บทที่ 2 นิลอุบล
ช่วงสายของวัน นิลอุบลเข้าไปแต่งตัวเพื่อไปทำงาน แล้วมารอดูอาการของยายอย่างห่วงใย พลางคิดว่าถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็คงต้องไหว้วานโสมวดีมาช่วยดู เพราะร้านขายดอกไม้สดและพวงมาลัยมีลูกจ้างมาเฝ้าต่อในช่วงสาย บางครั้งนิลอุบลก็เกรงใจคนตึกใหญ่เพราะทางนั้นไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในเขตรั้วมากนัก คิดอีกทีอาจจะวานคนทำงานในตึกให้มาดูแทนในช่วงเธอไม่อยู่ ขณะกำลังคิดเพลิน เสียงเปิดประตูห้องนอนของยายก็ดังขึ้น
“อะไรกันนิล ยังไม่ไปทำงานอีกหรือ”
เจ้าของเสียงแหบทักอย่างประหลาดใจ หลานสาวเดินไปประคองร่างผอมบางของยายที่อยู่ในเสื้อไหมพรมหนาเนื้อหยาบแต่กันหนาวได้ดีพาออกมา
“กำลังไปจ้ะ ว่าแต่ยายเป็นไงบ้าง” นิลอุบลถามน้ำเสียงสดใส ยิ้มอย่างคลายกังวลเมื่อเห็นยายลุกเดินเหินได้แล้ว
“ดีแล้วลูก ไม่เป็นไร” ยายแถบบอกพลางทรุดนั่งบนเก้าอี้ใกล้ประตูหน้าบ้าน
“นิลต้มน้ำร้อนไว้ เดี๋ยวผสมน้ำอุ่นเช็ดหน้าเช็ดตานะ ยังไงวันนี้ห้ามยายอาบน้ำเด็ดขาด”
คนเสียงหวานพูดเจื้อยแจ้วแล้วเดินเข้าไปในครัว ก่อนจะออกมาพร้อมกะละมังใส่น้ำกับผ้าขนหนูผืนสะอาดสีขาว เธอจุ่มแล้วบิดพอหมาดๆ ส่งให้ยายรับมาซับหน้า ก่อนรับต่อมา แล้วดึงแขนเล็กเหี่ยวย่นมาเช็ดตามนิ้วมือให้อย่างนุ่มนวลทั้งสองข้าง เสร็จจึงก้มลงเช็ดเท้าจนสะอาด
เห็นยายในเช้าวันนี้ นิลอุบลสบายใจทีเดียว ยายตัวไม่ร้อนเหมือนเมื่อคืนแล้ว ไม่นานคงแข็งแรงเหมือนเดิม
“เป็นไงยาย สบายตัวแล้วใช่ไหมจ๊ะ ทาแป้งหน่อยนะ จะได้ไม่เหนียวตัว แล้วก็หอมทั้งวัน”
หญิงชราหัวเราะเอ็นดูกับคำพูดเย้าแหย่ของหลานสาว
“กินข้าวเลยไหมยาย นิลทำข้าวต้มไว้ เดี๋ยวตักให้นะ”
นิลอุบลทำท่าจะกลับเข้าไปในครัว ทว่าโดนท้วงเสียก่อน
“ยายจัดการเอง ว่าแต่เรากินหรือยัง ไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วไปทำงานได้แล้ว”
คำสั่งเจือความห่วงใยให้กันเสมอของสองหญิงต่างวัย
“นิลกินแล้ว ถ้าอย่างนั้นไปทำงานเลยนะ อ้อ! พี่โสมจะเอาน้ำเต้าหู้มาให้ คงใกล้มาแล้วล่ะ” นิลอุบลบอกเสร็จก็เตรียมตัวออกจากบ้านไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน
“เราไปบอกเขาอีกละสิ วุ่นวายจริงเชียว แล้วไม่ต้องไปบอกคนในตึกใหญ่อีกนะ ยายพักอีกหน่อยก็หาย ไม่ได้ป่วยไข้อะไรเลย แค่อากาศมันเปลี่ยน คนแก่เป็นอย่างนี้แหละ”
เสียงดังไล่หลัง ทำให้คนที่ย่างเท้าห่างจากบ้านเปลี่ยนใจเดินกลับไปหาอีกครั้ง หญิงสาวยื่นแขนเสลาโอบกอดหญิงชรา แล้วยิ้มหน้าเป็นอย่างที่คนเห็นต้องหมั่นไส้แกมเอ็นดู
“นิลมียายคนเดียว ยายต้องปวดหัวกับจอมวุ่นวายอย่างนิลอีกนานเลยละ” แหย่คนช่างประชดเสร็จก็หอมแก้มเหี่ยวไปทั้งสองข้าง ก่อนผละออกมา
ร่างบางของหญิงสาวเดินลัดไปทางด้านหลังของถนนเล็กในละแวกบ้านหรู ออกสู่ถนนซอยของแหล่งชุมชน ระยะทางเดินแม้ไม่ใกล้นัก แต่ด้วยอากาศเย็นสบายจึงเหมาะสำหรับการออกกำลังกายอย่างยิ่ง เกือบสิบห้านาทีจึงทะลุออกถนนใหญ่ไปรอรถประจำทางที่ป้าย แล้วเดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้า เป็นเส้นทางที่รวดเร็วและค่าเดินทางพอเหมาะสมสำหรับการไปทำงานทุกวัน
นิลอุบลมาถึงบริษัทตามเวลานัดหมาย แล้วเห็นหลายคนกำลังยุ่งกับการเร่งงานเพื่อให้เสร็จทันส่ง
“นิล มาพอดี พี่เตรียมแบบงานระบบฝากให้คุณธเนศที่เป็นวิศวกรของพีเอจี กรุ๊ปด้วยนะ บอกว่าพี่จะหาเวลาว่างเข้าไปคุยรายละเอียดโดยเร็วที่สุดภายในอาทิตย์นี้”
อธิปหรือบอม วิศวกรประจำแผนกบอกพลางหอบกระดาษห่อใหญ่มาวางบนโต๊ะส่วนเลขาที่นิลอุบลใช้ทำงาน หญิงสาวตอบรับอย่างเต็มใจ แต่ทำให้อุรวีย์ที่เดินมาหาเพื่อถามถึงอาการหญิงชรา ไม่วายบ่นอุบเพราะโดนอีกฝ่ายตัดหน้าเสียก่อน
“จริงๆ เลยนะ จะให้คนเขานั่งพักพอหายเหนื่อยไม่ได้หรือไง”
เสียงบ่นเบาๆ แต่คนหูดีหันขวับไปมอง นิลอุบลเห็นท่าไม่ดีจึงจับมือเพื่อนรักที่ยังพูดบ่นกระปอดกระแปดไว้ โดยไม่สนใจว่าใครได้ยินแล้วจะรู้สึกอย่างไร
“จะว่าไปงานนี้ไม่เกี่ยวกับนิลสักหน่อย แทนที่จะได้ลางานไปอยู่ดูแลยาย กลับต้องมาทำงานรับหน้าแทนคนอื่น”
ประโยคนี้เลยขีดความอดทนของวิศวกรหนุ่มหล่อไปแล้ว คนร่างสูงเพรียว แข็งแรงจึงหันมาจ้องดวงหน้านวลของคนตัวเล็กอวบอย่างจริงจัง
“ทำงานแล้วอย่าเรื่องมาก ไม่พอใจ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ เรื่องตัวเองหรือเปล่าที่พูด ใครขอให้ออกความเห็นกัน”
เสียงเข้มเครียดของอธิป แม้แค่พอได้ยินกันสามคน หากทำให้อุรวีย์ถึงกับผงะ เพราะแม้เขาจะดุบ้างและไม่เคยแสดงความสนิทสนม แต่ไม่เคยแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดอย่างนี้ให้เห็นมาก่อน นิลอุบลก็พลอยตกใจตามไปด้วย
อธิปละสายตาจากอุรวีย์มาหาคนที่ยืนตัวเกร็งอยู่ข้างกัน
“พี่ขอบคุณนะครับนิล เห็นว่าคุณยายป่วย ต้องขอโทษด้วย แต่ไม่มีใครว่างไปแทนจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่บอม ยายค่อยยังชั่วแล้ว ไม่นานก็หายดี”
นิลอุบลตอบพร้อมรอยยิ้ม หวังจะช่วยคลายบรรยากาศอึมครึมให้สว่างสดใสขึ้น เธออยากลดความขุ่นข้องใจของสองคนที่ดูเหมือนไม่มีใครยอมใครก่อน
ฝ่ายชายพยักหน้ารับรู้ แล้วผละออกไป
“อ๋อมไม่อยากทำงานกับตานี่เลย เขาเป็นคนนิสัยแย่ที่สุด ไม่เคยมีน้ำใจ ไม่เคยเห็นใจคนทำงานด้วยกัน” คนพูดเสียงสั่นเครือ แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกหลากหลายที่เป็นอยู่มันคืออะไร
“อย่าคิดมาก พี่บอมเป็นอย่างนี้แหละ งานไม่เสร็จ เขาก็โดนต่อว่าคนเดียว จะว่าไป นิลว่าน่าเห็นใจเหมือนกัน ช่วงนี้งานเข้ามาเยอะ คนทำงานไม่พอ ผู้ใหญ่ไม่เห็นรับคนมาเพิ่มสักที แล้ววันนี้คงกลับดึกอีกสิ ใช่ไหม” นิลอุบลพูดอย่างให้เหตุผลกับเพื่อนสาว
“ใช่ บอกป๊าไว้แล้ว เมื่อกี้ไม่เป็นไรหรอก อ๋อมแค่หงุดหงิด จนพูดไม่ดีกับเขาก่อน” คนร่างเล็กอวบฝืนยิ้มให้เพื่อนได้สบายใจ
“จ้ะ อย่างนี้นิลค่อยสบายใจว่าปล่อยให้อ๋อมอยู่ดึกๆ กับพี่บอมสองต่อสอง เพื่อนเราจะไม่โดนหนุ่มหล่อแก้แค้นเอา”
กล่าวจบ เจ้าหล่อนก็หัวเราะชอบใจกับสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคนที่อาจถูกแก้แค้นในคืนนี้
“พูดเป็นเล่น อ๋อมไม่โดนตานั่นฆ่าหมกห้องน้ำตอนสี่ทุ่มหรอก”
“ไว้ใจได้เหรอ ปล่อยคนสองคนไว้ค่ำๆ มืดๆ”
“ใครจะทำอะไรอ๋อมได้ อีกอย่างคนในออฟฟิศอยู่กันเพียบ ไม่กลัวหรอก อย่างมากก็ฟ้องป๊าให้จัดการเลย” ว่าแล้วอุรวีย์ก็หัวเราะขึ้นมาบ้าง เมื่อนึกถึงบิดาที่เคยยอมให้ใครทำอะไรเธอได้ที่ไหน
“ว่าแต่นิลออกไปที่ตึกพีเอจี เป็นทางกลับบ้านพอดี เลิกงานขอเจ้านายกลับเลยสิ ไม่ต้องย้อนมาออฟฟิศ”
แล้วทั้งคนเสนอและคนฟังต่างก็หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน
“ของมันแน่อยู่แล้ว นี่ไง เตรียมของกลับบ้านพร้อมอยู่ในนี้” คนบอกชี้กระเป๋าใบเล็กที่บรรจุสัมภาระหลายอย่างที่เจ้าตัวเพิ่งซุกลงไป
“แล้วนิลกินข้าวมาหรือยัง” เพื่อนสาวยังถามต่ออย่างห่วงใย
“มื้อเช้ากินช่วงสาย ตอนนี้เลยไม่หิว เจอกันพรุ่งนี้นะ เจ้านายออกมาแล้ว ไปก่อนละ”
นิลอุบลบอกพลางหอบเอกสารที่วิศวกรหนุ่มนำมาฝากพร้อมกับแฟ้มงานของเลขาใหญ่ที่เตรียมไว้ให้
