ตอนที่ 3 เรื่องน่าอาย
ระดูนับเป็นเรื่องน่าอายของสตรีทุกคน แม้แต่สามีที่นอนด้วยกันทุกคืนยังไม่เคยได้เห็นเลย
ดังนั้น หากคนที่บังเอิญได้เห็นเป็นบุรุษแปลกหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าน่าอายแทบแทรกแผ่นดินปานใด
ติงยวี่ถิงสงสารสหายเป็นที่สุด แต่ตอนนี้นางหัวเราะจนตกเก้าอี้แล้ว
“ฮ่าๆ โอ๊ย!”
เก้าอี้ไม่หักแต่บั้นท้ายเกือบหัก กระนั้นยังคงหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง
หลินซิงเยียนยกมือปิดใบหน้าตัวเองอย่างกลัดกลุ้ม “เห็นหรือไม่? น่าอายปานใด”
ดวงตากลมของติงยวี่ถิงแปรเปลี่ยนไปหลากหลาย ประเดี๋ยวเผยแววโล่งใจ ประเดี๋ยวเผยแววหนักใจ
“สรุปแล้วเจ้าเสียการควบคุมตัวเองเพราะยาของข้าหรือเพราะความสง่างามของเขากันแน่”
หลินซิงเยียนปาดน้ำตา “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ยังรู้สึกร้อนรุ่มไปหมดทั้งตัว ภาพแผงอกกำยำของเขาก็จู่โจมเข้าสมองไม่หยุด” นางบอกสหายตามตรงอย่างไม่คิดปิดบัง คนฟังพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
จากนั้น ติงยวี่ถิงก็รีบลุกขึ้นไปต้มยามาใหม่ ไม่นาน ก็วิ่งกลับมายื่นถ้วยยาให้สหาย “เอาล่ะ กินซะ”
หลินซิงเยียนเงยหน้าจากฝ่ามือตน “ยาอะไร”
“ยาถอนพิษตกค้างจากอารมณ์ปลุกกำหนัดน่ะสิ แม้เจ้าจะกัดตัวเองและอับอายจนกลบฤทธิ์ยา ทว่าอีกเดี๋ยวยาอาจออกฤทธิ์อีก ข้ากลัวเจ้าจะจับคนงานร้านยาของข้าขืนใจจนเสียงานเสียการ”
หลินซิงเยียนรีบรับถ้วยยามาดื่มดังอึกๆ ทันที พริบตายาน้ำสีข้นรสขมพลันหมดถ้วย ไม่นาน อารมณ์ราคะก็หมดไปไม่มีเหลือ แต่ภาพบางอย่างกลับไม่เจือจาง
ติงยวี่ถิงรีบถาม “เจ้าเก็บแผ่นซับระดูมาแล้วใช่ไหม หรือว่าทิ้งไว้ให้คนผู้นั้นดูต่างหน้า”
“เก็บมาแล้ว ใส่ไว้ที่เดิมนี่แหละ”
ติงยวี่ถิงส่ายหน้าถอนหายใจโล่ง “เอาล่ะ ทีนี้เจ้าเล่าให้ฟังหน่อย เป็นมาอย่างไร แล้วผู้แซ่ลู่กับหญิงแซ่กู้เล่า”
หลินซิงเยียนจึงค่อยๆ เล่าเรื่องราวให้สหายฟัง
เริ่มจากรู้เรื่องคู่หมั้นของพี่สาวเป็นแค่ผู้ดีจอมปลอม นางจึงคิดช่วยทุกทาง กระทั่งลักพาตัวพี่ไปสำนักวิหคบุปผา
จากนั้นตัวนางเข้าร่วมประลองฝีมือเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสะใภ้สำนักพยัคฆ์เมฆา
เมื่อทำสำเร็จแล้ว นางจึงกลับมาหาวิธีถอนหมั้นกับว่าที่พี่เขยผู้ชั่วช้าและจัดการหญิงชู้แพศยา
คุณชายลู่กับแม่นางกู้คือชายหญิงที่หลินซิงเยียนวางยาให้พวกเขามีสัมพันธ์ลึกซึ้งในโรงเตี๊ยมยู๋อี้นั่นเอง
หลินซิงเยียนเป็นน้องสาวฝาแฝดของหลิวเล่อเจิน
ส่วนลู่อวิ้นผู้นั้นก็เป็นคู่หมั้นของหลิวเล่อเจิน
หนึ่งปีที่คบหาล้วนไร้ความหมาย เมื่อชายผู้นั้นได้พบเจอแม่นางกู้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
เขาถึงขั้นซ่อนเรือนทองคำ ลักลอบมีสัมพันธ์ลับๆ กับหญิงแซ่กู้ทุกราตรี
หลินซิงเยียนเอาข่าวนี้ไปบอกพี่สาวแล้ว
แต่อีกฝ่ายทำเพียงก้มหน้ายอมรับชะตากรรม เห็นแก่ผลประโยชน์สกุลหลินเป็นสำคัญ
นางจึงต้องการถอนหมั้นให้พี่สาว โดยการปลอมตัวเป็นพี่แล้วดำเนินการตามแผนทันที
หลินซิงเยียนสืบจนรู้ว่าพวกเขาจับมือสัญญากัน หลังจากลู่อวิ้นแต่งหลิวเล่อเจินเป็นภรรยา แม่นางกู้ที่เป็นบุตรสาวอนุจะยินยอมเป็นแค่ฮูหยินรองให้ลู่อวิ้น
เรื่องหลังเรือนให้เป็นหน้าที่ของภรรยา ส่วนพวกเขาก็แค่รักกันอย่างมีความสุข
ทั้งสองถึงขั้นพูดคุยวางแผนเอาไว้ว่าหากภรรยาอย่างหลิวเล่อเจินไม่ยินดีรับอนุให้สามีทันทีหลังแต่งงาน เขาจะเลี้ยงดูเป็นกู้เหมยเป็นอนุนอกเรือนไปก่อนสักปีสองปี
พวกเขาเคยนัดเจอกันที่โรงเตี๊ยมยู๋อี้ก่อนนี้สามครั้ง เพียงแต่แค่ดื่มกินด้วยกันเท่านั้น ไม่ถึงขั้นเกินเลย เวลาที่มีคนเห็นจึงคล้ายเป็นเพียงสหาย ยากเอาผิดได้
ยาปลุกกำหนัดถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างไม่ลังเล เพื่อรอวันที่พวกเขานัดเจอกันอีก
และวันนี้ก็มาถึง แผนการของนางก็อย่างที่เห็น
ปล่อยควันกำยานที่มียาปลุกกำหนัด ให้พวกเขาสนิทสนมแน่นแฟ้นบนเตียงนอนและนางก็หาคนมาร่วมเป็นสักขีพยานรู้เห็น
ลู่อวิ้นกับกู้เหมยย่อมสมหวัง ได้แต่งงานกันในทันที พิธีหมั้นของพี่สาวฝาแฝดต้องไม่เกิดขึ้น
ติงยวี่ถิงเท้าคางมองสหาย ค่อยๆ เปรยเสียงหวานว่า “ข้าไม่สนใจผู้แซ่ลู่กับแม่นางกู้อะไรนั่นแล้วล่ะ ข้าอยากรู้เรื่องบุรุษแปลกหน้าที่ได้เห็นเจ้าทุกส่วนอย่างลึกซึ้งมากกว่า เขาเป็นใคร หล่อเหลาหรือไม่ รูปร่างงดงามมากหรือเปล่า”
หลินซิงเยียนมองค้อน ก่อนค่อยๆ เล่าย้อนไปตั้งแต่ตอนที่วางยาสองคนนั้นด้วยเสียงสั่นเทาหมดความมั่นใจ ภาพเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันงดงามแต่ร้อนแรงที่มีแรงดึงดูดมหาศาลของคนผู้นั้นถูกละเอาไว้อย่างไม่ยอมรับ
หลังจากวางยาเสร็จแล้ว นางลอบออกจากห้องพักของสองคนนั้น แล้วซ่อนตัวเพื่อสังเกตการณ์และรอคอยจังหวะเหมาะๆ เข้าไปเปิดโปงคู่ชู้โดยเลือกห้องที่อยู่ติดกัน
ระหว่างนั้นเห็นมีจานขนมวางอยู่จึงหยิบกินชิ้นหนึ่ง คิดแค่ว่าขอกินหน่อยระหว่างรอพวกนั้นมีอะไรกัน
ขณะรอคอยจังหวะพอเหมาะพอเจาะเพื่อวิ่งออกไปประจานได้ทันท่วงที นางใช้เวลานี้เดินสำรวจห้องเล็กน้อย
ได้ข่าวว่าห้องนั้นเป็นห้องพักแบบพิเศษสำหรับลูกค้าประจำท่านหนึ่งซึ่งเหมาผูกรายปี
และเขาแทบไม่ค่อยมาพัก คิดว่าน่าจะไม่มีใครอยู่
ที่ไหนได้ กลับมีคนอยู่ อีกทั้งฝั่งที่นางเข้าไปยังเป็นห้องอาบน้ำ และเจ้าของห้องก็กำลังแช่ตัวอยู่ในถังไม้
ยาปลุกกำหนัดของสหายเป็นแบบผงโปรยลงกระถางกำยาน ละอองจึงติดปลายนิ้วของนางอย่างมิตั้งใจ เผลอหยิบขนมกินไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่นั่นแหละ! ผลกรรมของการวางยาผู้อื่น!
นางเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอย่างช่วยมิได้
เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มกำลังเปลือยกายแช่น้ำแบบนั้น นางที่ถูกยาปลุกกำหนัดเล่นงานมีหรือจะต่อต้านได้
ไฟราคะลุกโหมกอปรกับตัวนางมีกำลังวังชาตามประสาคนฝึกวรยุทธ์ การฉุดดึงหมายฉีกทึ้งเหมือนเสือร้ายหิวกระหายจึงเกิดขึ้น
หลินซิงเยียนทั้งกอดทั้งจูบ รั้งบุรุษผู้นั้นให้อยู่ใต้ร่าง ทั้งลากเขามาทำบัดสีบนเตียงนอนครู่ใหญ่ เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกถอดจนสิ้น ทั้งนางและเขาล้วนเปลือยเปล่าเผยทุกส่วน แต่สุดท้ายนางก็พยายามครองสติจนได้ ทั้งกัดลิ้นตน กัดเขา และกัดแขนตัวเองจนเป็นรอยฟังฝังลึกถึงดึงสติตัวเองสำเร็จ
ไม่ง่ายเลยกว่าจะประคองสติสวมเสื้อผ้าครบถ้วนแล้วออกไปประจานคู่หมั้นกับชู้รักได้
เล่าจบก็ฟุบหน้าลงบนโต๊ะอีกครั้ง อับอายเหลือเกิน สตรีผู้หนึ่งผ่าเผยโอหังไม่เคยไม่มั่นใจในตัวเองเลยสักครั้ง ชั่วชีวิตไม่เคยรู้สึกอับจนหนทางมากมายปานนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถิด...
เห็นสภาพสหายติงยวี่ถิงจึงตบบ่าลูบหลังปลอบใจ
“เฮ้อ...เอาล่ะๆ เจ้าบอกเองว่าเขาคือบุรุษแปลกหน้า ชาตินี้คงไม่มีทางบังเอิญเจอกันอีกกระมัง?”
“อือ...ข้าก็หวังเช่นนั้น”