เสน่หาบุปผาวสันต์ (คู่หมั้นคู่หมาย)

126.0K · จบแล้ว
หลี่หง
82
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

การมีคู่หมั้นคู่หมาย ชีวิตช่างวุ่นวาย หาความสงบสุขมิได้ *** เพราะต้องการช่วยพี่สาวจัดการกำจัดคู่หมั้นเจ้าชู้ให้พ้นทาง นางจึงพลาดพลั้งไปกับความสัมพันธ์ที่ยากจะปฏิเสธ ทั้งที่แน่ใจว่าเราไม่รู้จักกันและไม่มีเหตุใดต้องสานสัมพันธ์ต่อจากวันนั้น ทว่ายิ่งหนีเหมือนยิ่งเจอ ยิ่งปฏิเสธยิ่งกลายเป็นพัวพันไร้หนทางให้เอ่ยปากไม่ยอมรับ "เจ้าไม่ใช่สตรีที่ขืนใจข้าวันนั้นจริงหรือ?" "ไม่ใช่แน่นอน ท่านจำคนผิดแล้ว" "เช่นนั้นเจ้าเป็นใครอย่าบอกว่าคือน้องสาวฝาแฝด" หญิงสาวอึ้ง หากบอกว่าใช่นั่นคือยอมรับ หากบอกว่าไม่นั่นคือใส่ร้ายพี่สาวตัวเองชัดๆ แย่แล้ว... ชายหนุ่มไม่สนอาการบื้อใบ้ จะใช่หรือไม่ นางตรงหน้าย่อมไม่ผิดตัว "เจ้าต้องรับผิดชอบข้าตลอดชีวิต..."

นิยายจีนโบราณนางเอกเก่งรักหวานๆนักวรยุทธรักแรกพบจีนโบราณโรแมนติกพระเอกเก่งเทพสงครามนักรบ

โปรย

นางคือบุปผา ให้ความรู้สึกแสบตา

เปรียบดั่งทิวา เบิกฟ้าสาดแสง

ร้อนแรงยิ่งกว่าวสันต์

เปรียบประดุจดวงตะวัน

ให้ค่ำคืนเหมันต์ มิต้องเหน็บหนาว

ถึงคราวชิดใกล้ มิอาจลาร้าง

ไม่มีคราใดไม่แพ้ทาง

เพราะนางคือคนของใจ

ตั้งแต่วันแรกที่พบพาน

*

*

*

*

*

“องค์ชายสี่ผู้นั้นเป็นบุรุษที่ไม่ควรเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง เขามิใช่แค่เย่อหยิ่งเย็นชา แต่เป็นจอมทัพที่บ้าบิ่นไร้เหตุผล ถือตนว่าสูงส่งจนใครที่อยากเอื้อมถึงล้วนยากที่จะเอื้อมได้ มีสตรีมากมายต้องการเข้าหา ปรารถนาแต่งกับเขา ถึงขั้นจัดงานเลี้ยงท้าประชันความงามแข่งขันศาสตร์สตรี แต่เขากลับเลือกเจ้าที่ไม่มีทักษะพื้นฐานของกุลสตรี”

คนถูกถามยังคงเงียบ เสมองไปทางอื่นอย่างมิอาจสู้สายตาพี่สาวได้

หลินเล่อเจินจับมือน้องสาวมากุมแผ่วเบา “น้องพี่ สิ่งที่ทำให้แปลกใจมิใช่เขาเลือกเจ้า แต่เป็นเจ้าต่างหากที่ยอมให้เขาเลือก นิสัยเจ้าไม่เคยยอมใคร หากเขาบ้าบิ่น เจ้ายิ่งบ้าระห่ำมากกว่า หากบอกว่าเขาบังคับหมั้นกับเจ้า มิสู้บอกว่าเจ้าขืนใจเขาก็เลยต้องรับผิดชอบต่างหาก เล่ามา เรื่องของเจ้ากับเขาเป็นมาอย่างไร”

คนถูกถามย้ำๆ พลันถอนหายใจ ค่อยๆ เล่าเสียงเบา “วันนั้นข้าวางยาลู่อวิ้นกับหญิงชู้เพื่อหาหลักฐานถอนหมั้น แต่กลับโดนยาเล่นงานเสียเองจึงไปหลบในห้องหนึ่ง ใครจะรู้ ว่าเขาจะอยู่ในนั้น ทั้งกำลังเปลือยเปล่าเพราะอาบน้ำ...”

ไม่ต้องเล่าต่อก็พอคาดเดาได้คร่าวๆ

คนเป็นพี่ชะงัก “ซิงเยียน เจ้าบังคับขืนใจเขาจริงๆ”

หลินซิงเยียนยิ่งฟังยิ่งหน้าม้าน รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดินแล้ว...