บทที่ 6
แบรดเอนตัวเข้ามาหา ท่าทางดูจะร้อนใจอย่างไรบอกไม่ถูก
“ที่จริง เราไม่จำเป็นต้องรอแต่งงานกันตอนนั้นก็ได้ คุรก็อายุตั้งยี่สิบแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากพ่อแม่นี่”
“ฉันรู้ค่ะว่าไม่จำเป็น..แต่..”
“การรออีกตั้งปีจะได้อะไรขึ้นมา” เขากล่อมเธออยู่เป็นนัย “เราไม่จำเป็นจะต้องมาพิสูจน์อะไรกับพ่อแม่คุณเลย ไม่จำเป็นเลย ในเมื่อเราต่างก็รักกัน ถ้าพ่อแม่ของคุณเต็มอกเต็มใจไปกับเราด้วย มันก็น่าจะรอออยู่หรอก แต่ถ้าพวกเขาจะดึงเอาไว้เพื่อสร้างเรื่องขึ้น เหมือนอย่างที่จะให้คอยตั้งปีแบบนี้ ผมคิดว่าเราแต่งงานกันได้โดยไม่จำเป็นต้องคอยอะไรเลย พอเราแต่งงานกันแล้ว เขาก็ต้องยอมรับผมอยู่เอง”
“นี่คุณกำลังพูดว่า เราควรจะหนีตามกันไปอย่างนั้นหรือคะ?” เธอกัดริมฝีปาก
“ถูกต้อง ผมไม่ต้องการรอเวลาอีกตั้งปีหรือแม้แต่อีกหกเดือนด้วยซ้ำ ต่อให้อีกอาทิตย์หนึ่งก็เถอะ”
“แต่..แล้วเรื่องเรียนล่ะ..แล้วก็ยังเรื่องงานของคุณด้วย ไม่ใช่แค่นั้นนะ หลังจากนั้นแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกัน?” เชียล่าแย้งขึ้นทันที
“ผมรู้ว่ามันออกจะลำบากสักหน่อยที่เราจะแต่งงานกันตอนนี้” แบรดยอมรับ ยกมือขึ้นลูบผมอย่างใช้ความคิด “อันที่จริงเราก็ควรจะรอถึงฤดูร้อนปีหน้า ตอนที่ผมรับปริญญาแล้ว แต่เรื่องของความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่แต่เพียงหัวใจกับความเป็นจริงเท่านั้น มันเกี่ยวกับเรื่องของความต้องการทางร่างกายด้วย” เขาถอนหายใจยืดยาว “สำหรับผู้หญิงมันอาจไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญเท่าผู้ชายก็ได้ บางทีความต้องการของคุณอาจจะไม่รุนแรงเท่าผม”
“ไม่จริงหรอกค่ะ” เธอปฏิเสธทันที “ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”
เขามองหน้าเหมือนจะค้นหาความจริงอยู่เป็นครู่
“คุณเคยรู้บ้างหรือเปล่า ว่าผมอยากจะอวดต่อสายตาชาวโลกมากขนาดไหน ที่จะได้ผู้หญิงสวยๆอย่างคุณสักคนมาอยู่เคียงข้างในฐานะภรรยา เป็นมิสซิสเชียล่า ทาวน์เซน”
“ก็มากเท่ากับที่คุณพูดออกมาน่ะสิคะ” ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า แบรดกำลังใช้ทั้งบรรยากาศโรแมนติก ความมีอำนาจหรือเจตนาที่จะแสดงความเป็นเจ้าของในตัวเธออยู่ เธอไม่เคยเห็นความเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวของเขาเช่นนี้มาก่อน จนกระทั่งในค่ำคืนนี้ที่มันทำให้เขาดูแปลกไป
“ถ้าอย่างนั้น เราก็ควรจะหนีไปเสียด้วยกัน แล้วก็แต่งงานกันวันพรุ่งนี้เลย หรือไม่ก็ไม่ควรช้ากว่าวันมะรืนนี้ เราขับรถเข้าไปในเม็กซิโกได้นี่ เมื่อไปถึงที่นั่นเราจะแต่งงานกันชั่วโมงไหนก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา”
“อันที่จริงฉันก็อยากทำอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ..แต่..” ในน้ำเสียงที่ตอบบอกความไม่แน่ใจกับการที่จะค้านคำพูดของเขาไปเสียทุกประโยค
“แต่อะไร..?” เขาก็ได้พูดทั้งอย่างมีเหตุและผลแล้ว ซึ่งเธอก็ควรจะเพียงแค่ตอบรับเท่านั้น
“ฉัน..ฉันอยากคิดเสียก่อน” การที่จะหนีตามกันดูจะเป็นคำตอบเดียวที่เขาเลือกให้เธอพูดได้ แต่เชียล่าไม่ใคร่แน่ใจว่า มันจะเป็นทางเลือกที่เหลืออยู่เพียงแค่ทางเดียวจริงละหรือ อย่างน้อยก็ยังมีหนทางที่แม่ช่วยเลือกไว้ให้
เขาจับมือที่วางอยู่บนตักมาบีบอย่างหนักแน่น
“ถ้าคุณยังห่วงเรื่องพ่อแม่ของคุณอยู่นะเชียล่า คุณก็จะต้องเลือกเอาเอง ว่าจะทำให้พ่อแม่หรือผมเสียใจ อย่าลืมว่าพ่อแม่คุณมีกันและกันอยู่แล้วนะ แต่ผมมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น”
เมื่อเขามาในรูปนี้ มันก็เหลือทางให้เธอเลือกได้เพียงแค่ทางเดียวจริงๆ เขารั้งตัวเข้ามากอด ปลายนิ้วของเชียล่าลูบไล้อยู่กับแผงไหล่ขณะมองหน้าเขาอยู่
“หนีไปกับผมเสียเถอะนะเชียล่า” น้ำเสียงห้วนๆที่เอ่ยออกมาในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเขากลับมาเป็นแบรดคนเดิมที่เธอเคยรู้จักมาแล้วอย่างดี
“ค่ะ” น้ำเสียงที่เธอตอบรับเขานั้นเหมือนไม่ประสงค์ที่จะใช้ความคิดและตัดสินใจอย่างรอบคอบอีกต่อไป
อ้อมแขนที่โอบรัดอยู่รอบร่างเพิ่มน้ำหนักขึ้น เมื่อโน้มร่างเธอให้เอนต่ำลงทันที ริมฝีปากของแบรดประทับลง ดื่มลิ้มชิมรสแห่งความหวานจากการยอมทำตามอย่างดื่มด่ำ เชียล่าอบอุ่นอยู่ด้วยไอรักที่เขาอบร่ำ มันแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง เธอไม่เคยพบกับผู้ชายคนไหนที่จะเชี่ยวชาญเร้าใจได้เท่าแบรดเลย
ริมฝีปากของเขาไล้อยู่กับเนียนแก้ม ประทับลงบนเปลือกตา บนแนวหน้าผากที่โค้งมนกลมกลึง ไรฟันขบอยู่กับติ่งหูและนวลเนื้อที่อ่อนไหวต่อการสัมผัสในทุกส่วน จนริมฝีปากเธอเผยอออกด้วยความกระหาย ความรู้สึกทั้งมวลอึงอลอยู่ในสมอง
เขาเลื่อนตัวเธอให้สูงขึ้น จนศีรษะวางลงบนหมอน จึงได้เริ่มบดขยี้ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธออีกครั้ง ขณะเดียวกันฝ่ามือร้อนเร่าก็สำรวจไปจนทั่วเรือนร่าง
เชียล่ารู้สึกตัวเมื่อปลายนิ้วของเขากำลังปลดกระดุมทรงทรวงอกเสื้อนอนเท่าที่ยังเหลืออยู่ออก แต่ตระหนักแน่ว่าตัวเองได้ปล่อยให้อารมณ์ปรารถนาเข้าครอบงำไว้ และบนเตียงนี้ก็ราวจะบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่า เหตุการณ์จะต้องดำเนินต่อไปหลังจากจูบที่เร่าร้อนนั้น
“แบรด..อย่าค่ะ..” เธอทักท้วง พยายามให้เขารู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่
“ไม่เอา” เขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจเธอ ขณะเดียวกันมือข้างที่เป็นอิสระก็ปลดกระดุมต่ออย่างชำนิชำนาญ แล้วจังได้เงยขึ้นมองหน้าเธอ ไฟแห่งความปรารถนาลุกโชนอยู่ในดวงตาคู่นั้น
“ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว เชียล่า ผมอยากร่วมรักกับคุณ..”
ตลอดเวลานั้นเขากล่อมเธอด้วยเสียงกระซิบกระซาบ มือไม้ซอนไซ้เข้าไปใต้เสื้อนอนเนื้อนิ่ม ค่อยๆเลิกมันขึ้นมาสูงจนเห็นเนื้อนวลกลางทรวงเปลือยเปล่า ซึ่งสัมผัสจากฝ่ามือเขาทำให้มันเคร่งครัดขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้
“ไม่..”เธอผลักไส
“”อย่าปฏิเสธผมเลย ฮันนี่” ริมฝีปากของเขาแตะแผ่วๆอยู่กับเรียวปากของเธอ ขบย้ำอยู่ขณะที่อุ้งมือก็โอบอุ้มเนินทรวงไว้
“หน้าอกคุณสวยเหลือเกิน ผมอยากจับต้องมัน อยากได้เห็นและได้รู้ว่ามันเป็นของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น”
นิ้วหัวแม่มือของเขาโลมไล้อยู่กับติ่งยอดทรวงหมุนวนอยู่จนมันชูชันขึ้น ร่างของเธอสั่นระริก ความรู้สึกในยามนี้เหมือนถูกย้ำทรมาน เสื้อนอนถูกถอดวางไว้ข้างตัวเหลือแต่เรือนร่างเปลือยเปล่าและเธอก็ไม่มีจิตใจที่จะต้านทานไว้ได้
แสงกระจ่างของดวงไฟส่องต้องทรวงอกขาวผ่องราวงาช้างและยอดรวงสีชมพู ดวงตาของแบรดเป็นประกายกล้า เขาก้มลงไปหายอดทรวงของเธอ เร่งเร้ามันจนชูชันยิ่งขึ้น เชียล่าครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว การขบย้ำของเขาทำให้อารมณ์เธอพลุ่งโพลงขึ้น
“คุณชอบใช่ไหม ตุ๊กตาตัวน้อย” เขาจับสายตาอยู่กับใบหน้านั้น ริมฝีปากยิ้มเหยียดเหมือนมีนัย ขณะมองเห็นแก้มแดงเรื่อขึ้นกับริมฝีปากชุ่มชื้นที่เผยออยู่
“มันดีออก จริงไหมล่ะ?”
“ค่ะ..ค่ะ..” เธอถอนหายใจอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานอย่างเหลือจะกล่าว ศีรษะเกลือกกลิ้งอยู่บนหมอน ขณะที่นิ้วเขาหยุดการเล่นอยู่กับเนินทรวง แต่กลับโอบอุ้มมันขึ้นไว้ ด้วยดวงตาหรี่เลือนเธอมองเห็นเขาก้มลงไปหายอดทรวงสีกุหลาบนั้น
“แบรด..อย่า..คุณต้องไม่ทำนะคะ” เชียล่าร้องร่ำ ขณะที่ริมฝีปากของเขาโลมไล้อยู่กับยอดทรวงของเธอ ลิ้นที่ชำนิชำนาญตวัดหนักๆวนไปมาราวกับเป็นองุ่นที่แสนหวาน ขบย้ำมันจนเชียล่าครวญครางด้วยความสุขสมอันประหลาดล้ำ อารมณ์ปั่นป่วยรัญจวนใจพลุ่งโพลงโรจน์รุ่งขึ้นจนไม่อาจสะกดกลั้นไว้ได้
เขาละจากเนินทรวงหันมาหาเรียวปากเธออีกครั้ง เป็นจูบที่ราวจะลงโทษ ทั้งเร่าร้อนและรุนแรง ป่าเถื่อนยิ่งนัก คล้ายกับเชียล่าไม่ได้รับอนุญาตให้มีความรู้สึกเร่าร้อนไปกับเปลวไฟที่กำลังผลาญเผาเธออยู่ แต่ในที่สุดแบรดก็ผงกหัวขึ้น หอบหายใจหนักๆ ดวงตาฉายแววโกรธขึ้ง
“ผมจะต้องร่วมรักกับคุณให้ได้” เขาพูดหนักแน่น “บนเตียงนอนคุณนี่แหละ ใต้จมูกของพ่อคุณเลยถึงจะสาสม”
ฝ่ามือของเขาลูบไล้อยู่กับกระดูกสันหลัง นิ้วสอดเข้าไปตรงของยางยืดของกางเกงชั้นใน รูดมันลงตามกล้ามเนื้อหน้าท้อง
“แบรด..อย่า..” ครั้งนี้เป็นการปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด แววในดวงตาของเขาที่กำลังจ้องมองเธออยู่ลุกโชนน่ากลัว
เขาใช้เข่าดันขาทั้งสองข้างให้แยกออก น้ำหนักตัวที่ทาบทับลงไปนั้นแทบจะทำให้ร่างของเชียล่าจมลงในที่นอน เธอตระหนักถึงพละกำลังซึ่งรู้ว่าเขาจะต้องใช้แน่ถ้าต้องการจะทำ
เธอได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบาๆเหมือนเสียงคำรามอยู่ในลำคอ..
“ผมจะยังไม่ร่วมรักกับคุณหรอก จะไม่ทำจนกว่าคุณจะขอผม..จำได้ไหม..” เขาเขยื้อนตัวออกห่าง “และเหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ ถึงแม้ว่าผมจะได้เป็นเจ้าของคุณ แต่ก็จะยังถือว่าคุณเป็นของผมไม่ได้ จนกว่าเราจะแต่งงานกัน บางทีอาจจะต้องใช้วิธีแบบสมัยเก่าอยู่บ้าง ว่าแต่คุณมีชุดสีขาวสำหรับสวมใส่วันแต่งงานหรือเปล่าล่ะ เชียล่าผู้แสนบริสุทธิ์ของผม?”
เธอค่อยรู้สึกคลายใจลงบ้าง ไม่รู้สึกว่าเขากำลังบังคับคุกคามอีกต่อไป