บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 ตัดพ้อ

จวนหลิน

หลินซิงเยียนยืนมองหีบที่ถูกคนของจวนสกุลลู่ยกมาวางเรียงรายหน้าเรือนหลักตาไม่กะพริบ

หลังจากสั่งให้พ่อบ้านช่วยตรวจนับ นางก็กลับเรือนมานั่งขบคิดหลายตลบก็ยังไม่พบว่า ‘คนผู้นั้น’ ใช้วิธีการใด

วันก่อนหลังจากเขารับปากว่าจะไปเป็นพยานให้ เขาก็ไล่นางกลับจวน ไม่ต้องไปแล้วที่ว่าการ ไม่ต้องถูกโบยเพื่อแลกกับการฟ้องร้อง

หลังจากลองมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ครู่หนึ่ง นางจึงพบว่าเขามีบุคลิกเหนือคน ไม่ธรรมดา เหมือนเป็นพวกบ้าบิ่นที่พร้อมจะแหกทุกกฎฉีกทุกเกณฑ์ แต่ทุกคำที่พูดและทุกการกระทำที่สื่อล้วนเชื่อถือได้ทั้งหมด

ดังนั้น นางจึงกลับมารอที่จวนตามวาจา และวันนี้ จึงได้เห็น การถอนหมั้นสำเร็จ นอกจากไม่ต้องคืนสินสอด สกุลหลินยังได้รับค่าปลอบขวัญฐานผิดสัญญาหมั้นเป็นเงินถึงห้าเท่า เขาทำได้อย่างไรกันนะ ครุ่นคิดอยู่นานก็ยังไม่รู้ หลินซิงเยียนจึงเลิกคิดไป สนใจแค่เพียงผลลัพธ์ก็พอ

นางพักผ่อนสมองโดยการเลือกอ่านตำราของพี่สาวอย่างสนใจ ทุกเล่มมีแต่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับจรรยากุลสตรีและธรรมเนียมปฏิบัติหลังเรือน น่าเบื่อไม่น้อยแต่พออ่านได้

จังหวะนั้นเสียงหน้าประพลันดัง “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกหาเจ้าค่ะ”

หลินซิงเยียนมุ่นคิ้ว สงสัยว่าจะถูกเรียกไปตำหนิเรื่องอันใดอีกเล่า นางแน่ใจว่าถูกด่าทอครบถ้วนดีแล้วนี่นา

ตอนถอนหมั้น ท่านปู่ก็ด่าจนแทบกระอักเลือดกระทั่งล้มป่วยต้องนอนพักรักษาตัวในเรือน ส่วนท่านพ่อก็เอาแต่ตัดพ้อที่ตัวเองไม่ได้ความ ปกป้องบุตรสาวได้ไม่ดี กระทั่งนางต้องคอยปลอบอยู่นาน ต้องคอยบอกว่าไม่เป็นไร แล้วก็ส่งท่านพ่อให้อนุคนงามของเขาไปดูแลต่ออีกทอด

ในขณะท่านย่าก็เอาแต่ร้องไห้แทบเป็นแทบตาย เสียดายที่ไม่ได้ดองกับสกุลลู่

ส่วนฮูหยินคนปัจจุบันของท่านพ่อน่ะหรือ?

เหอรั่วซีผู้นั้นเหมือนจะสนใจแต่น้องคนเล็กของนาง น้องชายที่เกิดจากถานเจียซิน

เฮ้อ...นับว่าดีแล้วปะไร

อย่ามายุ่งกับนางแล้วกัน ไม่เช่นนั้นเจอดีแน่!

แต่จะว่าไป เหอรั่วซีกับถานเจียซินนั้นเหมือนจะเกลียดกันอย่างยิ่ง ทั้งยังแย่งชิงความโปรดปรานตลอดเวลา ทว่าไม่ได้แย่งชิงความรักจากบิดานางหรอกนะ แต่แย่งชิงความรักความเคารพจากน้องชายต่างหาก

เท่าที่หลินซิงเยียนรู้มา สองคนนี้เคยลอบร่วมมือกันจนทำครอบครัวนางแตกแยกนี่นา ถานเจียซินเข้าหาท่านพ่อยอมเป็นอนุนอกเรือนจนมีบุตรชาย ทำให้ท่านแม่หย่าร้าง เพื่อให้เหอรั่วซีแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินเอกในภายหลังโดยการเข้าทางพี่สาวของนาง แน่นอนว่าเมื่อบุรุษผู้หนึ่งสั่นคลอน พวกเขาจึงทำตามแผนสำเร็จ แต่สุดท้ายเวรกรรมตามทัน พี่สาวของนางทำให้สองคนนั้นทะเลาะกันเรื่องแย่งบุตรชาย

ส่วนเรื่องที่นางถอนหมั้น สตรีสองคนนั้นยังร่วมกันตัดพ้อโชคชะตาไม่น้อย เฮอะ! ช่วยไม่ได้ อยากเข้ามาอยู่ในสกุลหลินเอง หลินซิงเยียนให้รู้สึกสาสมใจยิ่งนัก สมน้ำหน้า!

“คุณหนูใหญ่ ฮูหยินผู้เฒ่ารออยู่เจ้าค่ะ ท่านแต่งตัวสักหน่อยเถิด” เห็นนายสาวเงียบงันคล้ายครุ่นคิดเรื่องอื่น ไม่ลุกขึ้นเสียที เกรงว่าจะทำฮูหยินผู้เฒ่ามีโทสะ สาวใช้จึงเอ่ยสำทับอีกครา “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ รีบหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”

หลินซิงเยียนจึงเก็บตำราเข้าที่เดิม รีบลุกขึ้นไปจัดการเกล้าผมแต่งตัวด้วยชุดของพี่สาวตั้งแต่หัวจรดเท้า กิริยาท่วงท่าการเดินล้วนเหมือนพี่สาวทั้งสิ้น

เมื่อมาถึงเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า หญิงสาวก็ต้องเผชิญกับหยาดน้ำตาไม่รู้จบสิ้นของอีกฝ่าย

“คารวะท่านย่า”

หลินซิงเยียนยอบกายมารยาทดีงามไร้ที่ติ หากพี่สาวหรือท่านแม่มาเห็นเข้า ต้องตกใจมากๆ เป็นแน่

“มาแล้วหรือเจินเอ๋อร์ มานั่งใกล้ย่า มาๆ” ว่าพลางยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาที่ไม่เคยแห้งเหือดตั้งแต่ถูกยกเลิกงานหมั้น ฮูหยินผู้เฒ่ายังเสียใจอยู่มากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่จะทำให้สกุลหลินหยัดยืนต่อไปคือการแต่งงานของบุตรสาวคนโตกับบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลลู่ผู้นั้น

หลินซิงเยียนรู้สึกเห็นใจแต่นางไม่เสียใจเลยสักนิด นางเดินมานั่งลงที่โต๊ะเตี้ยอีกฝั่งห่างจากผู้อาวุโสเล็กน้อย  ก้มหน้าหลุบตานอบน้อมมีมารยาทตลอดเวลาไม่มีตกหล่น 

อ้อ...ต้องทำสีหน้าแบบคนรู้สึกผิดด้วยสินะ

น้ำสีใสเหมือนสั่งได้ มันปริ่มๆ ตรงขอบตา

“ท่านย่ามีสิ่งใดชี้แนะเจินเอ๋อร์อีกหรือเจ้าคะ” เมื่อวานนางต้องทนฟังทั้งคำตำหนิตัดพ้อด่าทอหลายแบบยิ่ง เหน็ดเหนื่อยจนหูจะฉีกอยู่แล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจมองหลานสาวคนโตที่แม้ว่ายังคงสงบเสงี่ยมมีมารยาท แต่กลับมีบางอย่างที่ทำนางอยากเกรี้ยวกราดเหลือเกิน ทว่าไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว เมื่อวานนางเขวี้ยงถ้วยน้ำชาจนหมดแล้ว หากยังทำลายข้าวของอีก ไม่รู้ว่าจะซื้อมาคืนได้ดีและแพงเท่าเดิมหรือไม่

“เจินเอ๋อร์ เจ้าควรรู้ไว้ว่ายามนี้สกุลหลินตกต่ำยิ่ง เจ้าเป็นหญิง สิ่งเดียวที่ช่วยได้มีเพียงงานมงคลที่ดีเท่านั้น เจ้าเข้าใจหรือไม่? แล้วดูสิ แค่เรื่องคุณชายลู่แอบมีคนอื่น เจ้าถึงกับรับไม่ได้ อย่างไรเสียพอแต่งงานเข้าไปอยู่สกุลเขา หลังเรือนก็ต้องมีอนุภรรยาอยู่ดี แค่นี้เหตุใดถึงไม่ยอมความ การถอนหมั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย แล้วต่อไปเจ้าจะทำอย่างไร สกุลหลินจะเชิดหน้าชูตาได้อีกเมื่อใด? จะล่มสลายหรือไม่”

ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงพร่ำบ่นยาวเหยียดเหมือนเดิม หลินซิงเยียนลอบกลอกตา ค่อยๆ เอ่ยปลอบเสียงหวานแผ่ว “ท่านย่า การถอนหมั้นครั้งนี้ สกุลหลินไม่เสียเปรียบนี่นา สินสอดไม่ต้องคืนสักหีบ ทั้งยังได้ค่าปลอบขวัญตั้งเยอะ”

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ชื่อเสียงต่างหากที่สำคัญ เจ้าด่างพร้อยไปแล้วขนาดนั้น ภายหน้ายังจะหาสามีจากสกุลดีได้จากใดกัน เรื่องแต่งงานคือชีวิตของสตรีรู้หรือไม่? ยามนี้สกุลหลินเรามีเพียงเจ้า การแต่งงานของเจ้าคือความหวังเดียวที่จะกอบกู้สกุลหลิน อาศัยครอบครัวสามีเจ้า ถึงจะเชิดหน้าชูตาได้ แล้วดูตอนนี้สิ พังไม่เป็นท่าแล้ว”

หลินซิงเยียนก้มหน้ารับฟังเสียงพร่ำบ่นเรื่องเดิมอย่างเงียบสงบและสุขุมเจียมตนเฉกคนนุ่มนวลอ่อนโยน ทำอย่างไรได้ หากนางลุกขึ้นเถียงตามแบบฉบับของตัวเองความลับแตกแน่นอน

พี่สาวสุดที่รักของนางเป็นกุลสตรีไร้ปากเสียงนะ!

ไม่รู้ว่าท่านย่าที่กำลังบ่นยาวเหยียดสิ้นสุดที่ตรงไหน หลินซิงเยียนเผลอหลับไปสะดุ้งตื่นเบาๆ เมื่อสาวใช้ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้

“อะไรหรือเจ้าคะ?” นางถามผู้อาวุโส

ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงเช็ดน้ำตาสีหน้าเหน็ดเหนื่อยมาก “คือสิ่งที่เจ้าต้องรู้ไว้จะได้เตรียมตัวไปร่วมงานเลี้ยงในวัง ครั้งนี้จัดขึ้นที่ตำหนักของพระสนมเหลียนเฟย ย่าได้ข่าวว่างานนี้องค์ชายสี่ประทับอยู่ด้วย สตรีทั่วเมืองล้วนตื่นเต้นยินดี ต่างตระเตรียมความสามารถศาสตร์สตรีและเพิ่มความงามไปประชันขันแข่งเพื่อหมายมั่นเอาชนะพระทัยองค์ชายสี่ เจ้าก็ต้องเข้าร่วมเช่นกัน”

หะ! การประลองฝีมือหลินซิงเยียนล้วนชมชอบ แต่การประชันความงามเนี่ยนะ? ไม่ใช่ทางอย่างยิ่ง!

“ท่านย่า ข้าจะทำได้หรือเจ้าคะ?”

“เจ้าย่อมทำได้ หากไม่นับเรื่องถอนหมั้นจนเสียชื่อ ความงามของเจ้าไม่น้อยหน้าใคร ความสามารถก็เช่นกัน เอาล่ะ สิ่งที่เจ้าพึงระวังย่าเขียนใส่กระดาษให้แล้วจนสิ้น จงกลับไปท่องจำให้ขึ้นใจ รวมถึงการเตรียมตัวเพื่อประชันความสามารถศาสตร์สตรี เจ้าต้องฝึกซ้อม ทำออกมาให้ดี อย่าลืมดูแลบำรุงผิวพรรณให้งดงามเฉิดฉายดั่งหยกสลักยิ่งกว่าเดิม บางทีองค์ชายสี่ผู้สูงศักดิ์อาจพึงใจในตัวเจ้าก็เป็นได้ จงอย่าลืมว่าเจ้าแบกความหวังของตระกูลหลินเอาไว้”

นี่กระมังวาจากรอกหูที่พี่สาวของนางได้ยินทุกวัน จนกลายเป็นสตรีที่ยึดติดยากหลุดพ้นเช่นนั้น

หลินซิงเยียนให้นึกเห็นใจพี่สาวของตัวเองอย่างยิ่ง  ยามนี้นางกำลังสลับตัวให้พี่จึงมีเพียงต้องก้มหน้าน้อมรับแล้วกลับออกมาจากเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าอย่างสงบเสงี่ยม ไม่เคยแม้แต่จะคิดเงยหน้าโต้แย้งอันใดทั้งสิ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel