เสน่หานางมารหน้าใส

85.0K · จบแล้ว
จันทร์ส่องแสง
67
บท
6.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“พี่สาวข้าไม่อยากแต่งกับไท่จือ”หลินเสี่ยวหลิน ทำสีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนกับจะตายดับลงตรงหน้า “ ท่านพ่อหมายมั่นให้เจ้าจะต้องแต่งกับไท่จือ”หลินเจี้ยนหลิงเอ่ยเรื่องจริงที่ถูกวางไว้แล้วไม่มีทางเป็นอื่น “ท่านพ่อคงเห็นว่าข้าไร้ซึ่งปากเสียง ต่างจากท่านที่มักจะเก่งกาจเกินหญิง ท่านมีความสามารถรอบด้าน มีคนนับหน้าถือตามากมายอีกทั้งยังกล้าที่จะต่อคำท่านพ่อ ชีวิตท่านจึงไม่ต้องถูก ….กดดันเช่นข้า”

นิยายจีนโบราณนิยายสืบสวนสอบสวนแม่ทัพนางเอกเก่งพลิกชีวิตโตมาด้วยกลอุบายในวังจีนโบราณ

ปฐมบท

“พี่สาวข้าไม่อยากแต่งกับไท่จือ”

หลินเสี่ยวหลิน ทำสีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนกับจะตายดับลงตรงหน้า

“ท่านพ่อหมายมั่นให้เจ้าจะต้องแต่งกับไท่จือ”

หลินเจี้ยนหลิงเอ่ยเรื่องจริงที่ถูกวางไว้แล้วไม่มีทางเป็นอื่นก็ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นและจะเป็นเช่นนั้น

“ท่านพ่อคงเห็นว่าข้าไร้ซึ่งปากเสียง ต่างจากท่านที่มักจะเก่งกาจเกินหญิง ท่านมีความสามารถรอบด้าน มีคนนับหน้าถือตามากมายอีกทั้งยังกล้าที่จะต่อคำท่านพ่อ ชีวิตท่านจึงไม่ต้องถูก ….กดดันเช่นข้า”น้ำเสียงตัดพ้อจนน่าสงสารหลินเจี้ยนหลิงก็ยังคงสงสารนางเช่นเดิมสินะ

“เจ้าดีกว่าข้ามากนักเสี่ยวหลิน อย่างน้อยมารดาของเจ้าก็ไม่บังคับให้เจ้าทำเรื่องที่หนักเกินไป ข้าแต่เดิมต้องอ่านหนังสือจนดึกดื่น ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อที่จะมาท่องตำราแล้วยังต้องเก่งเหนือใคร ส่วนเจ้ามารดาของเจ้าแม่เล็กแค่เพียงให้เจ้าเย็บถุงหอม ทำน้ำอบก็เท่านั้น"

“แล้วทำไมต้องเป็นข้า เดิมข้าอยู่แบบนี้ก็มีความสุขแล้ว ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเล่นผิดกับท่านที่วันๆ ขี่ม้าล่าสัตว์ฝึกกระบี่ ยิงธนูล้วนมีแต่เรื่องที่สนุกสนาน”

“เสี่ยวหลินกว่าข้าจะได้มีชีวิตอิสระเจ้ารู้หรือไม่ข้าต้องผ่านอะไรมาบ้าง เคยถูกท่านแม่ตีจนปางตาย ถูกท่านพ่อเคี่ยวเข็ญจนจะกลายเป็นยอดคน หากเปลี่ยนกันได้ข้าขอเป็นเจ้าดีกว่า แม่เล็กรักเจ้าดูแลทะนุถนอม ท่านพ่อก็ไม่เคยให้เจ้าทำเรื่องที่เกินกำลังด้วยเห็นว่าสุขภาพเจ้าไม่สู้ดีนัก”

“พี่สาวนั่นอย่างไรเล่าท่านจึงได้กล้าแกร่งไม่กลัวใคร อีกทั้งยังสามารถจัดการเรื่องหนักเบาได้หมดจด”เสี่ยวหลินพูดเรื่องที่ใครๆต่างรู้ดี

“เอาน่า เจ้าแต่งเป็นไท่จือเฟยข้าก็จะได้อาศัยเจ้าเข้าไปเที่ยวชมวังหลวงบ้าง ท่านพ่อร้อยวันพันปีไม่เคยบังคับเจ้า มาครั้งนี้ท่านพ่อคงมีเหตุผลไม่น้อย"

“พี่สาวข้าขออยู่กับท่านอย่างนี้กว่า อย่างน้อยท่านก็พอได้เป็นที่พึ่งช่วยเหลือยามยาก”

น้ำเสียงอ่อนหวานออดอ้อนเหมือนที่เคยทำประจำเวลาที่นางอยากจะได้สิ่งใดทาง

เดียวที่นางทำคืออดอ้อน

“คุณหนูใหญ่เจี้ยนหลิง ฮูหยินใหญ่เรียกหาท่าน”

หลินเจี้ยนหลิงยิ้มให้น้องสาวต่างมารดา ด้วยรอยยิ้มปลอบประโลม

“เฮ้อ... เห็นไหมอย่างน้อยเจ้าก็ไม่ถูกแม่เล็กเรียกหาบ่อยๆ เหมือนที่ท่านแม่เรียกหาข้า ”

ก้าวขาออกจากห้องไปที่ห้องนอนของมารดาหรือฮูหยินใหญ่ของบ้านหลิน

“เจี้ยนหลิง นั่งลงสิ เจ้าออกไปปิดประตูให้ข้าด้วย”

ท้ายประโยคหันไปหาสั่งสาวใช้ สาวใช้ให้ออกจากห้องไป หลินเจี้ยนหลิง วางกระบี่ข้างกายแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ต่างระดับลงมาจากที่ฮูหยินหลินนั่งอยู่

“เจ้ารู้ไหม เมื่อคืนข้าเฝ้าครุ่นคิดกังวลนอนไม่หลับทั้งคืน”

พูดด้วยน้ำเสียงปกติไม่มีการทอดเสียงให้ดูอ่อนโยนเหมือนมารดาพึงกระทำกับบุตรี

“ท่านแม่มีเรื่องใดกังวล”เอ่ยปากถามด้วยท่าทีนอบน้อมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

“เจ้า ไม่กังวลอย่างนั้นหรือ ปีนี้เจ้าสิบแปดยังไร้คนมาสู่ขอ อีกทั้งไท่จือสู่ขอเสี่ยวหลินท่านพ่อตัดสินใจยกเสี่ยวหลินให้แต่งเป็นไท่จือเฟย”

เจี้ยนหลิงก้มหน้ารู้ดีว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากมีสิ่งใดที่ฮูหยินใหญ่ผู้เป็นมารดาไม่พอใจ

“ลูกเข้าใจแล้ว”พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

“ดีมาก เจ้า จ้าวแผนการอีกทั้งกลยุทธ์มากมาย ใช้ความสามารถของเจ้าให้ได้นั่งบนบัลลังก์ในตำหนักบูรพาเคียงข้างไท่จือ ข้าจึงจะสบายใจ”

หลายปีมานี้ เจี้ยนหลิงมีหน้าที่เพียงทำให้มารดาสบายใจ แต่ตัวเองสบายใจหรือไม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิด

“ลูกจะพยายาม”น้ำเสียงหนักแน่นดุจหินผา

“ดีข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง"

วังหลวง

“ฝ่าบาทในเมื่อตัดสินใจไม่ได้ เช่นนั้นไม่สู้รับทั้งสองคนมาเป็นไท่จือเฟยและเซ่อฝูจิ้น ไปพร้อมกัน”

“คิดว่าใต้เท้าหลินจะยินยอมอย่างนั้นหรือ”

“อย่างนั้น คงต้องใช้วิธีเสี่ยงดวง”ขันทีข้างกายออกความเห็น

“หลินฮูหยิน เดิมเป็นถึงองค์หญิงสาม เรื่องนี้นางก็คงไม่มีทางยอม ที่จะให้บุตรีของนางเป็นรองบุตรีของอนุเช่นกัน"น้ำเสียงแสดงออกหนักใจไม่น้อย

"แต่ผู้ที่ส่งฎีกาฉบับนี้มา จงใจที่จะให้ฝ่าบาทต้องทบทวนเรื่องที่ไท่จือทรงตัดสินใจไท่จือไม่ยอมแต่งบุตรีคนโต แต่ไปสู่ขอบุตรีคนรอง”

ขันทีข้างกายตั้งข้อสังเกตไท่จือจงใจทำสิ่งใดกันแน่

ตระกูลหลิน

“มีคนถวายฎีกากับฝ่าบาทให้มีการทบทวนเรื่องการแต่งตั้งไท่จือเฟย ข้าคิดว่าคงไม่ใช่เจ้าใช่ไหม ซูหลาน”

ใต้เท้าหลินเอ่ยปากถาม ฮูหยินใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ข้าเช่นไรจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นไท่จือตัดสินใจไปแล้ว”

ใต้เท้าหลิน เหลือบตามองหลินซูหลานภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา