บท
ตั้งค่า

ไม่เคยรังแกใคร

"พ่ะย่ะค่ะ ของคุณหนูเจี้ยนหลิงมองเพียงครู่ก็รู้ว่าความสามารถด้านงานเย็บปักไม่ธรรมดาไหนใครๆ ต่างพูดกันว่า คุณหนูใหญ่เจี้ยนหลิงองอาจเช่นดังบุรุษอีกทั้งยังฉลาดเกินใคร เช่นนี้ก็พูดได้ว่าความสามารถรอบด้าน ส่วนคุณหนูรองเสี่ยวหลินงดงามอ่อนหวานงานปักชิ้นนี้จึงดูไม่เบื่อ ยากที่จะตัดสินให้ใครแพ้ชนะ"หยางฟงหยางฮ่องเต้ยิ้ม

"หลินเสี่ยวหลิน ลวดลายบนผ้าของเจ้าสื่อความหมายเช่นไร"

เสี่ยวหลินยิ้มอ่อนหวานดวงตาเป็นประกายน่ามอง อีกทั้งใบหน้าที่งดงามอ่อนหวานนั้นชวนให้หลงใหลที่สุด

"ฝ่าบาท..ลวดลายบนผ้า มังกรขี่หลังหงส์ที่คอยส่งเสริมให้มังกรอยู่บนจุดที่สูงสุดเปรียบดังไท่จือเฟยที่ส่งเสริมไท่จือแม้จะต้องแบกรับความยากลำบากก็ต้องพร้อมที่จะส่งเสริมสามี สีสันมังกรที่แม้ไม่ได้สดใสหรือสะดุดตาเท่าหงส์นั่นเป็นเพราะ ไม่ว่ามังกรจะสำคัญแค่ไหนหงส์ก็ล้วนแต่สำคัญเช่นกัน ไม่มีหงส์จึงไม่มีมังกร แต่มังกรก็ย่อมจะสูงส่งกว่าหงส์"

ฮ่องเต้พยักหน้า เหล่าขุนนางต่างยิ้มกับคำตอบที่เสี่ยวหลินพูดออกมา ล้วนเป็นความจริงอย่างที่สุดการแต่งตั้งไท่จือเฟยจึงต้องคำนึงถึง ทั้งความเหมาะสมและชาติตระกูลของไท่จือเฟยที่จะส่งเสริมไท่จือไปพร้อมกัน แม้ไท่จือเฟยจะเป็นเพียงแค่บุตรีขุนนางก็ตาม

"เจ้าเล่าหลินเจี้ยนหลิน ลายปักบนผ้าของเจ้า มีความหมายเช่นไร"

"ฝ่าบาท"เจี้ยนหลิงประสานมือแทนที่จะย่อกาย

"ลวดลายบนผ้าของข้า หมายถึงการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ไท่จือสูงส่งทว่าเหยียบย่ำคนข้างกายจึงไม่เหมาะนัก ไท่จือกับไท่จือเฟยหากประสานร่วมแรง จึงจะช่วยคลายกังวลให้กับฝ่าบาทได้มาก อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างให้กับราษฏรเช่นนั้นการคนที่จะมารั้งตำแหน่งไท่จือเฟยต้องเป็นคนที่พร้อมเคียงข้างหนักเบาไม่เกี่ยงงอนอาศัยเกื้อกูลสามีอีกทั้งไท่จือเองก็จะต้องผ่อนหนักเบาเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เหมือนลวดลายบนผ้าที่ต่างสำคัญ เท่าๆ กันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครเหนือกว่าใคร"ฮ่องเต้ถอนหายใจ

"ครั้งนี้ให้หลินเจี้ยนหลิงเป็นฝ่ายชนะด้วยลายปักในผ้าถูกใจข้ายิ่ง อีกทั้งคำพูดคำจาของนางล้วน ถูกแปดในสิบส่วน"

"การปักผ้าเป็นคุณหนูใหญ่หลินเจี้ยนหลิงเป็นฝ่ายชนะ"

เพ่ยตงขยับเปลี่ยนอิริยาบถ เจี้ยนหลิงยังมีสีหน้าเรียบเฉยแต่ภายในใจโล่งอกยิ่งนัก ผิดกับเสี่ยวหลินที่รู้สึกผิดหวังอย่างที่สุดเพราะเห็นได้ชัดว่าเจี้ยนหลิงไม่เคยได้ฝึกฝนการเย็บปัก ปกติงานพวกนี้ล้วนเป็นของเสี่ยวหลินกับมารดา แต่เจี้ยนหลิงมีหน้าที่เพียงร่ำเรียนกลยุทธ์ต่างๆ ดั่งเช่นบุรุษ หาใช่สิ่งที่หญิงงามควรทำไม่

"ต่อไปเป็นการประลองเพลงกระบี่ ครั้งนี้คุณหนูทั้งสองจะต้องประลองฝีมือด้านการต่อสู้ ใครทำกระบี่หลุดมือเสียก่อนนับว่าพ่ายแพ้แก่คนที่สามารถถือกระบี่ไว้ในมือ เตรียมพร้อม"

เสี่ยวหลินหันหน้าหันหลังหลายปีมานี้แม้จะได้ร่ำเรียนเพลงกระบี่หลังจากที่เจี้ยนหลิงขอร้องให้เสี่ยวหลินออกมาฝึกวิชากระบี่ไว้เพื่อป้องกันตัวแต่หาได้คืบหน้าไม่ ไม่เกินสามกระบวนท่าต้องพ่ายแพ้ให้กับเจี้ยนหลิงอย่างแน่นอน

"ฝ่าบาท เจี้ยนหลิงรู้ดีว่าน้องสาวเสี่ยวหลินไม่อาจเอาชนะเจี้ยนหลิงได้ ซึ่งการประลองเพลงกระบี่ครั้งนี้จึงไม่เป็นการยุติธรรม น้องเดิมปักผ้าเย็บถุงหอมไม่เคยได้ออกไปไหน ผิดกับเจี้ยนหลิงที่พอจะเคยมีโอกาสได้ถือกระบี่บ้างเป็นครั้งคราวอีกอย่างเสี่ยวหลินอ่อนแอตั้งแต่เด็กๆ นางแค่ถือกระบี่ยังไม่มีแรงเช่นนั้นการประลองครั้งนี้ขอเป็นเจี้ยนหลิงที่ต้องประลองกับ.กับ....ไท่จือ"ฮ่องเต้เลิกคิ้วสูง

หันไปกระซิบกระซาบกับขันที่ข้างกาย

“ได้ ตามไท่จือที่ลานประลอง”

องครักษ์ประสานมือออกจากลานประลองไปในทันที เสี่ยวหลินยืนก้มหน้าอยากจะคัดค้านแต่อีกใจกับคิดว่าเป็นการดี หากเสี่ยวหลินแพ้ถึงสองครั้งทั้งเพลงกระบี่และารปักผ้า ก็คงหน้าอายไม่น้อยแต่หากว่าเจี้ยนหลิงแพ้ไท่จือนั่นก็เท่ากับยังพอมีโอกาส อยู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนสับปลับในเมื่อพูดกับเจี้ยนหลิงว่าไม่ต้องการแต่งกับไท่จือตั้งแต่ต้นแต่ทำไมเมื่อถึงคราวต้องประลองกับรู้สึกว่าหลายอย่างไม่ยุติธรรม ใครกันเป็นคนเสนอให้มีการประลองหากไม่มีคนเสนอ คาดว่าป่านนี้เสี่ยวหลินคงได้แต่งกับไท่จือไปแล้ว

“เพลงกระบี่ของไท่จือร่ำเรียนมาจากท่านปรมาจารย์ของแคว้นเหวิ่น เจ้าคิดว่าจะประมือกับไท่จือได้สักกี่กระบวนท่า ข้าจะได้กำหนดกติกาขึ้นเสียใหม่เพื่อจะได้ไม่

ต้องมีการบาดเจ็บ เพราะการประลองครั้งนี้แค่เพียงอยากให้เจ้าทั้งสองได้แสดงความสามารถ ให้เหล่าขุนนางและราษฎรได้เห็นว่าไท่จือเฟยมิได้ได้มาเพราะเป็นแค่เพียงบุตรีของขุนนางใหญ่เท่านั้น ล้วนต้องอาศัยความสามารถเช่นกัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel