1
“เบาๆ สิคะคุณรอง อุ๊ย!”
เสียงหวานเอ่ยหัวเราะคิกคักอย่างมีจริต พลางปัดป้องมือใหญ่ที่กำลังไต่ไปทั่วเนื้อตัวเธอ จมูกโด่งซุกไซร้ไปทั่วบ่าไหล่หอมละมุน และทำท่าว่าจะไต่ลงไปต่ำกว่านั้น สองร่างก่ายกอดกันไม่ยอมปล่อย ตั้งแต่ก้าวล่วงเข้าประตูห้องในคอนโดมิเนียมของฝ่ายหญิงมาได้
“รับรองว่าผมจะทำเบาๆ ไม่รุนแรงเลย”
ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ แล้วค่อยผ่อนร่างบางลงบนที่นอนหนานุ่ม หญิงสาวยังคงทำท่าทีเหมือนจะไม่ยอมให้เขารุกเร้ามากไปกว่านั้น หากแต่ตรีศรรู้ทันมารยาหญิง ว่าสิ่งที่เจ้าหล่อนทำนั้นเพียงแค่อยากจะให้เขาทวีความอยากได้ในตัวเธอมากขึ้นเท่านั้น
“คุณรองขา อย่ารุนแรงกับจอยมากนะคะ จอยยัง...”
ชายหนุ่มกดริมฝีปากได้ลงลงประกบปากอิ่ม ปิดคำพูดของหญิงสาวไว้เสียได้ รู้หรอกน่าว่าเจ้าหล่อนจะพูดว่าอะไร แต่ถ้าเธอยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่กล่าวอ้างกับเขาจริงๆ คงจะไม่ตามเขามาง่ายๆ แบบนี้หรอก เพียงแค่ตามองตาในผับชั้นหรู ที่เขาเป็นเมมเบอร์อยู่ ไม่สิต้องเรียกว่าเขาเป็นฝ่ายตามเธอมาต่างหาก เพราะนี่เป็นห้องของจิรัชยา
จุมพิตของสองหนุ่มสาวทวีความร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอวบอัด ตามจุดอ่อนไหวอย่างจัดเจน เหมือนจะแกล้งให้หญิงสาวในอ้อมกอดได้ร้อนรนไปด้วยเปลวรักที่แผดเผา ด้วยการลูบมือไล้ผ่านทรวงสาวโดยไม่ยอมสอดเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ ทำเหมือนแกล้งจนจิรัชยาต้องเป็นฝ่ายทนไม่ไหว มือนิ่มกลับกลายเป็นฝ่ายรุกเร้าเขาเสียเอง ตรีศรหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อเธอปลดเสื้อผ้าเขาได้ไว เสียยิ่งกว่ามือของเขาที่กำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้เธอเสียอีก
“คุณรองขา”
เสียงหวานเอ่ยอ้อนแทบจะเป็นเสียงคราง เมื่อใบหน้าคมเข้มซุกซบไล่ไปเรื่อยๆ มือเขาฟอดเฟ้นทรวงสาวอย่างเมามัน ซบหน้าลงจูบเคล้ากับความหวานนุ่มราวกับภมรคลุกเคล้าเกสรดอกไม้ ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ไล้ต่ำลงไป มือเขาไล่ไปทางไหน เสื้อผ้าของเธอก็หลุดร่วงตามไปจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า
“จอยทนไม่ไหวแล้ว”
คนที่บอกให้เขาเบาๆ ถนอมเธอ ในตอนแรก กลับกลายเป็นคนลุกขึ้นมาปล้ำเขาเสียเอง จิรัชยาทาบทับร่างนุ่มบนร่างกายแข็งแกร่งของเขา มองใบหน้าคมสันหล่อเหลาอย่างหลงใหล ใครจะคาดคิดกันว่าคืนนี้เธอได้หนุ่มรูปหล่อขนาดนี้มาอยู่บนเตียงที่เร่าร้อนด้วยกัน
“ตามสบายเลยครับจอย ผมยอมทุกอย่าง”
ตรีศรบอกเสียงกระเส่า เร้าใจคนฟังยิ่งนัก จิรัชยามองเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ทาบทับบนร่างกายแข็งแกร่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวของชายหนุ่ม มือนิ่มไล้จับความแข็งแรงแล้วถึงกับตาวาว
โอย...คืนนี้เธอคงไม่อยากจะนอนนิ่งๆ เป็นฝ่ายโดนกระทำฝ่ายเดียวแน่ๆ ก็อีกฝ่ายออกจะเร่าร้อนได้ใจสาวไปเสียหมดแบบนี้
ก๊อกๆๆ
“จอย อีจอย!”
เสียงตวาดดังแว้ดอยู่ที่หน้าห้อง พร้อมกับเสียงทั้งทุบประตู และเสียงกดออด ทำให้เกมพิศวาสที่กำลังจะเริ่มเร่าร้อนดับมอดไปอย่างรวดเร็ว ร่างอวบอัดตะกายลงจากร่างแข็งแรงของตรีศร ใบหน้างดงามซีดเผือด พร้อมกับเอ่ยละล่ำละลัก ด้วยความตื่นตกใจว่า
“ทำไงดี ผัวฉันมา”
“หา!”
ตรีศรอ้าปากหวอ ลุกพรวดขึ้นยืนบ้าง โดยลืมไปว่าตนเองกำลังเปลือยเปล่า จิรัชยาคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้มาพันตัว พร้อมกับชี้มือชี้ไม้บอกใบ้ให้เขาไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้า ตรีศรเร่งกระโจนเข้าไปในนั้นโดยไม่ให้ต้องบอกซ้ำ จิรัชยาปิดประตูตู้เสื้อผ้าฉับทันที ใช้เท้าเตะเขี่ยเสื้อผ้าของตรีศรเข้าไปใต้เตียง รวบรวมเสื้อผ้าของตนเองโยนใส่ตะกร้า พลางวิ่งอย่างว่องไวไปที่ประตูห้อง ทุกอย่างรวดเร็วว่องไวใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
“มาแล้วๆ จะทำเสียงดังทำไมนะพี่สิงห์ หนวกหูรบกวนชาวบ้านเค้า”
จิรัชยาว่าเสียงหวาน ใจตุบๆ ต่อมๆ เมื่ออีกฝ่ายมองเธอแบบหัวจรดเท้า สภาพของเมียรักดูช่างน่าสงสัยนัก สิงห์หรี่ตาแล้วเดินเบียดร่างอิ่มในชุดผ้าเช็ดตัวจนแทบกระเด็น จิรัชยาวิ่งตามไปติดๆ ทันที
“ไหน มันอยู่ไหน!”
เสียงตวาดดุของสิงห์ทำให้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้ถึงกับสะดุ้ง ตรีศรใจเต้นแทบจะโลดออกมานอกอก
พ่อแก้วแม่แก้วช่วยผมด้วย ไม่สิ! พ่อไสว แม่ลัดดา ช่วยไอ้รองด้วยครับ!
“อะไรพี่สิงห์ หาอะไรเหรอจ๊ะ”
จิรัชยาโอบรอบเอวหนาแล้วเบียดเนื้อตัวอิ่มอวบเข้าหาเขา ทำให้สิงห์ชักจะใจแกว่ง อยากจะเลิกเล่นเกมจับชู้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เพราะห่างจากแฟนสาวมาเกือบอาทิตย์
“ก็คนที่มึงเอามาเก็บไว้ไง”
“โธ่...พี่สิงห์จ๋ามีใครที่ไหนกันเล่า มามะมากอดกันดีกว่าจอยคิดถึ้ง...คิดถึงพี่”
มือขาวนวลปลดผ้าเช็ดตัวออกจากร่างงามทันที สิงห์ถึงกับหายใจสะดุด เมื่อเห็นร่างเปล่าเปลือยนั่นเต็มตา
จิรัชยาโถมตัวเข้ากอดเขา แล้วเริ่มลูบไล้เพื่อปลุกอารมณ์ หวังให้เขาลืมเรื่องที่ระแวงแคลงใจไปเสีย
“ไม่มีแน่นะ”
สิงห์ยังคงถามอย่างไม่อยากจะวางใจง่ายนัก
“แหม...อย่ามาพูดจาไร้สาระอยู่เลยจ้ะ พี่สิงห์จ๋า มามะ...มาทำให้จอยหายคิดถึงพี่ดีกว่า”
สาวเจ้ามือไวปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างของแฟนหนุ่มร่างบึก สิงห์อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นทันทีเมื่อถูกปลุกเร้าขนาดนั้น เขาช้อนร่างนวลขึ้นอุ้มแล้ววางจิรัชยาบนเตียงค่อนข้างแรง ก่อนจะโถมทับไปฟอนเฟ้นร่างงามอย่างมันเขี้ยว
“อา...พี่สิงห์จ๋า เบาๆ หน่อย ช้ำหมดแล้ว”
“โอ...สุดยอดจริงๆ เมียพี่”
เสียงกระเส่าสองเสียงดังสอดคล้องดังลั่นห้อง พร้อมกับเสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด บอกได้ว่าสมรภูมิบนเตียงคงจะดุเดือดเลือดพล่านมากมาย สองคนนั้นแสนสุข แต่อีกคนที่นั่งตัวแข็งซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้านี่สิ มันช่างทรมานเสียจริงๆ
เฮ้อ...ผิดศีลข้อสาม มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นอย่างนี้นี่เอง ไอ้รองเอ๊ย!
................................................................................................................................................................................
จิรัชยาค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาก่อนจะกะพริบตาปริบๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืน เธอค่อยๆ ขยับแขนของแฟนหนุ่มที่กกกอดไว้แน่นออก เพื่อจะค่อยย่องไปช่วยตรีศรที่ตอนนี้ยังอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเธอ
“จะไปไหนจอย”
เสียงห้าวดังขึ้นทันทีเมื่อเธอขยับตัว จิรัชยาหันมายิ้มแหยให้กับสิงห์แล้วเอ่ยเสียงหวาน
“จอยจะไปอาบน้ำน่ะจ้ะ พี่สิงห์ไปอาบด้วยกันไหม อาบนานๆๆ นะจะได้รีบไป จอยกับพี่สิงห์จะเข้าไปอาบน้ำนานๆ”
คำพูดแปลกพิกลของเธอทำให้สิงห์ขมวดคิ้ว ส่วนคนที่ซุ่มอยู่ในตู้ ตอนนี้มีตาเป็นหมีแพนด้าเพราะอดนอน แถมต้องนั่งตัวแข็งเพราะความคับแคบในนั้น รับรู้ถึงสัญญาณที่สาวเจ้าส่งให้ มีทางรอดแล้วโว้ยเรา! ชายหนุ่มอุทานในใจ
“ไปก็ไป จอยถูหลังให้พี่ด้วยนะจ๊ะ”
สิงห์อ้อนแฟนสาว ก่อนจะประคองกันขึ้นไปจากเตียง แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเริ่มสงครามรักครั้งใหม่ ก็มีเหตุเกิดขึ้นเสียก่อน
โครม!