เสน่หา

153.0K · จบแล้ว
Readed
65
บท
3.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เชียล่า โรเจอร์ส สาวแสนโสภา ผู้ทันสมัย ปราดเปรียว และเชื่อมั่นว่าจะสามารถกำโลกไว้ในอุ้งมือได้ ต้องปวดใจอย่างหนักเมื่อพบว่าผู้ชายคนแรกที่เธอเลือกรักนั้นไร้ค่าสิ้นดี โชคชะตาบันดาลให้เธอได้พบกับ "เรฟาก้า" ผู้ชายกร้าวซึ่งฝังตัวอยู่ในแดนเถื่อน ยังชีพอยู่ด้วยการจี้ปล้น ลักพาตัว เพื่อเรียกค่าไถ่ไปเลี้ยงดูพวกพ้องผู้ยากไร้ของเขา เธอต้องเรียนรู้ความรัก และการธำรงชีวิตร่วมกับชายผู้กร้าวกระด้างแต่ซ่อนความนุ่มนวลไว้ภายใน ซึ่งจองจำหัวใจของเธอไว้เพื่อชีวิตในบั้นปลาย...อย่างน่าระทึกขวัญ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักคนต่ำต้อยรักหวานๆดราม่าโรแมนติก

บทที่ 1

สายสร้อยข้อมือทองคำสามเส้นกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊ง ขณะที่เชียล่า โรเจอร์ส ปิดประตูธันเดอร์เบิร์ดสีน้ำเงิน หันไปมองทางโรงแรมที่แบรดทำงานอยู่ที่นั่น เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนสลวยเลียอยู่ริมไหล่

ไม่มีเสียงสายลมอ่อนแผ่วกระซิบอย่างเคย เบื้องหน้าอาคารโรงแรมหรูแห่งนั้น สายน้ำในแม่น้ำโคโลราโดไหลอ่อนเอื่อย และบนทางเดิน แสงอาทิตย์เหนือนครเท็กซัส ทอดรังสีสุดท้ายเป็นทางสีเหลืองทองลงทาบทับไว้ อากาศหนาวเย็นในยามบ่ายคล้อยของเดือนกุมภาพันธ์โลมไล้อยู่กับเนียนแก้ม

ดวงตากลมโตคู่นั้นก้มลงมองดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ ขณะที่เธอเดินตรงไปยังทางเข้าโรงแรม ขณะนี้ใกล้จะถึงเวลา 5 โมงเย็น ซึ่งหมายถึงว่าเธอผิดเวลานัดอีกแล้ว แต่เธอก็ยักไหล่อย่างไม่สนใจ เพราะคุ้นชินเสียแล้วกับการที่จะต้องให้ใครต่อใครคอย ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกเลยด้วยซ้ำ

เชียล่าไม่เคยยอมรับกับการที่ว่า เธอถูกตามใจมาจนเคยตัว แม้ความจริงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม ในฐานะที่เกิดมาเป็นลูกสาวคนเดียว ได้รับการโอบอ้อมถนอมขวัญจากพ่อแม่ที่รักเธออย่างสุดหัวใจ

แต่เธอไม่เคยได้รับสิ่งนี้จากแบรด เชยล่าไม่อาจเอาเขามาพันปลายนิ้วเหวี่ยงเล่นเหมือนเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆที่เคยออกเดทกันมาก่อนได้ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้กระมังที่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ทำให้เธอเกิดความทึ่งในตัวเขา ละขณะนี้ แบรดก็คงกำลังหัวเสียกับการที่เอมาสายอีก แต่เชียล่าก็มั่นใจวา เธอสามารถจะทำให้เขาลืมความโกรธได้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มจางก็ฉาบขึ้นบนริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบไว้ด้วยสีชมพูกุหลาบ และเมื่อบวกเข้ากับแววรื่นเริงในดวงตาคู่สีอำพัน ยิ่งก่อให้เกิดความพึงใจในเสน่ห์ประหลาดล้ำที่แฝงเร้นในตัวเธอแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น

เมื่อเดินเข้ามาใกล้จะถึงประตูทางเข้า เชียล่าก็มองเห็นแบรดยืนอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ท่าทางเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเช่นเดียวกับเขา แววในดวงตาคู่สีน้ำตาลนั้นคล้ายจะต่อว่า ที่จริงเขามองเห็นตั้งแต่ตอนที่เธอลงจากรถและเดินตรงเข้ามาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทักทาย เขาอยากจะเห็นเธอเสียเวลากับการที่จะต้องมองหาเขาเสียบ้าง เพื่อเป็นการลงโทษ ฐานที่มาช้าจนเลยเวลาที่นัดหมายกันไว้

เมื่อเดินมาถึงประตู เชียล่าก็มองหน้าเขา รู้สึกเหมือนจะสะดุดลมหายใจของตัวเอง เส้นผมสี

บลอนด์ของแบรดปรกลงตรงหน้าผากสีคล้ำ แววแห่งความทระนงมั่นใจในตนเองประทับอยู่บนใบหน้าที่หล่อสมชาย และบนแนวขากรรไกรที่เชิดขึ้น แบรดเป็นคนมีเรือนร่างสูงสมสัดส่วน สง่าผ่าเผย สามารถทำให้ผู้หญิงทุกคนใจเต้นเมื่อได้เห็น และยิ่งเมื่ออยู่ในชุดสูทของโรงแรม ซึ่งเป็นเสื้อกั๊กสีน้ำตาล สวมทับเสื้อคอตลบสีขาวและกางเกงสีเข้มยิ่งทำให้เขาดูสะดุดตายิ่งขึ้น

ทุกครั้งที่เชียล่าเห็นผู้ชายคนนี้ ปฏิกิริยาภายในจะต้องเป็นเช่นนี้เสมอ คือในตอนแรก็จะคิดสงสัยในตัวเองว่า ทำไมเธอจึงไม่อาจตัดใจจากความหล่อที่เปี่ยมด้วยความจองหองของเขาได้ และตามมาด้วยความรู้สึกละอายใจที่ต้องทำให้เขาคอยแม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม

ท่าทางเดินของเธอไม่ได้รีบร้อนเท่าไรนัก เป็นท่วงท่าที่งามด้วยการเดินแบบตามสบาย ริมฝีปากเผยอยิ้มเหมือนจะขอโทษกลายๆ สร้อยข้อมือกระทบกันดังเพราะพริ้ง ขณะที่เธอยกมือขึ้นเหน็บปอยผมไว้ตรงหลังใบหู

“ขอโทษนะคะที่รัก ที่ฉันมาช้าไปหน่อย” น้ำเสียงต่ำๆฟังอบอุ่น ซึ่งเธอกลั่นกรองออกมาคล้ายจะปลอบประโลมให้เขาคลายความขุ่นใจ

แบรด ทาวน์เซน ไม่ยิ้มตอบ เขาพยักหน้าให้เพื่อนร่วมงาน จับมือเชียล่าบีบแรงๆจนเธอต้องถอนใจด้วยความเจ็บ ขณะที่เขาดึงเธอให้เดินตามไปด้านข้าง

“แบรด ฉันเจ็บมือนะ” เชียล่าอุทธรณ์เมื่อหยุดเดิน ไม่แน่ใจว่าเขารู้ตัวหรือเปล่าว่าบีบมือเธอแรงขนาดไหน

เขาปล่อยมือเธอทันที แต่เอื้อมมากระชากไหล่ให้เข้ามาใกล้อย่างหยาบคาย

“ผมไม่ชอบที่จะต้องคอย” หางเสียงบอกความเดือดดาล ก่อนที่ริมฝีปากร้อนๆจะประทับลงบนเรียวปากเธออย่างกระแทกกระทั้น

จูบนั้นคล้ายจะเป็นการลงโทษที่รุนแรงและอยากแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ เชียล่าสะบัดตัวจากการเกาะกุมของเจา ประหนึ่งเกิดความหวาดหวั่นกับการแสดงความรู้สึกของเขา แต่อ้อมแขนของเขากลับรั้งร่างเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของแบรดแดงก่ำขึ้นมาทันที รัดร่างเธอไว้ราวปลอกเหล็ก เชียล่าผงะหงายหลัง ขณะที่เขาซอนไซ้จูบลงบนช่วงลำคอของเธอ

“ฉันขอโทษค่ะ” เสียงพูดของเธอแผ่วโผย ร่างกายราวจะอ้อนเปลี้ยลงทันที “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาชาเลย”

“คุณก็พูดอย่างนี้ทุกครั้ง” เขาพูด ขบไรฟันลงบนติ่งหู

ปลายนิ้วของเธอสอดเข้าไปในอกเสื้อกั๊ก โอบรอบตัวเขาไว้ สัมผัสความอบอุ่นและกล้ามเนื้อทั้งช่วงไหล่และแผ่นหลัง และฝ่ามือของเขาก็ไล้ลูบลงไปตั้งแต่บั้นเอวจนถึงสะโพกรั้งร่างเธอเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม

กลิ่นระเหยของเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายกรุ่นอยู่ตรงปลายคางของเขา เชียล่าสูดลมหายใจลึกๆขณะพูดต่อว่า

“ฉันถูกขอให้อยู่ต่ออีกสักครู่ หลังจากวิชาสุดท้ายเวลามันก็เลยไปเยอะมาก”

เขาผงกหัวขึ้น คำรามออกมาว่า

“ก็คุณน่ะมันตุ๊กตาสำหรับอาจารย์ทุกคนนี่” แบรดทำปากแสยะอย่างขุ่นเคือง

“อาจารย์เบนตัน” เธอแสร้งทำเป็นไม่สนใจกับท่าทางของเขา “ท่านอยู่อธิบายโครงร่างเกี่ยวกับวิชาที่ฉันจะสอบตอนภาคครึ่งปีแรกนี้”

“แล้วคุณก็เลยปล่อยให้ผมคอยตอนที่คุณคุยอยู่กับอีตาลูกพรุนแห้งนั่น” เขายังต่อว่าต่อขานไม่ยอมหยุด

“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ”

“เห็นจะต้องพิสูจน์หน่อยแล้วว่าคุณรู้สึกเสียใจจริงๆหรือเปล่า” แบรดพูดเสียงเบา ความปรารถนาลุกโชนอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น

เธอหัวเราะเบาๆปล่อยมือที่โอบร่างเขาอยู่เอาวางลงบนแผงอก สัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวแรงอยู่ตรงปลายนิ้ว

“แต่เดี๋ยวคุณก็ต้องกลับไปทำงานแล้วนี่” เชียล่าว่า พยายามเลือกสรรถ้อยคำ ไม่ให้เขาคิดว่าเธอตอบปฏิเสธ

“ใช่” แบรดตอบอย่างเห็นด้วย ลดริมฝีปากลงแตะเรียวปากเธอเบาๆ “และการที่จะร่วมรักกับคุณ ผมก็ไม่อยากทำอย่างเร่งรีบด้วย”

แก้มเธอร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีแต่ไม่ใช่เพราะความอาย เพียงแต่เป็นความระทึกใจและหวั่นว่าจะแสดงความรู้สึกนั้นออกมาให้เขารู้ได้

“อย่าพูดอะไรอย่างนั้นสิ” เธอเตือนเสียงเบา

“ปรกติผมก็เข้าทำงานสายอยู่แล้ว” เขากล่าว ซึ่งยิ่งทำให้ชีพจรของเชียล่าเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นที่ประสมอยู่กับความหวั่นหวาดจากคำพูดของเขา

“ไม่เอา..”ทั้งๆที่พูดออกไปแล้วแต่เชียล่าก็ไม่แน่ใจในคำปฏิเสธนั้นเท่าใดนัก

ริมฝีปากของเขายังคงซอนไซ้อยู่กับริมฝีปากของเธอจนเชียล่าสะท้านไปทั้งร่าง และแบรดก็แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจกับสัญญาณที่เกิดขึ้นในตัวเธอ และเมื่อไม่สามารถจะทนทานกับการโลมไล้ของริมฝีปากนั้น โดยไม่ได้รับจูบที่แท้จริงจากเขา เชียล่าขยุ้มมือลงไปบนหัวแบรด

การทำเช่นนั้นทำให้เขาหันไปหาริมฝีปากของเธอ เป็นจูบที่บดขยี้ด้วยความเร่าร้อน จนเชียล่ามีความรู้สึกเหมือนตัวเองกังตกอยู่ในเปลวเพลิง ริมฝีปากของเธอเผยอออกด้วยปลายลิ้นที่แทรกซอนลงไปเหมือนจะบังคับ เป็นประหนึ่งแรงลมที่โหมกระพือพัดให้เปลวนั้นกลายเป็นเพลิงนรก ปิดกั้นทั้งเขาและเธอไว้จากโลก..แต่มันก็ยังไม่ถึงอย่างนั้นเสียทีเดียว

“เฮ้ย..มาเถอะ แบรด..!” เสียงเรียกที่ดังขึ้นบอกความกังวลใจ “นี่มันห้าโมงกว่าแล้วนะ”

ความเป็นจริงที่เย็นเยือกเหมือนน้ำแข็ง สาดซัดลงบนเนื้อตัวเชียล่าและแบรดก็ชะงักการจูบลงพร้อมกับเงยหน้าขึ้น เชียล่าถึงกับตัวสั่นเมื่อนึกขึ้นมาได้ ว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งเห็นการกระทำที่เธออยากจะปิดบังไว้ เชียล่ายินดีที่จะอยู่ในอ้อมแขนของแบรดในสถานที่ไกลจากสายตาผู้รู้เห็นมากกว่า

“เดี๋ยวช่วยบอกหัวหน้าด้วยก็แล้วกันว่าผมอยู่ที่นี่ กำลังช่วยคนสตาร์ทรถอยู่”

“ก็ได้ จะบอกให้” เสียงเดิมตอบมาอย่างไม่สงสัยอะไร “เรียกก็แล้วกันถ้าต้องการให้ช่วย”

“ผมคงไม่ต้องการความช่วยเหลือหรอกน่ะ” แบรดหัวเราะหยิ่งๆ