2
ร่างๆ หนึ่งหลุดผั๊วะลงมาจากตู้เสื้อผ้า ชายหนุ่มนิรนามกลิ้งกลุกๆ ลงมานั่งจุมปุ๊กอยู่กลางห้อง เขาไม่สวมเสื้อ ใส่แต่กางเกงตัวเดียว หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร หากแต่เป็นเทพบุตรที่มาปรากฏตัวด้วยความแปลกประหลาดเอามากๆ
“เฮ้ย! อะไรวะ”
สิงห์อุทานออกมาอย่างตกใจสุดขีด ส่วนจิรัชยาอยากจะเป็นลมไปเสียตรงนั้น
ไอ้บ้าเอ๊ย! ทนมาคืนจะทนไปอีกสักนิดทนไม่ได้หรือไงกันนะตายหมู่แน่ๆ งานนี้ เธอนึกด่าหนุ่มรูปหล่อที่ไปหิ้วมาจากผับเมื่อคืน หัวใจแทบจะวายด้วยความกลัวแฟนหนุ่มจอมโหด...
“พวกคุณนี่แย่มากๆ”
ตรีศรลุกพรวดขึ้นยืน แล้วเป็นฝ่ายกราดเกรี้ยวใส่เจ้าของห้อง ที่ถึงกับตะลึงและพากันกะพริบตาปริบๆ ด้วยความตกใจแกมงุนงง เมื่อหนุ่มนิรนามกลับมาเป็นฝ่ายหัวเสียใส่แบบนั้น
“เมียคุณทำแบบนี้ได้ยังไงกัน เรียกผมมาซ่อมตู้เสื้อผ้า แล้วขังผมไว้ในนั้น สับเพร่าที่สุด ผมเกือบตายแล้วนะเนี่ย”
“หา!” สิงห์และจิรัชยาอุทานออกมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน ตรีศรส่ายหน้าด้วยท่าทีที่เหมือนเอือมระอาสุดๆ กับสิ่งที่ได้เจอ
“แย่ แย่จริงๆ ดีนะที่ผมออกมาได้ เกือบขาดอากาศหายใจ”
“ขอโทษด้วยนะคะพี่ พอดีหนูไม่เห็นพี่ก็เลยปิดล็อคตู้”
จิรัชยาที่หัวไวเล่นตามน้ำไปอย่างรวดเร็ว ตรีศรฉวยโอกาสที่สิงห์กำลังตกใจอ้าปากค้าง โบกมือเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร ก่อนจะเดินดุ่มๆ ออกมาจากห้องอย่างว่องไว ใจภาวนาให้อีกฝ่ายอย่าคิดได้ทันก่อนที่เขาจะออกไปจากห้อง
“ช่างซ่อมตู้อะไรวะ มาแค่นั้น เฮ้ย! นั่นมันกางเกงกูนี่หว่า ไอ้ชู้มึงตาย”
สิงห์ตวาดลั่นเมื่อตั้งสติได้ ตรีศรได้ฟังแค่นั้นก็ใส่ตีนหมาโกยอ้าว มหกรรมวิ่งไล่จับระดับชาติเกิดขึ้นแล้ว!
.....
นัยน์ตากลมโตมองกวาดไปรอบๆ บริเวณ ที่พี่ชายนัดแนะบอกเธอในโทรศัพท์ ก่อนจะถูกตัดสายไป ตรีทิพย์ต้องตื่นมาแต่เช้าแบบงัวเงียเพราะถูกปลุกจากพี่ชายคนรองของเธอ ถ้อยคำที่ฟังกระท่อนกระแท่น ขาดๆ หายๆ ทำให้หญิงสาวนึกห่วงพี่ชายของเธอมากๆ ไม่รู้ว่าตรีศรพบเจอกับอะไรเข้านะ ถึงได้ตกอยู่ในความลำบากมากถึงขนาดนั้น
“อยู่ไหนกันนะพี่รอง”
ตรีทิพย์ค่อยชะลอรถ ก่อนจะเริ่มมองหาตู้โทรศัพท์ พี่ชายเธอบอกว่าอยู่ในซอยนี้นี่นา หญิงสาวเห็นชายร่างใหญ่คนหนึ่ง เดินถือไม้หน้าสามเดินข้ามถนนผ่านหน้าเธอไป มันทำให้ตรีทิพย์นึกกลัวขึ้นมาทันที มือเกร็งจับพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ
“ หว๋าย ทำไมต้องนัดเรามารับที่ซอยน่ากลัวๆ แบบนี้ด้วยนะ แล้วไม่หัดพกโทรศัพท์นะพี่ชายเรา ตกลงว่าเรื่องฉุกเฉินที่ว่ามันเรื่องอะไรกัน”
หญิงสาวมองชายที่ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจนั่นทางกระจกส่องหลัง เขาหายไปแล้วทำให้ตรีทิพย์ถอนใจอย่างโล่งอก นี่ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตรีศรกันแน่นะ
“ว้าย!”
หญิงสาวอุทานออกมาอย่างสุดเสียง เมื่อกระจกของเธอถูกเคาะ ตรีทิพย์ตาเบิกโพลงอย่างตกใจก่อนจะรีบเบรครถดังเอี๊ยด! เมื่อเห็นชัดว่าคนที่มาเคาะกระจกรถของเธอคือใคร พี่ชายของเธอนั่นเอง!
“ขับรถไปด่วนจี๋เลยน้องเล็ก ห้ามถาม อย่าซักอะไรพี่ทั้งสิ้น เดี๋ยวพ้นผ่านจากเหตุการณ์เคอร์ฟิว พี่จะบอกทุกอย่างเอง ด่วนๆ”
ตรีศรรีบเข้ามาในรถทันทีเมื่อน้องสาวเปิดประตูให้ เขากดเบาะเอนลงนอน ตรีทิพย์แม้จะงงงันกับท่าทางของพี่ชาย แต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว
“มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยพี่รอง พี่รองโดนปล้นมาหรือไงกัน ถึงเหลือแค่นี้น่ะ อี๋ อุจาดตาที่สุด”
ตรีทิพย์มองพี่ชาย ที่เหลือเพียงกางเกงขาสั้นติดกาย อวดเรือนกายล่ำสัน แม้แต่รองเท้าก็ยังไม่มีเหลือ ตรีศรชักจะเขินกับสายตาของน้องสาว ที่กำลังมองจ้องพี่ชายด้วยนัยน์ตากลมโต
ชายหนุ่มยกมือเสยผมแก้เก้อ จะว่าไปสภาพเขาก็เหมือนถูกโจรปล้นเข้าจริงๆ นี่ถ้าไม่แอบจิ๊กเงินของขอทานที่มาขอทานบริเวณใกล้ๆ คอนโดมาล่ะก็ มีหวังเขาตายคาที่เพราะโดนไอ้หนุ่มล่ำนั่นกระทืบเอาแน่ๆ เขาวิ่งฉิวเข้าตู้โทรศัพท์ทันทีเมื่อได้เงินมา หยอดมันแล้วกดเรียกน้องสาวมารับ ภาวนาให้ตรีทิพย์รีบมา หลบในตู้โทรศัพท์ ใจเต้นระทึกเมื่อสิงห์เดินถือไม้หน้าสามผ่านเขา เรียกได้ว่าเฉียดนาทีเป็นนาทีตายมาเลยทีเดียว
“ก็นิดหน่อย”
“นิดหน่อยยังไงกันพี่รอง เล่ามาให้หมดนะ ไม่อย่างนั้นน้องเล็กจะฟ้องพ่อกับแม่”
คำขู่ฟ่อนั่นทำให้ตรีศรถึงกับยิ้มแหย เขาเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา แทบจะไม่ได้ยินว่า
“พี่หนีเค้ามา”
“เอ๋?” ตรีทิพย์ถึงกับคิ้วขมวดไปเลยเมื่อได้ยินดังนั้น ใจนึกถึงวีรกรรมเรื่องความเจ้าชู้ของพี่ชายขึ้นมาทันที นี่คงไม่ใช่ว่าแอบไปจุ๊กจิ๊กกับแฟนใครจนเขาไล่ตะเพิดเอานะ
“พี่รองไปยุ่งกับเมียชาวบ้านมาหรือไงกัน”
คำถามตรงๆ ของน้องสาวเล่นเอาตรีศรหน้าเป็นสีเรื่อ แม้ว่าตนเองจะโลดโผน และใช้ชีวิตหนุ่มได้แบบสุดโต่งขนาดไหน แต่จะอย่างไรก็ตาม เขาก็อยากจะเหลือพฤติกรรมด้านดีๆ ไว้ในสายตาของน้องสาวคนเดียวบ้าง
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก คือว่าพี่อะนะ...เจอคนถูกใจคนหนึ่ง แล้วก็ อะนะ...แล้วก็...”
ตรีทิพย์ค้อนพี่ชายตัวดีของเธอขวับแล้วต่อเรื่องทั้งหมดเสียเอง
“แล้วก็ไปอะนะ...พอดีแฟนเค้ามาก็เลยอะนะ...พี่รองก็เลยต้องวิ่งฉิวออกมาทั้งๆ ที่ใส่กางเกงตัวเดียว เฮ้อ...พี่รองนะพี่รอง เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้เสียทีน้า ตอนนี้ก็มีหลานจนวิ่งได้แล้ว อายหลานบ้างสิพี่รอง”
“อย่ามายุ่งกับพี่เลยน่า พูดมากน่าเราน่ะ ทำตัวเป็นแม่พี่อีกคนไปแล้ว”
ตรีศรบ่นอุบ ตรีทิพย์ได้แต่ส่ายหน้า เธอมองกวาดไปทั่วเครื่องหน้าคมสันของพี่ชาย ก็แบบนี้จะไม่ให้เธอเป็นห่วงได้ยังไงกัน เมื่อก่อนห่วงพี่ชายทั้งสองคนพอๆ กันเพราะพี่ชายคนโตเองเป็นหนุ่มเงียบขรึมแกมดุ เสียจนสาวๆ ขยาด แต่เมื่อตรีศิลป์แต่งงานไปเสียกับการะเกดแล้ว เธอเองก็แสนจะโล่งใจ แต่ตอนนี้ต้องนึกมาห่วงพี่ชายคนรอง ที่ยังกะล่อน ทำตัวเป็นเพลย์บอยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
ตรีศรมีใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาคมสวยระยับมีเสน่ห์ ดึงดูดใครต่อใครให้ต้องมนต์เสน่หาของเขาได้ไม่ยากนัก แถมยังมีวาทะศิลป์ ซึ่งตัวตรีทิพย์เองมองว่ามันเป็นความกะล่อนมากกว่า เขาเป็นเจ้าของกิจการบริษัทโฆษณาที่ก่อตั้งและสร้างมาด้วยตนเอง เรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มขี้เล่น ในฝันของสาวๆ หลายๆ คน ที่ทั้งหน้าตาดี ฉลาดเฉลียว และร่ำรวย
“จะกลับบ้านสภาพนี้หรือไงคะคุณพี่รอง วันนี้พ่อไม่เข้ากรมนะเจ้าคะ ระวังเถอะ เหอๆๆๆ”