้ดูเหมือนตัวเขาจะพองขยายตามจำนวนการจิบตากิล่าลงในแต่ละจิบอีกด้วย
เขาสั่งแก้วที่ห้า ดึงเงินออกมาทิปบริกรเป็นปึกอย่างใจป้ำ ซึ่งทำให้เชียล่าเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ที่เห็นเขาเปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดนี้
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าคุณดื่มจัดขนาดนี้” เธอบังคับตัวเองให้พูดออกมาอย่างสุภาพ
“ก็คนเรามันแต่งงานกันได้ทุกวันเมื่อไหร่เล่า?” เขาสวนคำตอบออกมาทันที รอยยิ้มที่เกิดขึ้นบอกความไม่พอใจอยู่มาก “โอกาสอย่างนี้มันก็ต้องฉลองกันหน่อยสิ” เขายกแก้วเย็นเฉียบขึ้นจรดริมฝีปาก
ภายในห้องอาหารของโรงแรม เชียล่าถึงกับต้องก้มหน้าด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในเมื่อเห็นแบรดให้ทิปบริกรสาว เขาดื่มมาการิต้าแก้วที่หกขณะที่กำลังดูรายการอาหารอยู่ เชียล่าสั่งไวน์กับอาหาร แต่แบรดกลับสั่งเหล้าแพงที่สุดในห้องอาหารแห่งนั้น
ขณะที่รับประทานอาหารอยู่ นักกีต้าสองคนก็เดินเข้ามาร้องเพลงพร้อมกับเล่นกีต้าให้ฟัง แบรดรีบล้วงมือลงในกระเป๋าดึงเงินออกมาทันที เลือกธนบัตรราคาแพงที่สุดตบรางวัลให้นักดนตรีสองคนนั้น โดยไม่ได้สนใจในค่าของเงินเลย
เมื่อนักดนตรีถอยห่างจากโต๊ะแล้ว เชียล่าก็เตือนเขาอย่างสุภาพเรื่องการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยทันที
“คุณไม่จำเป็นต้องแสดงความเมตตาถึงขนาดนั้นก็ได้นะคะแบรด”
“ผมกำลังมีความสุข” เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “แล้วผมก็ต้องเห็นทุกคนมีความสุขด้วย” เขายกแก้วเหล้าขึ้นในท่าดื่มอวยพร “แด่คุณ..เชียล่า และสำหรับอนาคตที่แสนสดใสของเรา..”
เธอฝืนยิ้มขณะยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก เหล้านั้นมีรสค่อนข้างเปรี้ยวไม่ได้อร่อยอะไรเลย แต่ขณะนี้เธอกำลังพยายามที่จะขับไล่ความหวาดหวั่นที่กำลังรุกไล่เข้ามาในตัว รวมทั้งคำพูดของพ่อที่เคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่า..แบรดเป็นคนหิวเงิน..ท่าทางของแบรดกำลังมีความสุขอย่างแท้จริง เธอพยายามคิดถึงหลักความจริงที่ว่า การที่เขามีความสุขอย่างนี้ เป็นเพราะอิทธิพลของเงินก้อนใหญ่ในกระเป๋าของเขานั้นเอง
เมื่อบริกรเลื่อนจานอาหารออก แบรดก็ถามเชียล่าทันที
“คุณจะดื่มบรั่นดีกับกาแฟไหม?”
“ไม่ค่ะ” เธอปฏิเสธ ไม่อาจปิดบังอารมณ์ไว้ได้ “ฉันไม่อยากเห็นคุณดื่มมากขนาดนี้เลยนะแบรด”
“แต่ผมไม่ได้เมาะ” สายตาของเขาเครียดเขม็งใส่เธอทันที แต่แล้วรอยยิ้มที่เหมือนจะเข้าใจก็ฉาบขึ้นบนใบหน้าอาบเสน่ห์ของเขา “อา..ใช่สิ..คืนนี้มันเป็นคืนแต่งงานของเรานี่”
และแล้วเขาก็พูดต่ออย่างไร้มรรยาทและด้วยเสียงอันดังว่า
“อา..เจ้าสาวผู้แสนบริสุทธิ์ของผมถึงกับเลือดพรหมจารีขึ้นหน้าเชียวนะ” เมื่อพูดจบแบรดก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
“โธ่ แบรด..ได้โปรดเถอะ” เชียล่ารู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อยากจะให้เขาลดเสียงลงให้มากกว่านี้
แต่แบรดกลับยักไหล่..
“ขอโทษด้วยที่รัก” แต่น้ำเสียงที่พูดไม่ได้บอกความเสียใจแม้แต่น้อย
บริกรเดินกลับมา เชียล่าแทบจะถอนหายใจออกมาดังๆเมื่อแบรดสั่งให้เช็คบิลแทนการสั่งบรั่นดีกับกาแฟ แต่แม้กระนั้นเขาก็ยังทิปอย่างมากมายเกินจำเป็นตอนจ่ายเงินและเชียล่าก็แสร้งคิดเสียว่า มันไม่มีความหมายอะไรเลย