บท
ตั้งค่า

บทที่5 ตอน “ฝากรัก ฝากรอย(2)" 1

น้ำตก…

เป็นดังใจนึกไว้ไม่มีผิด เมษาขับรถวนพาอรอุษาตะเวนหากังสดาลและนิรุตติ์จนอ่อนใจ ชายหนุ่มบังคับพวงมาลัยแล้วเลี้ยวหัวรถขับเข้าไปตามทางลาดยางมะตอย เขาเหลือลสายตาขึ้นมองป้ายชื่อที่ตั้งตระหง่านอยู่ปากทางเข้าไปยังน้ำตก นึกในใจคงต้องเจอหลานตัวแสบที่นี่แน่เพราะเป็นที่สุดท้ายแล้ว ขับรถตามหาตั้งแต่เช้า นี่ก็ปาเข้าไปจะสิบเอ็ดโมงเช้าแล้วด้วย ‘น้ำตกศรีดิษฐ์’

“อย่าให้ได้เจอตัวนะกังสดาล…พ่อจะจับฟาดก้นให้เค็ดเลยคอยดู” เมษากัดฟันพร้อมทั้งเค้นเสียงไม่ดังมากนักออกมาจากเรียวปากหนา แต่ก็ดังพอให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับได้ยิน

“พี่เมฆว่าอะไรนะคะ” อรอุษาถึงจะเอาแต่สนใจจ้องมองทิวทัศน์ข้างทางผ่านกระจกรถที่วิ่งเข้าไปในสวนแหล่งธรรมชาติอนุรักษ์สัตว์ป่า แต่เธอก็ยังคอยชำเลืองสายตามองเสี่ยวหน้าชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลาที่พาเธอตะเวนหากังสดาล

“เปล่าครับ” เมษาชะลอรถขับช้าลงแล้วจอดรถตรงลานจอด สายตามองผ่านแว่นตากันแดดทรงเรย์แบนนั่นก็สอดส่องมองหาร่างของแม่หลานสาว โดยที่ไม่ได้มองมายังคนที่นั่งอยู่เคียงข้าง

“พี่เมฆว่าเราจะเจอกังสดาลกับนิรุตติ์ปะคะ?” อรอุษาเปิดประตูรถก้าวเดินออกมายืนข้างชายหนุ่ม เธอเหลียวมองสิ่งแวดลอมธรรมชาติของป่า มองดูร้านค้าเล็กๆ สองสามร้านที่ชาวเขาเผ่าแม้วจะมาสร้างกระต๊อบขายของที่ละลึก

“พี่ว่าคงพากันมาที่นี่แหละ แหล่งสุดท้ายแล้วนี้” เมษาพูดโดยไม่ได้ใส่ใจคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาปิดประตูรถแล้วก้าวเดินนำหน้าตรงไปยังลานน้ำตก

เสียงน้ำตกไหลกระทบก้อนหินดังซ่าๆ แข่งกับเสียงผู้คนหนุ่มสาวจับคู่ที่พากันมาเล่นน้ำพักผ่อนคลายร้อนวันเสาร์แบบนี้ ต่างพากันแหวกว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน บ่างก็นั่งคุยกันจู๊จี๊ บ่างก็พากันนั่งแช่ในน้ำ ไม่ต่างจากกังสดาลสาวน้อยวัยขบเพราะที่นั่งอยู่บนโขดหินได้แต่เอาเท้าสองข้างยื่นลงไปแกว่งน้ำเล่น ใจอยากลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ แต่ใจไม่กล้าเพราะเธอว้ายน้ำไม่เป็น ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ

“กั้งลงมาเล่นน้ำด้วยกันสิครับ” นิรุตติ์แหวกว่ายน้ำจากลึกเลื้อยคลานเข้าบนตะลิ่ง และยังใช้ร่างท่อนบนเปื่อยเปล่าสวมแค่กางเกงวอมส์ขาสั่นแค่ตัวเดียวคืบคลานเหมือนงูเหลือมมายังโขดหินที่มีร่างแน่งน้อยนั่ง

“ไม่ดีกว่าค่ะ…”

“ทำไมครับ…มาเถอะนั่งอยู่บนนั่นไม่ร้อนหรือครับ…”

“ร้อนที่ไหนดูสิกั้งนั่งอยู่ในร่มไม้แบบนี้ไม่ร้อยเลย” ยื่นมือเรียวงามแหวกผิวน้ำเย็นเฉียบเล่น ทำให้เขาดูว่าเธอไม่อยากลงเล่นน้ำ แต่ในใจอยากเล่นใจแทบขาด

“ไป๋…เดี๋ยวพี่สอนให้…”

“กั้งกลัว” คนร่างบางยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นจากน้ำแล้วนั่งในท่ากอดเข่า แววตาดวงโตก็หันไปมองนิรุตติ์ที่ยังนอนยาวเหยียดเกยตื้นอยู่บนผิวน้ำที่มีทั้งก้อนหินก้อนทรายเต็มอยู่ในน้ำ

“พี่อยู่นี่ทั้งคนจะกลัวทำไม” นิรุตติ์ที่ยังนอนแช่น้ำอยู่ขยับตัวลุกนั่งช่วงเอวยังแช่ตัวอยู่ในน้ำ เขาหันใบหน้าสีแทนแววตาตี๋ๆ อ่อนโอนเป็นห่วงหันข้างมองพวงแก้มที่แดงออกชมพูคงเป็นเพราะความร้อนของแสงแดดที่ส่องมายังเธอ ถึงเจ้าหล่อนจะยังนั่งกอดเข่า นิรุตติ์ไม่กล้าที่จะสัมผัสผิวนวลนั่นได้แต่นึกคิดและจินตณาการเอา

“น้ำมันลึกกั้งกลัวค่ะ…”

“พี่จะพาไปเล่นตรงน้ำไม่ลึก…ไป” นิรุตติ์ลุกยืนขึ้นเต็มความสูงอวดร่างกายอันขาวแต่เต็มไปด้วยมัดกร้ามเนื้อแน่นแผ่นอกไล่ลงมาจนถึงหน้าท้องที่เป็นชั้นเป็นลอนมันไม่มีแม้แต่ไขมันเอาเสียเลย เขายื่นมือมาหาน้องแน่งน้อยที่เอาแต่นั่งหลบสายตาและอายแทนเขาที่ชอบโชร์ร่างกายท่อนบนให้ดูเสมอ

“กะ…กั้งกลัว” เปรยพูดเบาๆ แต่สาวเจ้าก็ยื่นมือให้ชายหนุ่มจับฉุดให้ลุกขึ้น เขาทั้งสองจูงมือพาเดินลุยน้ำลงไปอย่างเชื่องช้า

“เกาะหลังพี่ไว้…ไม่ต้องกลัวนะครับ” นิรุตติ์กระซิบบอกกังสดาลทั้งยังใชเลำแขนอันแข็งแกล่งกวักว่ายน้ำจากตื่นแค่เอวลงไปยังน้ำลุกลงทุกทีจนลำคอของเขา เขาพาเธอไปที่ตรงไม่มีผู้คนมากนักเพราะจะสะดวดในการสอน

“พี่รุตติ์ว่ายช้าๆ สิค่ะ กั้งกลัว ทำไมน้ำดูลึกจัง” หญิงสาวเสียงสั่นกลัวเหลือเกินยามได้อยู่ในน้ำที่ลึกและดูจะสีของน้ำจะเขียวจนดำแบบนี้ เธอยิ่งกระชับสองมือเกาะที่บ่ากว้างและอาศัยแผ่นหลังอันแข็งแกล่งเป็นแผ่นฟองน้ำรองรับร่างของเธอไว้ไม่ให้จมลงไปในน้ำ

“ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่จะยืนให้กั้งเกาะนะ” นิรุตติ์ยืนในน้ำ ผืนน้ำที่ไหวเป็นครื่นอยู่ในระดับราวอกอันแข็งแรง เขาขยับกายเข้าหาร่างบาง ใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน เพราะยังมีมือเรียวบางทั้งสองข้างเกาะอยู่ที่หัวไหล่ของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel