บทที่4 ลืมตัว
"ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ" อคินเอ่ยขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าไม่ค่อยโอเคของรุ่นน้องสาวพยายามแสดงความห่วงใยออกมาทั้งที่ภายในใจรู้สึกตรงกันข้าม เขาต้องใช้ความอดทนอย่างมากกับการฝืนทำดีกับผู้หญิงข้าง ๆ ที่ไม่มีอะไรดีสักนิดแม้แต่หน้าตา
"ค่ะ" ของขวัญเพียงระบายยิ้มบาง ๆ ให้หนุ่มรุ่นพี่แล้วก้มหน้าก้มตาเดินต่อ
"รถพี่จอดอยู่ตรงนั้นครับ" อคินพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากเดินมาจนถึงลานจอดรถของคณะวิศวะกรรมศาสตร์พร้อมชี้ไปยังรถสปอร์ตหรูราคาหลายสิบล้านที่จอดเด่นตระห่านอยู่เพียงคันเดียว
พลอยกับของขวัญถึงกับตาลุกวาวแค่รถที่ใช้ขับก็บ่งบอกได้แล้วว่ารุ่นพี่หนุ่มรวยขนาดไหน ทั้งสองหันมองหน้ากันตาปริบ ๆ ก่อนก้าวเท้าเดินตามรุ่นพี่หนุ่มไปยังรถคันหรู
"เชิญครับน้องของขวัญ" อคินเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับพร้อมรีบเปล่งเสียงเรียกรุ่นน้องสาวที่ทำท่าจะเปิดประตูรถด้านหลัง
ของขวัญปรายตามองหน้าเพื่อนสาวเล็กน้อยแล้วเดินไปขึ้นทางประตูที่รุ่นพี่เปิดรออยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้พร้อมกล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม "ขอบคุณค่ะ"
อคินเพียงระบายยิ้มหวานให้รุ่นน้องสาวแล้วปิดประตูลงจากนั้นก็เดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ ขับออกจากลานจอดรถด้วยความเร็ว
ดวงตาคมกริบปรายมองเสี้ยวหน้าของรุ่นน้องสาวที่มองออกไปนอกกระจกรถอย่างพินิศพิจารณา ผิวพรรณของเธอขาวผ่องราวกับลูกคุณหนู ใบหน้าเรียวรูปไข่มีแก้มนิดหน่อย จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากเล็กกระจับ ขนตายาวเรียงตัวเป็นแพรขับให้ดวงตากลมโตภายใต้แว่นตาหนาเตอะดูคมขึ้นไปอีกเมื่อมองดูดี ๆ เธอก็มีเค้าโครงความสวยอยู่เหมือนกัน
อคินนั่งมองรุ่นน้องสาวเงียบ ๆ อย่างใช้ความคิดนานนับนาที ก่อนดึงสายตากลับไปมองถนนต่อพร้อมกับเริ่มบทสนทนาเพื่อทำลายความเงียบภายในรถ "เรียนเป็นยังไงบ้างครับน้องของขวัญ ยากไหม"
"ไม่ยากค่ะ" ของขวัญหันหน้ามาตอบหนุ่มรุ่นพี่พร้อมระบายยิ้มบาง ๆ
"มีอะไรสงสัย หรืออยากรู้อะไรถามพี่ได้ตลอดนะครับ"
"ค่ะ"
"แล้วมีเรียนทุกวันหรือเปล่าครับ"
"มีทุกวันค่ะ"
"ครับ"
อคินพยายามชวนรุ่นน้องสาวคุยโน่นคุยนี่ตลอดทาง ทว่าอีกคนกลับถามคำตอบคำจนเขารู้สึกเบื่อหน่ายไม่รู้ว่าจะสรรหาอะไรมาคุยดี เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลย ส่วนพลอยก็นั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เงียบ ๆ
@ร้านอาหาร
รถสปอร์ตหรูเคลื่อนตัวมาจอดลงยังร้านอาหารชื่อดังซึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ก่อนทั้งสามคนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วพากันเดินเข้าไปในร้านอาหารโดยมีอคินเดินนำเข้าไป
"เชิญครับน้องขวัญ" เขาเลื่อนเก้าอี้ให้สาวรุ่นน้องนั่งเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ดูแลอย่างดีราวกับเป็นแฟนกัน
"ขอบคุณค่ะ" การกระทำของรุ่นพี่หนุ่มทำให้ของขวัญรู้สึกแปลก ๆ ไม่น้อยเพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้ให้ เธอน้อมศีรษะขอบคุณด้วยความเกรงใจพร้อมหย่อนสะโพกนั่ง
"ด้วยความยินดีครับ" อคินตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้อีกฝั่งตรงข้ามรุ่นน้องสาวปล่อยให้สองสาวได้นั่งด้วยกันเพราะไม่อยากทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมากเกินไป เดี๋ยวจะพานหลบหน้าเขาอีก
หลังจากนั้นทั้งสามก็เริ่มสั่งอาหารทันที ระหว่างรออาหารอคินก็พยายามหาเรื่องชวนสาวรุ่นน้องคุยตลอดเพื่อทำความคุ้นชินกับเธอให้ได้มากที่สุด
"อ้าวไอ้เหี้ยคินกูว่าทำไมโทรไม่รับที่แท้ก็อยู่กับสาวนี่เอง" เสียงทุ้มของใครบางคนดังแทรกขึ้นจากด้านหลังทำให้อคินหยุดชะงักหันไปมองทางต้นเสียง เขาถึงกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อเห็นเพื่อนทั้งสามยืนยิ้มหน้าบานอยู่พร้อมขยับปากด่าเบา ๆ "ไอ้พวกเหี้ย"
ของขวัญได้แต่มองหนุ่มรุ่นพี่กับกลุ่มผู้ชายสามคนสลับไปมาด้วยความสงสัย ก่อนหันมองหน้าเพื่อนสาวที่มีท่าทางไม่ต่างจากเธอเท่าไร
"นี่เพื่อนพี่เองครับน้องของขวัญ น้องพลอย" ทั้งสองละสายตาออกจากกันแล้วตวัดมองไปยังหนุ่มสามคนที่ยืนอยู่เมื่อเสียงของรุ่นพี่หนุ่มดังขึ้น
"คนนี้วิน นี่เขตแดน ส่วนคนนี้ลีโอครับ" อคินรีบแนะนำเพื่อนแต่ละคนให้รุ่นน้องสาวทั้งสองคนได้รู้จักทันทีเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของพวกเธอ
ของขวัญกับพลอยไล่สายตามองสามหนุ่มตามคำแนะนำของรุ่นพี่หนุ่มพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีครับสาว ๆ" วินตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนเขตแดนกับลีโอเพียงพยักหน้ารับพร้อมระบายยิ้มให้บาง ๆ
วินจับจ้องหน้าสาวรุ่นน้องที่นั่งตรงหน้าอคินพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะตวัดสายกลับมามองหน้าเพื่อนชายพร้อมกระตุกยิ้มร้ายมุมปากเมื่อจำได้ว่าเธอคือคนที่เขาท้าให้เพื่อนจีบ
คาดไม่ถึงว่าเพียงวันเดียวอคินเพื่อนจอมเพลย์บอยก็ก้าวหน้าถึงขั้นนั่งร่วมโต๊ะทานข้าวแล้วไม่เสียชื่อเสือจริง ๆ "ใช้ได้นี่หว่า"
"แน่นอน" อคินยกยิ้มมุมปากไหวไหล่ให้เพื่อนชายอย่างเยาะเย้ย
"อย่าเพิ่งดีใจไปของแบบนี้มันต้องดูกันยาว ๆ ไอ้อคิน" ลีโอพูดขัดขึ้นเพราะรู้สึกหมั่นไส้กับความมั่นหน้ามั่นโหนกของเพื่อนชาย
บทสนาที่หนุ่มรุ่นพี่ทั้งสี่คนคุยกันสร้างความสงสัยให้ของขวัญกับพลอยเป็นอย่างมาก ทั้งสองขมวดคิ้วมองหน้ากันด้วยแววตาสงสัยไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของรุ่นพี่หนุ่มมากนัก แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสาว ๆ
"ดูท่าทางจะร้ายไม่เบาทั้งกลุ่มเลยนะ" พลอยเอียงหน้าไปกระซิบประชิดกกหูเพื่อนสาว
"เราก็ว่าอยู่" ของขวัญพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนทั้งสองจะต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อหันกลับไปก็พบว่ารุ่นพี่ทั้งสี่คนมามองที่เธอสองคนเป็นตาเดียวกัน "อู้ย!"
"แอบนินทาอะไรพวกพี่หรือเปล่าครับ" อคินเอ่ยทีเล่นทีจริงจับจ้องหน้ารุ่นน้องสาวด้วยแววตาดุทำคนโดนจ้องอย่างของขวัญถึงกับเลิ่กลั่กเลยทีเดียว
ดวงตากลมโตชำเลืองมองหน้าเพื่อนสาวเล็กน้อย ก่อนเปล่งเสียงตอบรุ่นพี่หนุ่มอย่างตะกุกตะกัก "มะ..ไม่ได้นินทาอะไรเลยค่ะ"
"หึ" อคินเค้นหัวเราะในลำคออย่างนึกตลกกับท่าทางของรุ่นน้องสาวมองจากดาวอังคารก็รู้ว่าเธอโกหกพิรุธของเธอมันชัดเสียขนาดนั้น มือหนาเอื้อมไปยี้ผมของรุ่นน้องสาวเบา ๆ ด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวกับความซื้อบื้อของเธอ "มีคนเคยบอกหรือเปล่าครับว่าน้องโกหกไม่เก่ง"
"หนูไม่ได้โกหกนะคะ" ของขวัญลืมตัวเถียงรุ่นพี่หนุ่มเสียงดังลั่นเพราะกลัวเขาจับได้ว่าเธอกับเพื่อนแอบนินทาพวกเขาจริง ๆ พลางพาศีรษะหนีจากมือหนา ก่อนใบหน้าเรียวจะสลดลงในวินาทีต่อมาเมื่อนึกได้ว่าตัวเองเผลอพูดจาเสียงดังใส่รุ่นพี่หนุ่มนึกตำหนิตัวเองในใจน้อย ๆ ก่อนหันไปพูดกับเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนเกือบจะขาดหาย "หนูไม่ได้โกหกนะคะ"
อคินเองก็แอบตกใจกับเสียงพูดก่อนหน้านี้ของรุ่นน้องสาวอยู่เล็กน้อยแต่ก็เลือกจะไม่พูดอะไรต่อเพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเพียงระบายยิ้มให้รุ่นน้องสาวบาง ๆ "ครับ"
"พวกกูไปดีกว่าไม่อยากเป็นก้างขวางคอ" วินที่ยืนมองเงียบ ๆ พูดลอย ๆ ใส่เพื่อนชาย แล้วหันไปพูดกับรุ่นน้องสาวทั้งสองต่อ "พวกพี่ไปก่อนนะครับสาว ๆ หลังจากนี้เราคงจะได้เจอกันบ่อย ๆ"
สิ้นเสียงพูดวินกับเพื่อน ๆ ก็เดินจากไปทันทีทิ้งให้รุ่นน้องสาวทั้งสองมองตามหลังด้วยความสงสัยกับคำพูดแปลก ๆ ของเขา
"อย่าไปสนใจเลยครับเพื่อนพี่มันก็พูดไปเรื่อยเปื่อย ทานข้าวกันดีกว่าครับ" อคินรีบพูดตัดบทดึงความสนใจของรุ่นน้องสาวทั้งสองให้กลับมาสนใจอาหารที่พนักงานเสิร์ฟนำมาวางตรงหน้าแทน
สิ้นเสียงรุ่นพี่หนุ่มของขวัญกับพลอยก็ดึงสายตากลับมามองจานอาหารบนโต๊ะแทนจากนั้นก็เริ่มลงมือทานกันไปเงียบ ๆ