บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

ปางไม้วินวนา เป็นปางไม้ที่ใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือ ชื่อเสียงของปางเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ด้วยนอกจากจะมีไม้ที่ถูกกฎหมายและได้คุณภาพแล้ว ปางไม้วินวนายังเป็นเจ้าของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ประจำประเทศอิตาลีซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วทวีปยุโปและอเมริกา ที่สำคัญที่สุด เจ้าของปางไม้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งแกะสลักมา ด้วยรูปหน้าสัญชาติไทยที่ผสมสานกับเลือดอิตาเลียนอย่างลงตัว ทำให้ชื่อของวินเซนต์เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว โดยเฉพาะกับบรรดาสาวๆ ที่เฝ้าฝันอยากจะเป็นแม่เลี้ยงของปางไม้วินวนาใจจะขาด แต่ทว่าทุกคนต่างรู้ดีเช่นกันว่า พ่อเลี้ยงหนุ่มมีคนรักที่จับจองกันมาหลายปีอย่างคุณครูกิ่งกมล คุณครูสาวที่มักจะแวะเวียนมาสอนหนังสือเด็กในปางทุกวันหยุดสุดสัปดาห์

“แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่คุณเวนิสจะได้กลับมาที่ปางล่ะคะพ่อเลี้ยง” เสียงหวานของคุณครูกิ่งกมลถามขณะเดินเล่นกันรอบปางไม้ซึ่งเวลานี้คนงานกำลังง่วนอยู่กับการตรวจเช็คซุงไม้เพื่อรอการส่งออก

“คงอีกสักพักแหละครับครูกิ่ง ไอ้หมออยากให้ผมหาฮีตเตอร์มาติดที่ห้องของเวนิสให้เรียบร้อยก่อน” วินเซนต์ว่าพลางเดินนำไปนั่งที่ซุ้มซึ่งทำจากหญ้าแห้งสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเทามองไปรอบๆ ปางพลางถอนหายใจหนักๆ เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของก้องหล้าในชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังง่วนอยู่กับการตรวจดูสินค้าที่กำลังจะส่งออกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า “ตอนนี้นอกจากเรื่องเวนิสแล้ว เรื่องที่ปางก็น่าห่วงอยู่เหมือนกัน”

“ฉันพอรู้มาบ้างค่ะว่ามีคนลักลอบเอาไม้เถื่อนมาสับเปลี่ยนกับไม้ที่ปาง เรื่องนี้ท่าจะเรื่องใหญ่นะคะ” กิ่งกมลว่าอย่างเป็นห่วงพ่อเลี้ยงหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้ แรกเริ่มเดิมทีหญิงสาวควรจะได้เป็นครูอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เพราะเจอผู้อำนวยการโรงเรียนหัวงูที่จ้องจะลวนลามอยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอตัดสินใจขอย้ายมาทำงานที่โรงเรียนในเชียงใหม่ เนื่องจากเธอมีญาติเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนของที่นี่ ทำให้เธอไม่ต้องห่วงว่าจะเจอเรื่องซ้ำรอยแบบที่เคยเจอ แต่ด้วยเงินเดือนข้าราชการครูที่น้อยนิด ไม่พอส่งให้แม่และน้องซึ่งกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ทำให้เธอจำต้องหางานพิเศษทำ และอาชีพครูจะมีอะไรดีไปกว่าการสอนพิเศษ

เป็นความบังเอิญที่วันที่เธอกำลังต้องการงาน พ่อเลี้ยงวินเซนต์ไปติดต่อที่โรงเรียนเพื่อขอจ้างครูไปสอนเด็กๆ ที่ยากไร้ในปาง เธอจึงได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในปางนี้ ถ้าจะนับเวลาก็ราวๆ สามปีได้ กิ่งกมลยังจำได้ดีว่าเธอได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นแค่ไหนเมื่อมาอยู่ที่ปางนี้ ตอนเย็นวันศุกร์ หนานเมืองจะไปคอยรับเธอที่หน้าโรงเรียนและพาเธอมาที่ปางเพื่อที่วันเสาร์และอาทิตย์จะได้สอนหนังสือเด็กๆ พ่อเลี้ยงวินเซนต์ได้จัดหาที่อยู่ให้เธออาศัยอยู่ใกล้ๆ บ้านพักของเขา วันแรกที่เธอมาถึงจึงเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มเป็นคนลงมือต่อไม้สักทำเป็นเรือนอาศัยสำหรับเธอด้วยตัวของเขาเอง

ด้วยเครื่องหน้าที่สมบูรณ์แบบสะดุดตากับการต้อนรับที่เป็นกันเอง บวกกับความทุ่มเทที่ได้เห็นในวันนั้น ทำให้เธอรู้สึกดีกับพ่อเลี้ยงวินเซนต์ และยิ่งได้มีโอกาสสนิทกันมากขึ้น เรียนรู้นิสัยใจคอและการทำงานของเขา ยิ่งทำให้ความรู้สึกที่มีมันมากขึ้นจนเธอแทบจะรั้งใจตัวเองไม่ทัน

ความสนิทสนม ความเอาใจใส่ที่เขามีให้ ไม่ใช่แค่กิ่งกมลที่อดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ แม้แต่คนรอบข้างก็ยังคิดว่าเขามีใจให้เธอจนถึงขนาดเอ่ยปากหยอกเย้าตรงๆ และที่สำคัญ เขาดูไม่มีท่าทีหงุดหงิดหรือโกรธ แต่กลับยิ้มรับคำหยอกนั้น แม้ว่าจะไม่เอ่ยคำใดๆ ออกมาต่อความยาวก็ตาม แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เธอคิดไปไกลได้อย่างไร แต่เพราะเขาไม่เคยเอ่ยปากกับเธอตรงๆ และเธอเองก็ใจไม่กล้าพอที่จะถาม ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอยังคงคลุมเครือ

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับครูกิ่ง จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ถ้าเรามั่นใจว่าเราบริสุทธิ์ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ ที่สำคัญ การที่ทางกรมส่งไอ้ก้องที่ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นเพื่อนสนิทผมมา แสดงว่าเขาไม่เชื่อว่าผมจะทำเรื่องผิดกฎหมายแบบนั้น” ชายหนุ่มว่าเพื่อให้หญิงสาวคลายกังวล ก่อนจะโบกมือทักทายก้องหล้าที่ปลีกตัวจากงานเดินมาหาเขากับหญิงสาว

“จู๋จี๋อะไรกันอยู่ครับครูกิ่ง ไอ้วิน” คำทักทายแรก ก็ทำเอาใบหน้าของครูสาวร้อนผ่าวจนต้องก้มหลบสายตาทะเล้นของเจ้าหน้าที่หนุ่ม ในขณะที่วินเซนต์ได้แต่หัวเราะหึๆ ในลำคอและว่า

“ไอ้ก้อง พูดอย่างนี้ครูกิ่งเสียหายนะเว้ย”

“เอ้า...เสียหายนายก็รับผิดชอบสิวะ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ต้องให้บอก ใช่มั้ยครับครูกิ่ง” ยิ่งว่าก้องหล้าเหมือนยิ่งยุ มีหรือที่เขาจะดูไม่ออกว่าครูสาวรู้สึกอย่างไรกับวินเซนต์ ทั้งยังเห็นว่ากิ่งกมลก็เป็นคนดี วางตัวเหมาะสม เหมาะที่จะเป็นแม่เลี้ยงปางไม้วินวนามากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่เคยมาวอแวกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสริมให้เพื่อนจีบคุณครูสาว

“กิ่งว่ากิ่งขอตัวไปดูเด็กๆ ก่อนดีกว่าค่ะ” พูดจบ กิ่งกมลก็รีบเดินออกจากซุ้มนั้นไปทั้งที่ใบหน้านั้นยังมีสีเรื่อเข้มจัด เรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดูจากก้องหล้า ก่อนที่เขาจะพาร่างสูงมานั่งตรงหน้าวินเซนต์แทนที่เธอ

“ไอ้ก้อง ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ และขอเตือนว่าอย่าพยายาม มันไม่สำเร็จ” วินเซนต์ดักทางเพื่อนเสียงเข้ม จนก้องหล้าแกล้งพ่นลมหายใจทางปากดังๆ

“กับนายอาจไม่สำเร็จ แต่กับครูกิ่ง ฉันว่าสำเร็จชัวร์ ไม่อย่างนั้นไม่เดินหน้าแดงออกไปแบบนั้นหรอก”

“ซึ่งมันก็เป็นความผิดที่นายต้องรับผิดชอบถ้าครูกิ่งดันบ้าจี้แล้วชอบฉันขึ้นมา”

“ไอ้พ่อเลี้ยงครับ ประทานโทษเถอะ นี่นายห่างผู้หญิงมานานแค่ไหนแล้ววะถึงได้ดูไม่ออกว่าผู้หญิงเขาคิดยังไง...คนอื่นเขาดูออกกันทั้งนั้นว่าครูกิ่งชอบนาย โว้ย...ไอ้ซื่อบื้อ” เจ้าหน้าที่ป่าไม้หนุ่มกระแทกเสียงใส่เพื่อนอย่างขัดใจ แต่ก็ทำให้วินเซนต์ขมวดคิ้วนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าและถอนหายใจหนักๆ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น

“ก็ถ้านายรู้อย่างนั้นก็ยิ่งไม่ควรแซวอะไรบ้าๆ แบบเมื่อกี๊ เพราะฉันไม่ได้คิดอะไรกับครูกิ่งนอกจากเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่สำคัญ เธอเป็นผู้หญิงมาอยู่กลางป่ากลางดงฉันต้องดูแลเป็นธรรมดา ในฐานะ ‘นายจ้าง’”

“เออๆ...เข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้ฉันว่าพักเรื่องครูกิ่งไว้ก่อนดีกว่า มาเรื่องของเราก่อน ไอ้ไม้เถื่อนนี่ จะมีใครที่คิดร้ายกาจกับพ่อเลี้ยงวินเซนต์ขนาดนี้ ดูก็รู้นะว่าปางนายกำลังโดนวางยา”

“จะมีใคร ก็ไอ้คนที่นายกับเจ้าหน้าที่กรมคนอื่นแตะต้องไม่ได้ไง ตั้งแต่ปล่อยข่าวว่าปางฉันลักลอบตัดไม้เถื่อน จนถึงขนาดแอบเอาไม้เถื่อนมาใส่ไว้จริงๆ มันจงใจทำลายชื่อเสียงปางชัดๆ”

พูดไป พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ยิ่งโมโห นัยน์ตาสีเทานั้นยิ่งโชนแสงวาบเมื่อนึกถึงใบหน้าคนบงการสร้างเรื่องขึ้นมา...เมื่อต้นปีนี่เองที่มันใจกล้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินที่ปางของเขา แต่เขาไม่ขาย บางครั้งก็ยังใช้ให้กำนันคำปองที่เรียกว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขามาเจรจาในรูปแบบที่เรียกว่าข่มขู่จนเขาเองของขึ้นและสาดวาจาผรุสวาทไปหลายครั้ง และในที่สุดไอ้พวกนั้นมันก็สร้างเรื่องทำให้ปางของเขาเสียชื่อเสียง เพื่อให้ไม้ของเขาขายไม่ออก มันคิดว่าเมื่อไม้ขายไม่ได้ รายได้ก็หดกำไรก็หาย สุดท้ายเขาก็ต้องขายปางให้มัน

“ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ไอ้ประภพมันอิทธิพลเยอะเป็นบ้า ขนาดจับได้คาหนังคาเขาว่ามันสร้างรีสอร์ทบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ยังเอาผิดมันไม่ได้” พูดแล้วก้องหล้าเองก็ยังอดแค้นใจไม่ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถล้มช้างอย่างประภพได้สักที ด้วยนักธุรกิจคนนั้นมีเส้นสายในวงราชการมากมายจนทำให้เจ้าหน้าที่ในกรมหลายคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากจะดำเนินคดี แต่ติดที่เบื้องบนไม่ยอม

“นี่ฉันคงจะต้องจัดเวรยามให้มากขึ้น เพราะช่วงนี้กระแสไม้เถื่อนที่ปางเริ่มสะพัด พวกมันต้องเล่นงานฉันต่อเนื่องแน่ๆ” พ่อเลี้ยงหนุ่มว่าอย่างเหนื่อยใจ

“ช่วงนี้นายก็ระวังไว้หน่อยแล้วกัน คนงานของนายก็เยอะ เราไม่รู้หรอกว่าใครจะแฝงตัวเข้ามา ยังไงก็คงต้องให้คนในปางเป็นหูเป็นตาให้ นี่ทางผู้ใหญ่ที่กรมก็ให้ฉันช่วยนายเต็มที่ เกรงว่าถ้าเกิดเรื่องนี้อีกครั้งทางผู้ใหญ่คงจะช่วยนายไม่ได้”

“ขอบใจมาก มีเพื่อนเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้นี่มันดีอย่างนี้นี่เอง” พ่อเลี้ยงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะพอให้คลายเครียดลงได้บ้าง แต่ความเครียดนั้นก็ยังไม่ทันหมดไป หนานเมืองที่เพิ่งกลับมาถึงปางก็เดินฝ่าคนงานที่เดินกันขวักไขว่เข้ามาหาด้วยสีหน้าเครียดไม่สร่าง พร้อมกับยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม

“ประวัติของนายวัชระกับผู้หญิงคนนั้นครับพ่อเลี้ยง!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel