บท
ตั้งค่า

ตอน “หวงหลาน” 2

“อุ้ย !!...” กังสดาลเซถลาเกือบหงายหลังลงไปกองกับพื้นแน่ถ้าไม่ได้วงแขนอันแข็งแกล่งของใครบางคนที่ออกมายืนเป็นนางแอบชอบฟังคนอื่นสนทนากันอยู่ข้างประตูด้านในบ้าน

“กะจะสั่งลากันให้ถึงเช้าเลยใช่ไหม?” คนตัวโตกระซิบเสียงเข้มลอดออกมาจากลายฟัน คางหนายังเกยทับอยู่บนกระหม่อมน้อย

“น้าเมฆ !!” ดิ้นขรุขระอยู่ในอ้อมกอดของเขา หน้าผากนวลชนเข้ากับราวนมของคนตัวสูงและใหญ่กว่าเธอมาก กังสดาลต้องผลักแผ่นอกแกล่งที่เธอสัมผัสลูบคำนั่นออก แล้วแหงนหน้ามองปลายคางหนา

“ดูเวลาเป็นหรือเปล่าฮ่ะว่า…มันกี่ทุ่มกี่ยามแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมชอบทำให้ผู้ใหญ่นั่งรอ…จะดิ้นทำไมนักหนาฮ่ะ…”

“น้าเมฆ…อย่ามาใส่ร้ายกั้งแบบนี้นะ” แววตากลมโตจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครา กำปั้นน้อยๆ ยกขึ้นทุบลงไปบนอกแข็งๆ ของเขาสองสามทีเสียงตึกๆ

“เด็กใจแตกเอ้ย…ออกไปได้ไงค่ำๆ มืดๆ กับผู้ชายสองต่อสองฮ่ะ” คนชอบวางอำนาจหวงของเปล่งเสียงดุดันใส่หน้าหลานสาว พร้อมทั้งรวบกำกระชับแน่นเรียวข้อมือบอบบางที่เอาแต่ทุบตีเขา ข้อมือน้อยถูกรวบไว้ด้วยมือข้างเดียวแล้วไขว้ไว้ด้านหลัง

“อย่ามาหาเรื่องว่ากั้งแบบนี้นะ...”

ทำไมจะว่าไม่ได้ฮ่ะ...ไอ้เด็กใจแตกอยากอุ้มท้องไปเรียนหนังสือหรือไง ถึงออกไปกับมันสองคนแบบนั่น บอกน้ามาว่ามันทำรอยไว้ตรงไหนบ้าง…”

น้าเมฆ !!...หยุดให้ร้ายกั้งเสียทีกั้งไม่ได้ไปกับพี่รุตติ์แค่สองคนสักหน่อย มีเด็กๆ ในหมู่บ้านตามไปเป็นสิบ…ถึงกั้งจะมีอะไรกับพี่รุตติ์มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับน้าเมฆเลย” กังสดาลสะบัดร่างให้ออกจากการวงแขนอันทรงพลังที่ยังกอดกระชับแน่นด้วยลำแขนข้างเดียว เธอพยายามบิดข้อมือของตัวเองที่ถูกชายหนุ่มจับไขว่หลังไว้ให้หลุดพ้น ใบหน้านวลใสยังแหงนขึ้นจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเข้มคู่นั่น

“ทำไมจะไม่เกี่ยวเธอเป็นหลานฉัน” เสียงเข้มเค้นออกมาจากเรียวปากหนา ขบกรามจนเกิดเป็นสันนูนยามได้ยินแม่หลานสาวใจแตกเอ่ยมาแต่ละคำ

“ทุเรศ อย่ามาว่ากั้งแบบนี้นะ ปล่อย” แววตาดวงโตสั่นเล็กน้อยมองใบหน้าของชายหนุมที่ยังเอ่ยวาจาหาเรื่องเธอ

“ตรงไหนมั่งที่มันสัมผัส บอกน้ามาเดี๋ยวนี้” เมษาโน้มใบหน้าที่แดงก่ำเข้าหาทีนิดๆ เขาเอาแต่จ้องมองเรียวปากบางอมแดงเหมือนลูกเชอร์รี่แล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอ อยากจะลิ้มลอง ชิมดูเหลือเกิน

“ปล่อยนะ…กั้งจะขึ้นห้อง” กังสดาลดวงใจที่คิดไม่ซื่อกลับน้าชายนั่นหวั่นไหวสั่นสะท้านยามได้สบแววตาอันแรงกล้า เธอรีบก้มหน้าอันร้อนผ่าว

“บอกน้ามาสิว่ามันสัมผัสตรงไหนมั่ง?” คนตัวโตได้เปรียบยิ่งออกแรงกระชับโอบกอดรอบเอวคอดกิ่ว เขายกอุ้มร่างบางด้วยแขนข้างเดียวขึ้นเล็กน้อย จนปลายเท้าเรียวสวยลอยมาเหยียบบนหลังเท้าของเขาไว้ มือเรียวบางทั้งสองข้างที่โดนจับไขว่หลังไร้อสระภาพ เพราะเขาได้ยกมือขึ้นไปจับปลายคางแหลมมนดันให้ใบหน้าของหลานตัวบางเงยขึ้นมองสบตากับเขา

“นะ…น้าเมษ ปล่อยได้แล้ว…กั้งจะขึ้นห้อง” กังสดาลเนื้อตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูง เรียวหน้ารูปไข่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ไม่กล้าที่จะสบสายตาแพรวพราวคู่นั่น เธอหลบงุดทันที

“ไม่ปล่อย จะกอดอยู่แบบนี้และถ้าไม่หยุดดิ้นน้าจะทำมากกว่ากอดแน่” เมษาไม่อาจห้ามใจที่ปราถนาร่างบางนี้เขาแอบรักหลานสาวมาตั้งแต่นานนม ใบหน้าสีแทนโน้มเข้าหาอย่างเชื่องช้า

“นะ…น้า…มะ…เมฆ…จะทำอะไรกั้ง” เปรยเสียงอันสั่นเครือตะกุกตะกัก พร้อมทั้งเหลือบเปลียกตาขึ้นมองหน้าของเขา ยามได้กลิ่นลมหายใจผสมบุหรี่และแอลกอฮอล์เป่าลดอยู่บนผิวหน้าของตัวเอง

“ตรงนี้ใช่ไหมที่มันสัมผัส” เมษากระซิบเสียงแหบแห้งยามได้มองผิวพวงแก้มแดงระเรื่อ ปลายนิ้วชี้เรียวยาวยังเชยคางมนให้แหงนขึ้นมอง

ความอดทนต่อต้านไว้มากไม่ไหว หัวใจที่เรียกร้องอยากให้ทำผิดกับหลานสาวมันสุมทรวงมานานมากแค่ไหน วันนี้เขาจะปล่อยมันออกมาเป็นตรารอยแห่งความรัก เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าหา ริมฝีปากหยักโฉบเฉียวลงประกบเรียวปากบางอ่อนนุ่มนิ่ม…

“อุ๊บบ…” กังสดาลหัวใจสั่นสะท้ายเนื้อตัวสั่นอยู่ในออมกอดของชายหนุ่ม ตาดวงโตเบิกกว้างจ้องค้างอยู่อย่างนั่น มองผิวหน้าสีแทนชิดติดผิวหน้าของเธอ

“จูบนี้ห้ามให้ใครซ้ำรอยเด็ดขาด” คนตัวโตยังอุ้มร่างบางไว้ เสียงเข้มกระซิบกระซาบชิดติดเรียวปากบาง อยากจะทำมากกว่านี้แต่กลัวแม่กระต่ายน้อยจะตื่นกลัว แค่นี้เขาก็รู้สึกได้แล้วว่าแม่หลานสาวสั่นกลัวขนานไหน

“นะ…น้าเมฆปล่อยกั้งค่ะ หายใจไม่ออก” เสียงใสพูดอู้อี้อยู่ในลำคอ เพราะมีริมฝีปากหยักปิดกลั้นเสียงของเธอไว้สองมือน้อยยกขึ้นผลักดันใบหน้าของน้าชายให้ออกห่าง

“บอกน้าซิว่าจะไม่ให้ใครซ้ำรอยน้า” กระซิบบอกเป็นคำสุดท้ายพร้อมทั้งกดเรียวปากของตัวเองเน้นหนักหน่วงลงบนกลีบปากบางอมชมพู แล้วผลักใบหน้าออกจากเธอ สื่อแววตาจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั่น ให้เธอรับรู้ว่าน้าชายคนนี้คิดไม่สื่อกับเธอเสียแล้ว

“น้าเมฆก็ปล่อยกั้งสิค่ะ” ดิ้นหลุดพ้นลงมายืนแต่เท้าเรียวสวยยังเหยียบย่ำบนหลังเท้าของน้าชาย

“ตอบน้าสิ ถ้าไม่ตอบน้าจะทำใหม่อีก…”

“อย่านะ” ดิ้นออกจากวงแขนของเขาได้เธอก็จะวิ่งหนี แต่ก็ช้ากว่าชายหนุ่มไปมาก

“จะไปไหนยังไม่ตอบน้าเลย” ร่างน้อยลอยละลิ่วเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง กังสดาลพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากวงแขนอันทรงพลังนั่น แต่ก็ไม่สำเร็จ ร่างบางโดนคนตัวโตผลักดันให้ไปพักผิงติดข้างฝา แล้วปล่อยให้เจ้าหล่อนเป็นอิสระจากอ้อมกอด แต่เขายกแขนทั้งสองข้างค่ำยันฝาผนังห้องไว้กักขังเธอไว้อีกรูปแบบหนึ่ง

“ว่าไงบอกน้ามา” เมษาตัวโตใหญ่เกินมาตราชายไทย เขาก้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ ดวงตาสีนิลเปล่งประกายทอแสงแห่งความรักจับจ้องมองผิวหน้ารูปไข่ พวงแก้มริมฝีปากเรียวบางที่เขาได้สัมผัสเมื่อคู่นี้ เปล่งประกายแดงระเรื่ออมชมพูคงจะเพราะความเขินอายของเจ้าหล่อนแน่ ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าหาอีกครั้งเพื่อต้องการคำตอบจากหลานสาวตัวแสบที่ไม่ยอมตอบเขาสักที

“น้าเมฆ…อย่านะ” เอืองใบหน้าร้อนผ่าวหนี พวงแก้มนวลริมฝีปากเรียวบางที่เธอหวงแหนมาทั้งชีวิตนั่นโดนน้าชายเจ้าเล่ห์ได้ตรีตราจองเป็นคนแรกและคงจะเป็นคนสุดท้ายเช่นกัน

“น้าอยากฟังคำตอบ แก้มพวงนี้มีน้าคนเดียวที่จะได้สัมผัส” ริมฝีปากหยักเอ่ยกระซิบแผ่วเบาตรงพวงแก้มนุ่มนิ่ม จมูกโด่งก็สูดดมเอาความหอมของกายสาวแรกแย้มเข้าไปไว้ในปอด

“จะมีใครมาซ้ำรอยได้ล่ะคะ มีแต่น้าเมฆเท่านั่นที่ทำแบบนี้กับกั้ง” กังสดาลเปรยเสียงสั่นๆ มือน้อยเรียวงามเกาะกุมขยุบที่คอเสื้อของน้าชายไว้นั่นได้ออกแรงผลักให้เขาออกห่าง ช่วงจังหวังที่เขาเพล่อก็รีบจ่ำอ้าววิ่งหนีขึ้นบันได

“กั้ง !!” ชายหนุ่มเซถอยหลังเล็กน้อย พอได้สติเขาก็รีบกระโดนขึ้นบันได คั่นเว้นคั่นวิ่งตามหลานรักที่เอาแต่วิ่งหนีเข้าห้องปิดประตูลงกลอนใส่หน้าเขา

เมษาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้าสีแทนส่อความสุขใจขึ้นมาทันทียามได้ยินหลานสาวว่ามีเขาเพียงคนเดียวที่ทำแบบนี้ คนเจ้าเล่ห์แนบหูเข้ากับบานประตูฟังเสียงของคนตัวน้อยที่พึมพำอยู่คนเดียวในห้อง คงิดว่าจะไม่มีใครได้ยินละสิ

“กั้งเปิดประตูให้น้าเดี๋ยวนี้…เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย” เรียวมือหนาจับลูกบิดประตูหมุนไปมา เสียงเข้มก็ยังกระซิบเบาๆ บอกให้คนตัวบางได้ยิน

“น้าเมฆนะน้าเมฆ ขโมยจูบแรกของกั้งไปทำไม คนบ้า…คนผีทะเล” กังสดาลยืนบ่นพึมพำให้ได้ยินแค่เพียงเธอ ขาสั่นตัวสั่นเขินอายตัวเองเหลือเกินที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้ชายหนุ่มได้จูบเธอเป็นคนแรก แผ่นหลังนวลแนบชิดพิงบานประตูห้อง เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นลูบใบหน้าและเรียวปากของตัวเองมันช่างร้อนวุบวาบตรงตราประทับที่เขาฝากไว้เสียเหลือเกิน หญิงสาวทนฟังเสียงกระซิบของชายหนุ่มที่อยู่ด้านนอกไม่ไหว รีบผลักหนีขึ้นไปนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง แววตาดวงโตยิ่งเบิกกว้างมองบานประตูที่ถูกชายหนุ่มหมุนกลอนประตูและผลักดันให้เปิด กลัวเหลือเกินกลัวว่าบานประตูจะเปิดออกเองได้เพราะแรงพลังแห่งความปรารถนาของชายหนุ่ม……

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel