ตอนพิเศษ
ทางเดินทอดยาว กลางตลาดที่คราคล่ำไปด้วยผู้คนเสี่ยวหลิน ถือไม้เสียบผลซานซาเชื่อมสีแดงน่ากิน แต่เจี้ยนหลิงกับยกมือข้นลูบคลำมีดสั้นที่เพิ่งจะจ่ายเงินซื้อมา
“พี่สาวเราสองคนหากมีใครสักคนที่ จะต้องแต่งออกไป”
“ก็ต้องเป็นเจ้าที่แต่งออกไปก่อนข้าแน่นอน น้องสาวของข้างดงามอ่อนหวาน”เสี่ยวหลินเหลือบตามองเพ่ยตง ยิ้มเศร้าๆ
“เพ่ยตงท่านเล่าคิดเห็นอย่างไร”เจี้ยนหลิงหันไปถามความเห็นของเพ่ยตงที่กอดอกนิ่ง
“เพ่ยตงไร้ความเห็น คุณหนูของเพ่ยตงแม้จะไม่อ่อนหวานแต่ทว่ามีความเป็นตัวของตัวเองมิได้สิ่งใดเคลือบแฝงไว้ด้วยบางอย่าง”
เสี่ยวหลินหน้าเง้ารู้ดีว่าเพ่ยตงพูดถึงตัวเอง
“เพ่ยตงท่านว่ากล่าวข้าหรือไร”
“คนเราล้วนมีอุปนิสัยต่างกัน บางคนมีเรื่องราวภายในใจมากมายแต่เก็บงำไว้ ยิ่งน่ากลัว แต่บางคนเปิดเผยชัดเจน ต่างคนต่างใจต่างความคิด”
“แล้วเจ้าชอบแบบไหนเพ่ยตง”เจี้ยนหลิงถามยิ้มๆ
“เพ่ยตรงก็ย่อมต้องชอบคนที่เปิดเผยชัดเจน”
เจี้ยนหลิงอมยิ้มเสี่ยวหลินหน้าเง้า อิจฉา ชในสิ่งที่เจี้ยนหลิงเป็น พยายามจะทำให้ได้เช่นเดียวกับเจี้ยนหลิงแต่ด้วยถูกสั่งสอนให้งดงามอ่อนหวานจึง ไม่มีทางที่เสี่ยวหลินจะเหมือนกันกับเจี้ยนหลิงได้ เจี้ยนหลิงหลิงคว้ามือเพ่ยตงวิ่งไปยังร้านตีกระบี่ ที่มีกระบี่คมกริบวางไว้มากมาย
เสี่ยวหลิงวิ่งตาม อย่างทุลักทุเล
“รอข้าด้วย”
แต่ด้วยท่าทีเช่นเสี่ยวหลินจึง ตามคนทั้งสองไม่ทัน
“อุ๊ป แม่นาง”
อ้อมแขนของใครบางคนกอดรวบเอวบางของเสี่ยวหลินไว้ จ้องใบหน้างดงาม ที่หวานปานน้ำผึ้งของเสี่ยวหลิน
“คุณชายขออภัย”
ย่อกายลงช้าๆอ่อนหวานงดงาม ตามแบบของเสี่ยวหลิน
“มะไม่เป็นไร แม่นางเป็นบุตรีบ้านไหนกัน”
ถ้าเป็นเจี้ยนหลิงจะไม่มีทางพูดกับคนแปลกหน้าแต่นี่คือเสี่ยวหลินที่นางไร้ปากเสียง
“ข้าเป็นบุตรีบ้านหลิน”ใบหน้าหล่อเหลายิ้ม
“บ้านหลิน ใต้เท้าหลิน ใช่หรือไม่”
“ค่ะ เสี่ยวหลินขอตัว”ย่อกายลงเดินตามเจี้ยนหลิงกับเพ่ยตงไปในทันที
“บุตรีบ้านหลิน”
ร้านตีกระบี่
หยางฟงเกา ยืนเลือกกระบี่เนื้อดี ด้วยความตั้งใจอย่างที่สุดแต่ทว่าอาภรณ์ที่สวมขมุกขมอมเหมือนกับบคนเร่รร่อนไร้รังนอน เจ้าของร้านจึงไม่ได้ใส่ใจเขา เจี้ยนหลิง วิ่งแทรกตัวเขาไปด้านหน้า ฟงเกา เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าใสทว่าสวยหวานของเจี้ยนหลิง มือบางคว้ากระบี่เนื้อดีที่เขากำไว้ไปถือไว้ในมือ เพ่ยตงกอดอกยืนมอง
“คุณหนูคนผู้นั้น เลือกกระบี่ไปแล้ว”
“เขายังไม่ได้ตกลงใจเสียหน่อย เป็นข้าที่พร้อมจ่าย ดึงเอาถุงเงินในอกเสื้อของ เพ่ยตงอย่างที่เคยทำด้วยความสนิทสนม หยางฟงเกาอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเจี้ยนหลิงสนิทสนมกับเพ่ยตงยิ่งนัก
“เถ้าแก่ข้าพร้อมจ่ายนี่เงินนี่ไม่ต้องทอน”
“แม่นางใบหน้างดงาม อาภรณ์สวยหรูผู้นี้ เหตุใดถึงได้แย่งชิงสิ่งของในมือผู้อื่นได้ไม่อายใคร ด้วยอาภรณ์ที่สวมบอกได้ดีว่าแม่นางคงเป็นบุตตรีของขุนนางใหญ่อย่างแน่นอนเหตุใด...จึงไร้มารยาทเช่นนี้”
เจี้ยนหลิงเงื้อมือเข้าใส่ฟงเกาด้วยความเคยตัว เพ่ยตงอมยิ้ม
“อะอะ ลงไม้ลงมือ เจ้าข้าเอย... หญิงงามรังแกผู้คน”
ชาวบ้านต่างหันมองให้ความสนใจกับ หยางฟงเกากับ เจี้ยนหลิงที่มองอย่างไรก็เหมือนยาจกกับหญิงงาม
“ข้าจะตัดลิ้นเจ้าเสีย”
ยกกระบี่คมกริบฟาดไปที่ลำคอของหยางฟงเกา เพ่ยตงยังกอดอกยิ้มๆ
“ช่วยด้วย นางจะฆ่าข้า..เจ้านั่นเจ้าคนติดตามหญิงงามนั่นทำไมถึงไม่ห้ามคุณหนูของเจ้า”
เพ่ยตงถอนหายใจส่ายหน้าไปมา
“คุณหนู จ่ายเงินแล้วได้กระบี่แล้วไปกันเถอะอย่าไปเอาเรื่องเขาเลยผู้คนต่างมามุงดูมากมายคุณหนูไปเถอะขอรับ”
เพ่ยตง ปรามเบาๆ
เจี้ยนหลิงช้อนตากลมโตมอง หยางฟงเกาที่ยิ้มยียวน
“ฝากไว้ก่อน”
“ยินดีอย่างยิ่ง”
เพ่ยตงส่ายหน้าไปมา ฟงเกาหัวเราะเบาๆ
“เจ้าเพ่ยตงถึงว่าไม่ยอมไปไหนที่ไหนได้มีหญิงงามข้างกายนี่เอง”
วังหลวง
“หยางฟงฉี ถวายพระพรเสด็จพ่อ”
ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาประสานมือตรงหน้าหยางฟงหยาง
“วันนี้ทำไมถึงมานี่ได้ปกติต้องเรียกหาไท่จือจึงว่าง”
“เสด็จพ่อลูก ขอประทานอนุญาตแต่งไท่จือเฟย”
หยางฟงหยางเลิกคิ้วสูงประหลาดใจยิ่งนัก
“บุตตรีบ้านใด”
“เสด็จพ่อ บุตรีใต้เท้าหลิน ลูกถูกใจนางยิ่งนัก”หยางฟงหยางยิ้ม
“หลินเจี้ยนหลิงบุตรีหลินซูหลานกับใต้เท้าหลิน”
หยางฟงเกาส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่นาง เจี้ยนหลิงคนนั้นข้าได้ยินผู้คนเล่าขานว่านางล้วนมีกิริยาหยาบกระด้าง และ ร้ายกาจเกินหญิง”
“ข้าหาได้ยินมาเช่นเจ้า เจี้ยนหลิงนับว่าฉลาดหลักแหลมทำการใดล้วนเด็ดขาด ไม่อ่อนปวกเปียก นางเหมาะกับตำแหน่งไท่จือเฟยยิ่งนักอีกหน่อยจะได้ช่วยเจ้าปกครองคนปกครองแคว้น”
“เสด็จพ่อลูกไม่ต้องการหญิงงามเช่นนาง แม้จะมีใบหน้างดงามใสซื่อทว่านางล้วนแข็งกระด้างหากแต่งเป็นไท่จือเฟยลูกเกรงว่า ไม่อาจควบคุมนางได้ดีเท่ากับหญิงงามที่อ่อนหวานเรียบร้อย”
หยางฟงหยางส่ายหน้าไปมา ฟงฉีมักจะทำสิ่งใดตามใจตัวมาตั้งแต่ยังเด็กด้วยแม่ของเขา ตายไปตั้งแต่เล็กๆไทเฮาและหยางฟงหยางต่างสับเปลี่ยนกันเลี้ยงดูจึงต้องตามใจ เขามากกว่าใคร
คิดถึงเจ้าห้าป่านนี้จะตกระกำลำบากอยู่ที่ไหนไม่ส่งข่าวมาบ้างเลย
“ลูกจะสู่ขอนางในวันพรุ่งนี้หน้าท้องพระโรงกับใต้เท้าหลินเสียทีเดียวใต้เท้าหลินจะได้ไม่กล้าปฏิเสธลูก”
“ใต้เท้าหลินจะปฏิเสธทำไมกันในเมื่อเจ้าเป็นถึงไท่จือ”
“นางอ่อนหวานน่าเอ็นดูลูกกลัวว่านางจะมีคนอื่นในใจ”
“พรุ่งนี้คงได้รู้กันว่าใต้เท้าหลินจะยกนางให้กับเจ้าหรือไม่”