บท
ตั้งค่า

3

ตรีทิพย์หัวเราะแบบเจ้าเล่ห์ ฟังแล้วให้น่ากลัวแกมชวนสะดุ้งพิกล ตรีศรนึกถึงบิดา พันเอกไสวเห็นเขาสภาพนี้แล้วจะเป็นอย่างไรหนอ มีหวังโดนทำโทษแบบนักเรียนเตรียมทหารแหงๆ นี่ดีที่ว่าพี่ชายเขาอดีตครูฝึกนักเรียนเตรียมทหารไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงโดนซ่อมโดนทำโทษจากทั้งสองสิงห์ประจำบ้านการุณการแน่ๆ

“หาที่หลบภัยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พี่หน่อยสิ น้องรัก”

“จ่ายมา”

ตรีทิพย์แบมือ ทำหน้าเชิด ดูท่าทางน่าหมั่นไส้นัก ตรีศรนึกอยากจะเขกหัวน้องสาวจอมแก่นนัก แต่ตอนนี้ก็ต้องยอมเจ้าหล่อนไปก่อน เขาทำเสียงอ่อยอ้อนแม่น้องรัก

“ตอนนี้ไม่มีอะไรติดตัวเลยครับผม ไว้ถึงบ้านก่อนได้ไหมน้องเล็ก เรียกเท่าไหร่ก็ยอม แต่ตอนนี้ขอให้ออกเงินไปให้พี่ก่อนนะจ๊ะ”

มือใหญ่เอื้อมมาทำทีเป็นบีบนวดแขนให้ แต่ดูเหมือนมันจะยิ่งขยำขยี้ให้เจ็บมากกว่าจะสบาย ตรีทิพย์ร้องโอย แล้วรีบขยับแขนหนีจากการเอาใจของพี่ชายทันที

“เจ็บนะพี่รอง จะนวดหรือจะฆ่าน้องกันแน่เนี่ย เดี๋ยวน้องเล็กจัดการให้ ค่าปิดปากขอแค่ข้าวสักมื้อ กับหนังสักรอบก็พอแล้ว ถ้าจะให้ดีบอกให้เพื่อนของพี่รองเลิกดุน้องเล็กบ้างก็ท่าจะดี”

ประโยคหลังเจ้าตัวแอบย่นจมูก ตอนนี้หญิงสาวทำงานที่บริษัทของเอกรินทร์ เพื่อนสนิทของผู้เป็นพี่ชาย มันเป็นเรื่องบังเอิญแท้ๆ ที่ตรีทิพย์ต้องไปทำงานที่นั่น ซึ่งถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นบริษัทของเอกรินทร์ เธอคงไม่ไปสมัครงานแน่ๆ เพราะด้วยความถือดีที่ไม่อยากจะพึ่งพาใคร มันทำให้เธอต้องมานั่งปวดหัวตุบๆ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

“เรื่องอื่นพี่คงจัดการให้ได้ ยกเว้นเรื่องของไอ้เอก แหะๆ”

ตรีศรหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นทีท่าของน้องรัก ตรีทิพย์ดูไม่ถูกกับเอกรินทร์เอาเข้าจริงๆ จังๆ ผู้เป็นน้องสาวหันมาค้อน แล้วจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ปล่อยให้ผู้เป็นพี่ชายอยู่ในรถตามลำพัง

ชายหนุ่มเอนหลังกับพนักพิง เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนทั้งคืน แถมยังต้องมาออกกำลังมหกรรมวิ่งมาราธอนหนีเอาชีวิตยามเช้าเข้าอีก ต้องเก็บไว้ว่าเป็นหนึ่งประสบการณ์ที่ชวนระทึกขวัญดีแท้ๆ เขาคงจะเลิกซ่าไปอีกสักพัก เพราะเข็ดกับสิ่งที่ได้เจอ

รอยยิ้มบางๆ ผุดที่ริมฝีปากของตรีศร แค่อีกสักพัก แล้วเขาก็จะเริ่มสนุกกับชีวิตของชายโสดใหม่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงกลัวนักกับการผูกชีวิตยึดติดกับใครจริงจัง อาจจะเพราะเห็นตัวอย่างมาจากเพื่อนสนิท ที่ล้มเหลวเรื่องชีวิตคู่ก็ได้ แต่จะว่าอย่างนั้นก็คงไม่ถูกนัก เมื่อตัวอย่างดีๆ ก็มีให้เขาได้เห็น ว่าการมีครอบครัวนั้นแสนจะมีความสุขมากขนาดไหน

มันเรื่องอะไรเล่า ที่เขาจะต้องยุติตัวเองไว้แค่ที่ผู้หญิงคนเดียว ในเมื่อเขายังมีเวลาอีกเยอะในการที่จะเลือก อายุเพียง 33 ปีมันยังไม่แก่เกินไปหรอกน่า ถึงจะต้องหาผู้หญิงมาสร้างครอบครัว ก็เขายังไม่พร้อมนี่นา

ตรีศรยังคงอยากเป็นภมร บินว่อนไปตอมดอกไม้ดอกนั้นดอกนี้อยู่อย่างสนุกสนาน การยุติชีวิตโสดเป็นสิ่งสุดท้ายกระมังที่เขาอยากจะคิดทำ แม้ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะทำให้คนในครอบครัวแอบปวดหัวก็ตามที

...

ทิวัตถ์กลืนน้ำลาย เมื่อถูกมองจ้องเขม็งจากสายตาอำมหิตของพี่สาว ที่มองจ้องเขาแล้วท้าวเอว โดยมีพิพัฒน์บิดานั่งมองลูกๆ ทั้งสองอยู่ที่โซฟา เสียงหวานเอ่ยเข้มๆ เมื่อตบโต๊ะดังปัง จนน้องชายสะดุ้งโหยง

“บอกมานะเจ้าวัต แกไปหาเรื่องเค้าทำไม ทำไมมันอยู่ดีๆ กันไม่ได้ เพื่อนน่ะถ้ามันไม่ดีก็ไม่ต้องคบ”

“ต้องคบสักหน่อยสิลูก เอาไว้เวลาแบ่งกลุ่มทำรายงาน”

เสียงของบิดาดังแทรกขึ้นมา เล่นเอาทัตพิชชาถึงกับหันขวับไปมองต้นเสียง พิพัฒน์ยิ้มแหยๆ ให้กับบุตรสาว พลางเอ่ยเสียงอ่อยๆ ว่า

“พ่อก็แค่สร้างบรรยากาศเท่านั้นเอง กลัวลูกๆ จะเครียด หนูก็อย่าดุน้องนักเลยน่าทัตเอ๊ย!”

“พ่อก็เป็นเสียแบบนี้เจ้าวัตมันถึงได้ใจยังไงล่ะคะ นี่ไปยกพวกตีกับเค้า จนอาจารย์เรียกผู้ปกครอง นี่น่ะเหรอเรื่องไม่น่าเครียด”

ทัตพิชชาตวาดแหวๆ สองพ่อลูกได้แต่เอามืออุดหู เพราะเสียงของหญิงสาวคนเดียวของบ้านช่างดังดีแท้ๆ เธอมองจ้องหน้าน้องชายตัวแสบอีกรอบ แล้วเอ่ยเสียงดุๆ

“ทำไปเพื่ออะไร ทำไปเพราะอะไร แกรู้ตัวไหมเจ้าวัต”

“ผม เอ่อ ผม”

ทิวัตถ์หลบตาพี่สาว หนุ่มน้อยวัยห้าวอย่างเขา ซ่ากับใครก็ซ่าได้ ยกเว้นเสียก็แต่พี่สาวของเขาคนเดียวเท่านั้น ที่

ทิวัตถ์กลัวหงอ ก็ขนาดบิดาเขายังหวาดๆ ทัตพิชชา แล้วตัวเขาเล่าจะไปเหลืออะไร้ เฮ้อ...

“ไปนั่งคิดมา แล้วก็คัดเหตุผลที่ทำตัวไม่ดีรอบนี้มายี่สิบหน้ากระดาษ ส่งพี่เย็นนี้”

เสียงบัญชาการของทัตพิชชาดังขึ้น ทำให้ทิวัตถ์ถึงกับหน้าเจื่อน แล้วพยักหน้ารับคำเสียงอ้อมแอ้ม

“ครับ พี่ทัต”

“ต่อรองให้เจ้าวัต เหลือแค่ครึ่งหนึ่งได้ไหมลูก เดี๋ยวน้องมันจะซ่อมรถให้พ่อไม่เสร็จ”

เสียงอ่อยๆ ของผู้ชายอีกคนในบ้านดังขึ้นอีกรอบ เล่นเอาทัตพิชชาถึงกับมองค้อน แล้วเอ่ยเสียงเข้ม

“อย่ามาต่อรองให้กับเจ้าตัวแสบนะพ่อ พ่อเองก็มีเรื่องต้องเคลียร์กับทัตเหมือนกัน เรายังไม่รู้เรื่องกันเลยนะ เรื่องของยายผีเน่า เด็กพ่อน่ะ”

“เค้าชื่อฟีฟ่า แหมไปเรียกเค้าว่าผีเน่าหมดกัน”

บิดาก้มหลบตาของลูกสาวบ้าง คดีความค้างเก่าของตนเองยังไม่เรียบร้อยดี เลยออกตัวแทนบุตรชายคนเล็กไม่ได้เต็มที่

“นั่นแหละ! เย็นนี้ห้ามไปไหนนะ พ่อต้องคุยกับทัตก่อน กลับมาไม่เจอล่ะน่าดู เจ้าวัตด้วย ต้องเห็นรายงานของแกเรียบร้อยบนโต๊ะทำงานของพี่ คัดลายมือมาสวยๆ ด้วย”

“ครับผม!”

สองหนุ่มประจำบ้าน บุษราภรณ์ เอ่ยรับพร้อมๆ กัน เล่นเอาทัตพิชชาต้องถลึงตาใส่คนทั้งคู่ก่อนจะเดินปึงๆ ออกจากบ้านไป ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงสตาร์ทรถของหญิงสาว ทั้งคู่ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

“แกนะแกไอ้วัต ไปทำอะไรให้เจ้าแม่เขาโกรธ พัดมาลงพ่อด้วยสิ เฮ้อ...”

พิพัฒน์บ่นอุบ ขณะที่ทิวัตถ์เองก็ทำเสียงอ่อย

“แหม...ผมก่อเรื่องที่ไหน ไอ้กล้วยต่างหากล่ะพ่อ ไปเจ๋อหาเรื่องทางโน้นก่อน ผมก็แค่คนวิ่งตามๆ พวกมันโดนอาจารย์รวบไปด้วย ปวดตับเลย”

“เออ...พ่อปวดยิ่งกว่าตับอีกปวดไตด้วย เจอพี่สาวแกแว้ดๆ เข้าไป สั่งให้พ่อเลิกกะน้องฟีฟ่า เฮ้อ...ไม่รู้ว่ามันเป็นแม่หรือเป็นลูก”

“เฮ้อ...”

เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง จากสองหนุ่มบ้านบุษราภรณ์ เมื่อถูกกดขี่จากสตรีคนเดียวของบ้านอย่างทัตพิชชา ไม่รู้เลยว่าพวกตนเองนั่นแหละ ตัวการทำให้หญิงสาวปวดหัว และกลายเป็นคนดุไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ เมื่อต้องจับปูอย่างพิพัฒน์และทิวัตถ์ใส่กระด้งอยู่บ่อยๆ มีทั้งพ่อและน้องชายแสบสันขนาดนี้ ไม่กลายมาเป็นแม่เสือก็แปลกล่ะงานนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel