เล่ห์เหลี่ยมรัก

118.0K · จบแล้ว
โยธกา ดรินทร์ น้ำอ้อม
68
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อสาวหวงความโสด และหนุ่มหวงความโสดโคจรมาเจอกัน สาวเจ้าทำให้เขาอยากร้องเพลงชวนน้องแต่งงานขึ้นมาตงิดๆ แต่แม่สาวรุ่นพี่เกาะคานแน่นเหนียวหนึบคนนี้ เขาจะเอาชนะใจหล่อนยังไงกันดีนะ “คนโกหก” “ใครกันผมไม่รู้จัก?” “คนปลิ้นปล้อน” “ไม่มีหรอก แถวๆ นี้มีแต่คนดี” “คุณนี่มัน...” ทัตพิชชามองหน้าเขาก่อนจะเม้มริมฝีปาก เมื่อคำต่อว่าของเธอโดนย้อนกลับมาทุกคำ คนย้อนเองก็ทำหน้าตาได้กวนโทสะสุดๆ จนน่าจะถีบตกลงไปในบึงเสียจริงๆ “คุณนั่นแหละ ไร้เหตุผล ตัดสินทุกอย่างด้วยอารมณ์ ผู้หญิงไร้สาระ” “คุณว่าอะไรนะ ฉันไร้สาระตรงไหนกัน” ทัตพิชชาที่ไม่เคยมีใครว่าแบบนั้นมาก่อนถึงกับกรีดเสียงลั่นบ้าน ด้วยความโมโห เห็นแบบนั้นเข้าแล้วคนที่สวมบทโหดก็ชักจะติดลม อยากทำเขานอนไม่หลับ กลุ้มใจตั้งนานสองนาน แกล้งให้โมโหเสียบ้าง แล้วหน้าตาของทัตพิชชาเวลาโกรธน่ะ น่ารักดีออก ดีกว่าเวลาเธอทำเชิดใส่เขาเสียอีก ปากแดงๆ แก้มแดงๆ เพราะเลือดลมแล่นพล่าน น่าจับมาจูบจะตายไป “ก็ตรงไม่ยอมฟังอะไรเลย เอะอะก็ตัดขาดกันแบบนี้ ตกลงว่าผมผิดอะไร ผมก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คุณน่ะไร้สาระสุดๆ” “โอ๊ย! พาฉันกลับบ้านนะ ถ้าจะมากวนประสาท ชวนทะเลาะกันแบบนี้น่ะ ไม่ต้องมาคุยกันแล้ว” “ฮ่าๆๆ” ตรีศรลุกขึ้นยืน พลางไปยืนล้วงกระเป๋าอยู่ที่ริมระเบียง ผายมือให้เธอมองดูผืนน้ำที่ขวางกั้นเธอไว้จากอิสระภาพ ก่อนจะเอ่ยท้าทายด้วยน้ำเสียงกวนๆ “กลับไปได้ก็กลับไปสิครับ ผมไม่ได้มัด ไม่ได้กักอะไรคุณไว้ มีปัญญาก็ว่ายน้ำข้ามไปเลย” “แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะปล่อยฉันเล่า” ทัตพิชชาโมโหจนเหนื่อยแล้วตอนนี้ มองตรีศรด้วยสายตาเคืองๆ “เมื่อคุณเลิกไร้สาระ ยอมคืนดีกับผม แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ถ้าไม่อย่างนั้น ก็อยู่เป็นจำเลยรักของผมแบบนี้แหละ” “ไม่!” เสียงใสเอ่ยตวาด ตรีศรยักไหล่ พลางร้องเพลงออกมาดังลั่นบึง “กักขังฉันเถิด กักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า อย่าขังหัวใจให้ทรมา ให้ฉันเศร้าโศกา เหมือนว่าฉันเป็นเช่นดังจำ...” ตูม! ซ่า! เสียงอะไรบางอย่างร่วงหล่นน้ำดังแทนเพลงท่อนจบ คนทำเองยืนยิ้มอย่างสะใจ ขณะที่คนโดนทำจนร่วงลงไปในน้ำ เมื่อโพล่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำได้ ก็หันไปมองทัตพิชชาอย่างงงๆ ว่าเขาโดนอะไรผลักเอาแรงขนาดนั้น ถึงได้ร่วงถลาลงมาแบบนกปีกหักได้แบบนี้ “คุณทำอะไรผม” “ถีบ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานนางเอกเก่งรักแรกพบฟินๆเศรษฐีรักหวานๆตลก

1

“เบาๆ สิคะคุณรอง อุ๊ย!”

เสียงหวานเอ่ยหัวเราะคิกคักอย่างมีจริต พลางปัดป้องมือใหญ่ที่กำลังไต่ไปทั่วเนื้อตัวเธอ จมูกโด่งซุกไซร้ไปทั่วบ่าไหล่หอมละมุน และทำท่าว่าจะไต่ลงไปต่ำกว่านั้น สองร่างก่ายกอดกันไม่ยอมปล่อย ตั้งแต่ก้าวล่วงเข้าประตูห้องในคอนโดมิเนียมของฝ่ายหญิงมาได้

“รับรองว่าผมจะทำเบาๆ ไม่รุนแรงเลย”

ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ แล้วค่อยผ่อนร่างบางลงบนที่นอนหนานุ่ม หญิงสาวยังคงทำท่าทีเหมือนจะไม่ยอมให้เขารุกเร้ามากไปกว่านั้น หากแต่ตรีศรรู้ทันมารยาหญิง ว่าสิ่งที่เจ้าหล่อนทำนั้นเพียงแค่อยากจะให้เขาทวีความอยากได้ในตัวเธอมากขึ้นเท่านั้น

“คุณรองขา อย่ารุนแรงกับจอยมากนะคะ จอยยัง...”

ชายหนุ่มกดริมฝีปากได้ลงลงประกบปากอิ่ม ปิดคำพูดของหญิงสาวไว้เสียได้ รู้หรอกน่าว่าเจ้าหล่อนจะพูดว่าอะไร แต่ถ้าเธอยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่กล่าวอ้างกับเขาจริงๆ คงจะไม่ตามเขามาง่ายๆ แบบนี้หรอก เพียงแค่ตามองตาในผับชั้นหรู ที่เขาเป็นเมมเบอร์อยู่ ไม่สิต้องเรียกว่าเขาเป็นฝ่ายตามเธอมาต่างหาก เพราะนี่เป็นห้องของจิรัชยา

จุมพิตของสองหนุ่มสาวทวีความร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอวบอัด ตามจุดอ่อนไหวอย่างจัดเจน เหมือนจะแกล้งให้หญิงสาวในอ้อมกอดได้ร้อนรนไปด้วยเปลวรักที่แผดเผา ด้วยการลูบมือไล้ผ่านทรวงสาวโดยไม่ยอมสอดเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ ทำเหมือนแกล้งจนจิรัชยาต้องเป็นฝ่ายทนไม่ไหว มือนิ่มกลับกลายเป็นฝ่ายรุกเร้าเขาเสียเอง ตรีศรหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อเธอปลดเสื้อผ้าเขาได้ไว เสียยิ่งกว่ามือของเขาที่กำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้เธอเสียอีก

“คุณรองขา”

เสียงหวานเอ่ยอ้อนแทบจะเป็นเสียงคราง เมื่อใบหน้าคมเข้มซุกซบไล่ไปเรื่อยๆ มือเขาฟอดเฟ้นทรวงสาวอย่างเมามัน ซบหน้าลงจูบเคล้ากับความหวานนุ่มราวกับภมรคลุกเคล้าเกสรดอกไม้ ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ไล้ต่ำลงไป มือเขาไล่ไปทางไหน เสื้อผ้าของเธอก็หลุดร่วงตามไปจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า

“จอยทนไม่ไหวแล้ว”

คนที่บอกให้เขาเบาๆ ถนอมเธอ ในตอนแรก กลับกลายเป็นคนลุกขึ้นมาปล้ำเขาเสียเอง จิรัชยาทาบทับร่างนุ่มบนร่างกายแข็งแกร่งของเขา มองใบหน้าคมสันหล่อเหลาอย่างหลงใหล ใครจะคาดคิดกันว่าคืนนี้เธอได้หนุ่มรูปหล่อขนาดนี้มาอยู่บนเตียงที่เร่าร้อนด้วยกัน

“ตามสบายเลยครับจอย ผมยอมทุกอย่าง”

ตรีศรบอกเสียงกระเส่า เร้าใจคนฟังยิ่งนัก จิรัชยามองเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ทาบทับบนร่างกายแข็งแกร่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวของชายหนุ่ม มือนิ่มไล้จับความแข็งแรงแล้วถึงกับตาวาว

โอย...คืนนี้เธอคงไม่อยากจะนอนนิ่งๆ เป็นฝ่ายโดนกระทำฝ่ายเดียวแน่ๆ ก็อีกฝ่ายออกจะเร่าร้อนได้ใจสาวไปเสียหมดแบบนี้

ก๊อกๆๆ

“จอย อีจอย!”

เสียงตวาดดังแว้ดอยู่ที่หน้าห้อง พร้อมกับเสียงทั้งทุบประตู และเสียงกดออด ทำให้เกมพิศวาสที่กำลังจะเริ่มเร่าร้อนดับมอดไปอย่างรวดเร็ว ร่างอวบอัดตะกายลงจากร่างแข็งแรงของตรีศร ใบหน้างดงามซีดเผือด พร้อมกับเอ่ยละล่ำละลัก ด้วยความตื่นตกใจว่า

“ทำไงดี ผัวฉันมา”

“หา!”

ตรีศรอ้าปากหวอ ลุกพรวดขึ้นยืนบ้าง โดยลืมไปว่าตนเองกำลังเปลือยเปล่า จิรัชยาคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้มาพันตัว พร้อมกับชี้มือชี้ไม้บอกใบ้ให้เขาไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้า ตรีศรเร่งกระโจนเข้าไปในนั้นโดยไม่ให้ต้องบอกซ้ำ จิรัชยาปิดประตูตู้เสื้อผ้าฉับทันที ใช้เท้าเตะเขี่ยเสื้อผ้าของตรีศรเข้าไปใต้เตียง รวบรวมเสื้อผ้าของตนเองโยนใส่ตะกร้า พลางวิ่งอย่างว่องไวไปที่ประตูห้อง ทุกอย่างรวดเร็วว่องไวใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ

“มาแล้วๆ จะทำเสียงดังทำไมนะพี่สิงห์ หนวกหูรบกวนชาวบ้านเค้า”

จิรัชยาว่าเสียงหวาน ใจตุบๆ ต่อมๆ เมื่ออีกฝ่ายมองเธอแบบหัวจรดเท้า สภาพของเมียรักดูช่างน่าสงสัยนัก สิงห์หรี่ตาแล้วเดินเบียดร่างอิ่มในชุดผ้าเช็ดตัวจนแทบกระเด็น จิรัชยาวิ่งตามไปติดๆ ทันที

“ไหน มันอยู่ไหน!”

เสียงตวาดดุของสิงห์ทำให้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้ถึงกับสะดุ้ง ตรีศรใจเต้นแทบจะโลดออกมานอกอก

พ่อแก้วแม่แก้วช่วยผมด้วย ไม่สิ! พ่อไสว แม่ลัดดา ช่วยไอ้รองด้วยครับ!

“อะไรพี่สิงห์ หาอะไรเหรอจ๊ะ”

จิรัชยาโอบรอบเอวหนาแล้วเบียดเนื้อตัวอิ่มอวบเข้าหาเขา ทำให้สิงห์ชักจะใจแกว่ง อยากจะเลิกเล่นเกมจับชู้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เพราะห่างจากแฟนสาวมาเกือบอาทิตย์

“ก็คนที่มึงเอามาเก็บไว้ไง”

“โธ่...พี่สิงห์จ๋ามีใครที่ไหนกันเล่า มามะมากอดกันดีกว่าจอยคิดถึ้ง...คิดถึงพี่”

มือขาวนวลปลดผ้าเช็ดตัวออกจากร่างงามทันที สิงห์ถึงกับหายใจสะดุด เมื่อเห็นร่างเปล่าเปลือยนั่นเต็มตา

จิรัชยาโถมตัวเข้ากอดเขา แล้วเริ่มลูบไล้เพื่อปลุกอารมณ์ หวังให้เขาลืมเรื่องที่ระแวงแคลงใจไปเสีย

“ไม่มีแน่นะ”

สิงห์ยังคงถามอย่างไม่อยากจะวางใจง่ายนัก

“แหม...อย่ามาพูดจาไร้สาระอยู่เลยจ้ะ พี่สิงห์จ๋า มามะ...มาทำให้จอยหายคิดถึงพี่ดีกว่า”

สาวเจ้ามือไวปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างของแฟนหนุ่มร่างบึก สิงห์อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นทันทีเมื่อถูกปลุกเร้าขนาดนั้น เขาช้อนร่างนวลขึ้นอุ้มแล้ววางจิรัชยาบนเตียงค่อนข้างแรง ก่อนจะโถมทับไปฟอนเฟ้นร่างงามอย่างมันเขี้ยว

“อา...พี่สิงห์จ๋า เบาๆ หน่อย ช้ำหมดแล้ว”

“โอ...สุดยอดจริงๆ เมียพี่”

เสียงกระเส่าสองเสียงดังสอดคล้องดังลั่นห้อง พร้อมกับเสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด บอกได้ว่าสมรภูมิบนเตียงคงจะดุเดือดเลือดพล่านมากมาย สองคนนั้นแสนสุข แต่อีกคนที่นั่งตัวแข็งซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้านี่สิ มันช่างทรมานเสียจริงๆ

เฮ้อ...ผิดศีลข้อสาม มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นอย่างนี้นี่เอง ไอ้รองเอ๊ย!

................................................................................................................................................................................

จิรัชยาค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาก่อนจะกะพริบตาปริบๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืน เธอค่อยๆ ขยับแขนของแฟนหนุ่มที่กกกอดไว้แน่นออก เพื่อจะค่อยย่องไปช่วยตรีศรที่ตอนนี้ยังอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเธอ

“จะไปไหนจอย”

เสียงห้าวดังขึ้นทันทีเมื่อเธอขยับตัว จิรัชยาหันมายิ้มแหยให้กับสิงห์แล้วเอ่ยเสียงหวาน

“จอยจะไปอาบน้ำน่ะจ้ะ พี่สิงห์ไปอาบด้วยกันไหม อาบนานๆๆ นะจะได้รีบไป จอยกับพี่สิงห์จะเข้าไปอาบน้ำนานๆ”

คำพูดแปลกพิกลของเธอทำให้สิงห์ขมวดคิ้ว ส่วนคนที่ซุ่มอยู่ในตู้ ตอนนี้มีตาเป็นหมีแพนด้าเพราะอดนอน แถมต้องนั่งตัวแข็งเพราะความคับแคบในนั้น รับรู้ถึงสัญญาณที่สาวเจ้าส่งให้ มีทางรอดแล้วโว้ยเรา! ชายหนุ่มอุทานในใจ

“ไปก็ไป จอยถูหลังให้พี่ด้วยนะจ๊ะ”

สิงห์อ้อนแฟนสาว ก่อนจะประคองกันขึ้นไปจากเตียง แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเริ่มสงครามรักครั้งใหม่ ก็มีเหตุเกิดขึ้นเสียก่อน

โครม!