บทที่ 2
เสียงฝีเท้าที่เดินจากไปเบาลง เชียล่าเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างฉับพลัน แต่ความอ่อนใจจากความรู้สึกเร่าร้อนที่เขาถ่ายทอดไว้ ทำให้เธอถอยห่างจากเขาได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น พอหันหลังให้แบรดก็ตาเข้าไปคว้าเอวไว้
ลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่าอยู่บนเรือนผม เชียล่าตัวแข็งรู้สึกเจ็บตรงช่วงท้องที่เขากดไว้ แรงสัมผัสจากท่อนแขนของแบรด ราวจะเผาไหม้ลึกลงไปจนถึงเนื้อหนังช่วงนั้น
“หนักใจหรือ?”สุ้มเสียงของเขาบอกความขบขัน “ไม่เป็นไรน่า ทอมมันก็แค่เห็นเราจูบกันเท่านั้นละ ไม่เห็นมีอะไรเลย”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น” เชียล่าเบี่ยงศีรษะไปข้างหนึ่งเมื่อปฏิเสธการคิดเอาเองของเขา
แบรดถือโอกาสนั้นซุกไซ้ริมฝีปากที่ร้อนเร่าลงบนเรือนผม ไล้เลยลงไปบนต้นคอขาวผ่องกลมกลึง หัวใจเธอเต้นระรัวเมื่อฝ่ามือโลมไล้ลงตรงหน้าท้องพร้อมกับดึงร่างให้แนบชิดอยู่กับทรวงอกของเขา
“ฉันคิดว่าคุณคงไม่รู้นะคะว่ากำลังทำอะไรฉันอยู่” เชียล่าพูดเสียงเบา
“ผมทำอะไรกับคุณน่ะรึ?” แบรดเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ปลายนิ้วไล้เส้นผมไปเหน็บไว้ตรงข้างหู “คุณน่ะไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากคนช่างยั่ว เชียล่า โรเจอร์ส “ เขาต่อว่าอย่างหยาบคาย ช่วงแขนที่กระชับอยู่รอบเอวกระชับขึ้น จนเธอไม่อาจแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกกับความเป็นชายของเขาที่ทาบทับอยู่กับเนื้อหนังของเธอได้ “คุณให้คำมั่นกับผมด้วยจูบ แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆคุณก็หันหลังให้ ผมเห็นจะต้องฉุดคุณเข้าโรงแรมแล้วก็จัดการกับคุณเสียแล้ว” พร้อมกันนั้นฝ่ามือก็ตะโบมลงตรงกลางทรวงอกของเธอ
“อย่า..!”
“ผมไม่ทำหรอกน่า” แบรดจับร่างเธอหมุนให้หันมาเผชิญ สีหน้าของเขาเคร่งเรียดมีแววหวั่นฉาบอยู่บ้างแต่ก็บางเบาเต็มที “แม้ว่าในอาทิตย์หลังๆที่คุณอยากจะยอมให้ผมจัดการกับคุณตั้งหลายครั้ง แต่ก็แกล้งทำเป็นร้องอุทธรณ์ก็เถอะ อย่าปฏิเสธหน่อยเลย”
แก้มของเชียล่าร้อนผ่าวด้วยความโกรธ ความทระนงถือดีที่ที่เขาคิดว่าจะได้ตัวเธอไปง่ายๆ ทำให้เชียล่าขุ่นใจขึ้นมาทันที เพราะเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นความจริงเช่นที่เขาพูด
“ก็แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำเสียเลยล่ะ?” เธอถามอย่างท้าทาย
“เพราะอะไรน่ะหรือ..แม่เด็กน้อยขี้อ้อน..” แบรดทำเสียงล้อๆ “ก็เพราะผมไม่มีวันเต้นตามเชือกที่คุณชักเหมือนเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆของคุณหรอก ถ้าเราจะร่วมรักกันนั่นย่อมหมายความว่า คุณจะต้องเป็นคนเชิญผมเอง ไม่ใช่เพราะผมต้องทำตามบัญชาของคุณ ถ้าเราจะนอนกัน ก็ต้องเพราะคุณเป็นฝ่ายร้องขอเข้าใจไว้ด้วย ผมไม่สนหรอกว่ามันจะก่อนหรือหลังแต่งงานกัน แต่คุณจะต้องเป็นคนขอร้องผม..!”
“ทั้งหมดนั่น..”เสียงพูดของเชียล่าเหมือนสำลักในความยโสโอหังที่เปล่งออกมาเป็นวาจานั้น ว่าเธอจะต้องเป็นฝ่ายง้องอนเขา
แบรดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอเข้าและปิดปากที่ท้าทายคุณนั้นด้วยริมฝีปากของเขา เชียล่าต่อต้านอยู่เพียงครู่ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะร่ายมนต์ลง และแล้วเธอก็เอนเอียงเข้าไปหาเขาอีก ในนาทีที่ความหยิ่งของตัวเองถูกลืมเลือน
ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นแววพอใจฉายแสงอยู่ในดวงตา ขณะก้มลงมองใบหน้าที่เงยขึ้นหา ยิ้มฉาบฉวยปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“บอกสิว่าคุณรักผม” เขาพูดเหมือนจะสั่ง เหนี่ยวช่วงเอวเธอไว้
“ฉันรักคุณค่ะ” เธอตอบทันที
“และคุณสัญญาว่าจะรัก ให้เกียรติ เชื่อฟังผมด้วย”
ริมฝีปากของเธอเผยอออกเหมือนจะรับคำนั้น แต่แล้วแววสุกใสในดวงตาก็จางวูบหายไป เมื่อนึกถึงข้อขัดแย้งระหว่างตัวเองกับพ่อแม่
“ค่ะ..”เชียล่าตอบรับ หลังจากที่อึ้งไปเป็นครู่
แบรดทันสังเกตเห็นความลังเลใจและความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าที่เกิดขึ้น เขาเอนหลังหรี่ตามองหน้าเธออยู่
“ฉันพูดกับพ่อแม่เรื่องเราแล้ว..”
“และ..?” ริมฝีปากของเขาเหยียดออกเป็นเส้นตรงทันที
“พ่อกับแม่มีความคิดว่าเรายังอายุน้อย ยังไม่สมควรแต่งงานกัน” เชียล่าบอก
เขาปล่อยมือพร้อมกับผละออกจากเธอทันที แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“และพ่อแม่คุณก็คงจะพูดว่า ผมไม่ดีพอใช่ไหมล่ะ?” น้ำเสียงของเขากราดเกรี้ยวและไม่รอที่จะฟังคำตอบ “เพราะอะไรรู้ไหม..เพราะว่าผมมันจนเกินไปสำหรับลูกรักของเขา จริงไหม..ผมรู้นะที่พ่อแม่คุณไม่ชอบ ก็เพราะผมต้องเรียนถึงเจ็ดปีกว่าจะสำเร็จ แล้วมันก็เป็นความผิดของผมด้วยหรือที่เกิดมาไม่มีพ่อแม่ร่ำรวยอย่างคุณ ต้องทำงานไปเรียนไป แทนที่จะสำเร็จในสี่ปี มันก็เลยต้องใช้เวลานานขนาดนั้น”
“แบรด..โธ่..ได้โปรดเถอะ..” เธอพยายามจะระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของเขา “มันไม่ใช่อย่างนี้หรอก พ่อกับแม่คิดเพียงแต่คิดว่า มันไม่ฉลาดที่เราจะรีบร้อนแต่งงานกันเร็วเกินไป คุณก็ยังไม่ได้รับปริญญาจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิแล้วก็..”
“และเขาก็เลยกลัวว่าถ้าเราแต่งงานกันตอนนี้ เขาจะต้องมาเลี้ยงดูเรา หรือถ้าจะพูดให้มันชัดลงไปเลยก็ต้องมาเลี้ยงผมเพิ่มอีกคน ผมคิดว่าพ่อแม่คุณเขาคงจะคิดสินะว่า ที่ผมอยากแต่งงานกับคุณเพราะเงิน คุณก็รู้อยู่แก่ใจนี่ว่าเงินของเขามันทำอะไรได้บ้าง จริงไหมล่ะ?”
“นี่..มันไม่ใช่เรื่องเงินเลยนะ” เชียล่าจะรู้สึกร้าวราน เพราะการพูดเรื่องเงิน มันเท่ากับเป็นการทำร้ายแบรด “พ่อกับแม่พูดเป็นทำนองว่า เราควรจะเรออีกสักปีแล้วค่อยแต่งงานกันจะดีกว่า เพราะตอนนั้นคุณก็ได้รับปริญญาแล้ว มีงานการทำเป็นหลักฐานโดยไม่ต้องให้เมียมาคอยช่วย เวลาแค่ปีเดียวมันก็ไม่ได้ช้าอะไรนี่ โดยเฉพาะเมื่อเราสองคนก็รักกันอยู่แล้ว”
ดวงตาคมปลาบของแบรดเหมือนจะตรึงร่างเธอไว้
“บอกผมมาตรงๆดีกว่า เชียล่า ว่าพ่อแม่ของคุณเต็มใจที่จะให้ผมเป็นสามีในอนาคตของคุณหรือเปล่า?”
เธอมีท่าทีลังเลขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ สำหรับพ่อนั้นแสดงออกมาให้เห็นเลยว่าไม่เต็มใจ แต่เพราะแรงสนับสนุนของแม่เท่านั้น ข้อตกลงถึงได้กลายมาเป็นให้รอเวลาอีกหนึ่งปี เชียล่ารู้ว่าพ่อกำลังหวังว่า เธอกับแบรดจะต้องแยกทางจากกันแน่ๆภายในเวลาหนึ่งปีที่ให้รออยู่
“นั่นเท่ากับตอบคำถามของผมแล้วใช่ไหม?” เขาถามเสียงเกรี้ยว สีหน้าถมึงทึงขึ้นมาทันที
“เขาก็ไม่ถึงกับจะไม่เห็นด้วยในตัวคุณหรอกนะคะแบรด” เชียล่ารีบตอบ “แต่เป็นเพราะว่า ทั้งพ่อและแม่ไม่รู้จักคุณดีเท่ากับฉัน แล้วอีกอย่างหนึ่ง ท่านก็ยังคงคิดอยู่นั่นเอง ว่าฉันยังเป็นลูกเล็กๆอยู่ มันก้เลยออกจะยากอยู่สักหน่อยสำหรับท่าน ที่จู่ๆจะต้องเห็นฉันกลายเป็นภรรยาของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งที่จริงแล้ว ก็เท่ากับเป็นคนแปลกหน้าสำหรับท่านจริงๆเสียด้วย”
“แล้วตัวคุณเองล่ะ..อยากจะรออีกตั้งปีด้วยหรือเปล่า?”
“อ๋อ..ฉันไม่อยากแน่”
“แต่ก็ไม่เห็นคุณจะมีท่าทางเสียอกเสียใจกับไอ้ความคิดบ้าๆนั่นด้วยเลยนี่” เขายกมือขึ้นท้าวสะเอว อกเสื้อกั๊กเผยอออก
เชียล่ายกมือขึ้นในท่าแบบโกรธๆ เสียงสายสร้อยกระทบกันเบาๆ
“ก็แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ตีอกชกหัวอย่างนั้นเหรอ?
“ผมรู้นะ ว่าพ่อแม่คุณจะต้องหาว่าคนอย่างผมมันเป็นแค่นักแสวงโชคเท่านั้น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“นี่..พ่อแม่ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนะ” เชียล่าพยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งขึ้นมาไว้อย่างสุดความสามารถ “เอาละ ฉันยอมรับก็ได้ว่าพ่อยังไม่เชื่อใจคุณ แต่แม่ไม่ได้แสดงความสงสัยอะไรในตัวคุณเลย มันไม่ถึงกับเป็นการยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรคุณ”
“แล้วผมก็ควรจะต้องแสดงความขอบคุณด้วยอย่างนั้นสิ” เขาพูดอย่างเย้ยหยัน
ที่คุณควรจะต้องทำก็คือ พยายามเข้าใจอะไรๆเสียบ้าง” เชียล่าตอบห้วนๆ
แต่กิริยาที่เขาแสดงออกมานั้น บอกให้รู้ว่าแบรดไม่ได้เห็นด้วยเลย
“แล้วคุณจะทำยังไง ถ้าพ่อแม่คุณสั่งไม่ให้มาแต่งงานกับผม?” เขาถามอย่างคาดคั้น ดวงตาหรี่ลงขณะจ้องมองหน้าเธออยู่
“แต่ท่านก็ไม่ได้ทำนี่” เชียล่าทักท้วง
“ก็ถ้าเขาทำล่ะ?ไ แบรดไม่ยอมลดละ
“เอาละ ถ้าท่านทำ ฉันก็ยังจะแต่งงานกับคุณอยู่ดี” เชียล่ากัดฟันตอบ
“ใช่..ผมรู้ว่าคุณจะต้องทำอย่างนั้นแน่” หางเสียงของเขาบอกความขมขื่นแต่ก็ถูกกลับด้วยเสียงหัวเราะปร่าๆที่หลุดลอดออกมาจากในลำคอ “ผมรู้ว่าคุณเอาเรื่องเวลามาอ้าง จะได้ใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่องที่จะแต่งงานกับผม”
“ถ้าฉันจะต้องใคร่ครวญใหม่ละก็ มันก็ไม่ได้เกิดเพราะพ่อแม่มาพูดอะไรทั้งสิ้น” เธอเบี่ยงตัวออก ทำท่าจะผลจากเขา เพราะนี่คือนิสัยอย่างหนึ่งของแบรดที่เธอรังเกียจ