พลาด
การประลองครั้งนี้ เจี้ยนหลิงชนะสองในสามทั้งงานฝีมือและการประลองปัญญาในแบบที่ไม่ใช้กลโกง บิดากับเพ่ยตงรู้ดีแก่ใจว่าเจี้ยนหลิงมักใช้เล่ห์เหลี่ยมและกลโกง ในทุกครั้งที่บิดาออกรบและทำให้ ใต้เท้าหลินรบชนะทุกครั้งไป
เจี้ยนหลิง ก้าวขาออกจากวังหลวงแทบจะทันทีเมื่อการประลองเสร็จสิ้นลง
“คุณหนูเช่นไรท่านจึงยอมอ่อนข้อให้กับไท่จือเห็นได้ชัดว่าท่านรับมือเขาได้สบาย”
“เจ้าคิดหรือว่าหากข้าชนะแล้วจะได้เป็นไท่จือเฟย มีใครบ้างจะชอบใจหากไท่จือเฟยจะเก่งกว่าไท่จือที่มีโอกาสนั่งบนบัลลังก์มังกรนั่น”เพ่ยตงพยักหน้ายิ้มๆ
“แต่ถึงกระนั้นคุณหนูก็ยังชนะการประลองอยู่ดี การแต่งตั้งไท่จือเฟยจะเริ่มขึ้นในอีกสองวัน วันนี้เราแวะที่ร้านผ้าเลือกผ้าตัดชุดจะดีไหม”
“ต้องรีบส่งข่าวให้กับท่านแม่เสียก่อน เรื่องเหล่านี้เป็นท่านแม่ที่จะจัดการ”
เพ่ยตง ก้าวขาตามไปติดๆ ไม่มีสักครั้งที่เขาจะลังเลในการก้าวตามเจี้ยนหลิง
ตระกูลหลิน
“คุณหนูใหญ่ยินดีด้วย คุณหนูใหญ่ยินดีด้วย คุณหนูใหญ่ยินดีด้วย คุณหนูใหญ่ยินดีด้วย”
เหล่าสาวใช้ในบ้านหลินต่างแสดงความยินดีเมื่อเจี้ยนหลิงก้าวขาเข้าไปในบ้าน
“คุณหนูใหญ่ยินดีด้วย”
ฮูหยินรองหลินลี่หลินกล่าวเป็นคนสุดท้าย เจี้ยนหลิงตรงเข้าจับมือแม่รองไว้แน่น
“ขอบคุณท่านแม่ ข้าความจริงไม่อยากจะแย่งชิงแต่ครั้งนี้พยายามจะทำดีที่สุดแล้วเพื่อน้อง ขอร้องฝ่าบาทไม่ต้องให้ เสี่ยวหลินประลองกำลัง”
“ขอบคุณคุณหนูใหญ่”เจี้ยนหลิงยิ้มบางๆ
ห้องของเสี่ยวหลิน
“ทำดีได้เพียงเท่านี้ เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิ่งใดเหนือกว่าเจี้ยนหลิง”
“ท่านแม่ข้าพยายามแล้ว”
“เดิมข้าคิดว่าให้เจ้าอ่อนหวานงดงามจึงเป็นที่น่าเอ็นดู แต่มาวันนี้ถึงได้รู้ว่า เคี่ยวเข็ญเจ้าอย่างที่หลินซูหลานเคี่ยวเข็ญเจี้ยนหลิงจึงดีอย่างน้อยนางก็ไม่ทำให้มารดาขายหน้า”
“ท่านแม่ไท่จือบอกข้าว่า ไท่จือเลือกข้าแล้ว”หลินลี่หลิน ยิ้มมุมปาก
สองวันผ่านไป
“อาภรณ์ชุดนี้เหมาะสมกับตำแหน่งไท่จือเฟย เกี้ยวรออยู่แล้ว ข้ากับบิดาเจ้าและฮูหยินรองจะตามไปติดๆ เจ้ากับเสี่ยวหลินไปเสียพร้อมกันบนเกี้ยวคันเดียวกัน”
หลินซูหลานเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่ได้แสดงวามตื่นเต้นดีใจอะไร เจี้ยนหลิงผิดหวังเล็กน้อย หมายใจว่าจะได้ยินคำเยินยอจากมารดา แต่ไม่มีแม้แต่คำเดียว
เจี้ยนหลิงก้าวขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวสีแดง เสี่ยวหลินก้าวตามมาติดๆ ใบหน้างดงามอ่อนหวานของเสี่ยวหลิน ทำเอาเจี้ยนหลิงอดที่จะเอ่ยปากชมเสียไม่ได้
“วันนี้เจ้างดงามที่สุด”น้ำเสียงอ่อนโยน
“ขอบคุณพี่สาวท่านเองก็สง่างามยิ่งนัก”
ยิ้มอ่อนหวาน น้องสาวคนนี้ไม่ว่าอย่างไรนางก็น่าทะนุถนอมอีกทั้งคำพูดคำจาที่ออดอ้อน เจี้ยนหลิงมักจะยอมใจอ่อน แต่ทำไมเพ่ยตงกับไม่ชอบท่าทีของเสี่ยวหลิน เจี้ยนหลิงไม่เข้าใจจนป่านนี้
วังหลวง
ผู้คนเดินขวักไขว่ร่วมพิธีแต่งตั้งไท่จือเฟย อาภรณ์ใหม่ถูกหยิบออกมาสวมใส่ สีสันสดใสงดงามแทบทุกผู้คน ต่างคนต่างทยอยเดินเข้าไปจากประตูวังหลวงที่สูงตระหง่าน เจี้ยนหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อถึงเวลาจริงๆกลับรู้สึกตื่นเต้นทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะทำท่าทีนิ่งเฉยไม่แสดงสีหน้า
บรรยากาศโดยรอบ รื่นเริงเสียงขับกล่อมจากพิณและเครื่องสายเช่นกูเจิ้งและขิม ดังไพเราะเพราะพริ้ง เปิดหน้าต่างออกไปชื่นชมเสียงผู้คนต่างแซ่ซ้องว่าไท่จือเฟยมาถึงแล้วเสี่ยวหลินโบกมือเจี้ยนหลิงได้เพียงแต่ยิ้มบางๆ ให้กับราษฎรสองข้างทางที่เข้ามาร่วมงาน
เกี้ยวของเจี้ยนหลิงและเสี่ยวหลินถูกหามผ่านประตูวังชั้นในเข้าไป นอกนั้นให้หยุดเกี้ยวไว้หน้าประตูวังแล้วเดินเข้าไปรวมทั้งเกี้ยวของ ใต้เท้าหลินและฮูหยินทั้งสอง
ไท่จือยืนรีรออยู่ด้านหน้าลานกว้าง อาภรณ์สีแดงสด ขันทีข้างกายและนางกำนัลนับสิบ เบื้องบนเป็นที่ประทับของหยางฟงหยางฮ่องเต้ที่มองลงมายังเกี้ยวที่จอด นางกำนัล เดินเยื้องย่างมาที่เกี้ยวนำหน้าหยางฟงฉี นางกำนัลสองคนส่งมือรับเอา เจี้ยนหลิงและเสี่ยวหลินลงจากเกี้ยว ผ้าคลุมหน้าถูกดึงลงมาปิดบังใบหน้า กิ่งทับทิมที่ติดอยู่ที่มวยผมกับเกี่ยวผ้าคลุมไว้ไม่อาจดึงมาปิดบังใบหน้าได้นางกำนัลจึงจัดแจงให้เสียใหม่ เจี้ยนหลิงก้าวขาลงมา ช้ากว่าเสี่ยวหลิน สิ่งที่เห็นผ่านผ้าคลุมสีแดงบางเบาคือ เสี่ยวหลินที่วางมือของตัวเองลงบนมือของหยางฟงฉีไท่จือ พากันก้าวเดินไปข้างหน้าเคียงคู่กันไม่สนใจ เจี้ยนหลิงแม้แต่น้อย เจี้ยนหลิงงงังันกับสื่งที่พบเจอในวันนี้นี่มันอะไรกันไหนบอกว่าเจี้ยนหลิงชนะการประลองจะได้เป็นไท่จือเฟย
“คุณหนูใหญ่บ้านหลินมากับข้า”
ขันทีจับมือเจี้ยนหลิงที่เย็นจนชื้น พาเดินไปส่งให้กับใต้เท้าหลินที่ส่งสายตาเย็นชาเคียงข้างหลินซูหลานฮูหยินที่มีสีหน้า ผิดหวังอย่างที่สุดสายตาที่เจี้ยนหลิงไม่อยากเห็นมัน
หยางฟงฉีกับหลินเสี่ยวหลิน จับมือกันโค้งคำนับ ฮ่องเต้ที่บัลลังก์สูง เจี้ยนหลิงหูอื้อตาลาย แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงขันทีอาวุโสตะโกนดังๆ
“เริ่มพิธีแต่งตั้งไท่จือเฟยณ.บัดนี้”