กลิ่นคาวเลือด : 2
"พวกเจ้าพอได้แล้ว จะช้าหรือเร็ว โทษประหารก็มาถึงอยู่ดี"
สิ้นเสียงห้ามปรามของเยว่จิ้นกงจบลง สตรีทั้งสองนางที่ยังมีสติรับรู้เรื่องราวตอนนี้ถึงกับน้ำตาหลาก
ในใจพวกนางแหลกสลายกับการจากลาที่ไม่มีวันหวนคืนของบิดาและพี่ชาย
เยว่จินจินโผเข้ากอดเยว่อินกวานที่อยู่ใกล้นาง ส่วนเยว่อิงเถาถลาเข้ากอดพี่ใหญ่เยว่ฉินจื่อพร้อมน้ำตามากมายที่ไหลอาบชุดนักโทษสีขาวจนเป็นคราบ
"ชาตินี้วาสนาพวกข้าน้อยนัก พวกเจ้าจงใช้ชีวิตที่เหลือเผื่อพวกเราด้วย เข้าใจหรือไม่"
เสียงสั่งลาของเยว่ฉินจื่อไร้การสั่นเครือใด ๆ เขากล่าวต่อน้องสาวทั้งสองที่มีสติด้วยเสียงเรียบเฉยราวการก้าวออกจากประตูคุกไปแล้วจะไม่มีเรื่องร้ายใดเกิดขึ้น
"พี่ใหญ่ พี่รอง"
เยว่อันหนิงที่ค่อย ๆ ฟื้นขยับริมฝีปากเรียกพี่ชายทั้งสองที่นางมองเห็นเป็นอันดับแรก หากแต่น้องเล็กสุดที่เพิ่งลืมตาได้ยังไม่ทันหายใจหายคอทั่วท้องก็ถูกเยว่ฉินจื่อจับยาลูกกลอนยัดเข้าปากเพื่อให้นางสลบอีกหน
"พี่ใหญ่นั่นยาอันใดหรือเจ้าคะ"
เยว่อิงเถาตกใจที่จู่ ๆ น้องเล็กก็ถูกจับกรอกยาแล้วสลบไร้สติต่อ
"มิต้องห่วง นี่คือยาสงบใจ จะช่วยให้หนิงเอ๋อร์หลับสบายยาวขึ้นจนถึงรุ่งสาง"
พอได้ยินเช่นนี้สตรีทั้งสองนางก็โล่งอก
เป็นเช่นนี้ดีแล้วเพราะพวกนางก็ไม่รู้จะรับมือกับน้องเล็กผู้นี้เพียงลำพังสองคนได้เช่นไร
"ร่ำลากันพอหรือยังใกล้จะเลยฤกษ์แล้ว!"
เสียงดุดันของหัวหน้าทหารที่ด้านนอกประตูคุมขังดังขึ้น
แววตาพวกเขาไร้อารมณ์สงสารกับภาพครอบครัวที่ต้องลาจากกันชั่วชีวิตสักนิด
เยว่จินจินกับเยว่อิงเถานั่งลงกับพื้น สองมือประสานทับกันก้มศีรษะโขกพื้นเพื่อเป็นการร่ำลาพี่ชายทั้งสอง จากนั้นจึงทำเช่นเดิมเพื่อร่ำลาบิดาอย่างเยว่จิ้นกงที่ยืนรอบุตรชายทั้งสองอยู่หน้าห้องขังอีกฝั่ง
"ข้าน้อมส่งท่านพ่อ หากชาติหน้ามีจริง ขอได้ทดแทนบุญคุณท่านเจ้าค่ะ"
สองเสียงของคุณหนูเยว่ประสานกัน ก้อนสะอื้นปลายหางเสียงทำคนฟังเจ็บปวดหัวใจแต่กลับอดกลั้นทำเข้มแข็ง
"ท่านแม่ ลูกกราบลาท่านตรงนี้ ขอให้ท่านรักษาชีวิตรอดพ้นคนชั่ว"
เยว่ฉินจื่อและเยว่อินกวานคำนับลามารดาที่ยังนอนสลบอยู่ที่พื้น น้ำตาบุรุษจะหลั่งง่ายดายได้เช่นไร กลับกันในใจพวกเขาต่างหากที่ร่ำไห้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สายตาสองคู่มองน้องสามน้องสี่และจบลงที่น้องเล็กสุดด้วยความอาวรณ์
"ไปได้แล้ว!"
เสียงทหารด้านนอกดังขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงบ่งบอกว่าเขาเริ่มรำคาญและหงุดหงิดใจที่จะชมละครบทเศร้าตรงหน้าอีกต่อไป
"พี่ใหญ่ พี่รอง"
"ท่านพ่อ"
เสียงร้องไห้ของเยว่จินจินกับเยว่อิงเถาดังระงมก้องไปทั่วทั้งคุกใต้ดินปานคนจะขาดใจตาย
"พวกเจ้าเองก็รีบเก็บแรงไว้เถิด มือสังหารบั่นหัวพ่อกับพี่ชายเจ้าเสร็จก็เป็นเวลาเนรเทศของพวกเจ้าและบ่าวไพร่แล้ว"
สุ้มเสียงทหารนายนี้ช่างเปี่ยมไปด้วยความสุขบนความโศกาของผู้อื่นยิ่งนัก
เยว่จินจินถลาเข้ากอดก่ายกับน้องสี่ของนางด้วยตัวสั่นเทา
"พี่สาม ข้ากลัว"
ไม่บอกนางก็รู้ว่าตอนนี้น้องสี่กำลังรู้สึกเช่นไร เพราะตัวนางเองก็กลัวไม่แพ้กัน แต่เมื่อครู่บิดาสั่งเสียไว้แล้วว่าต้องกล้าหาญเผชิญกับอุปสรรคที่กำลังจะเข้ามาให้ได้ ตอนนี้เหลือเพียงเยว่จินจินเป็นพี่ใหญ่สุดแล้ว นางจะแสดงความอ่อนแอให้น้อง ๆ เห็นได้เช่นไร
"ไม่ต้องกลัว ๆ เราต้องผ่านมันไปได้"
มือบางแสนสั่นเทาเอื้อมขึ้นลูบเส้นผมของเยว่อิงเถา ริมฝีปากบางสั่นทีไรนางจำเป็นต้องกัดเนื้ออ่อนด้านในปากให้ปริแตกเพื่อกลั้นก้อนสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมาสั่นขวัญคนที่อยู่ในอ้อมกอด
เวลาผ่านไปครึ่งก้านธูปทหารชุดใหม่ก็เข้ามา
"แยกเยว่ฮูหยินออกมาไปรวมกับกลุ่มอนุและพวกข้ารับใช้ฝั่งนู้นเตรียมตัวเนรเทศ"
เสียงสั่งการของหัวหน้าทหารดังก้องเหมือนมีดกรีดแทงใจคนฟัง
"ท่านแม่ข้ายังมิได้สติ รอให้ท่านฟื้นก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ"
เยว่จินจินเข้าไปขวางทหารที่เข้ามาเตรียมนำตัวมารดาออกไปตามคำสั่งผู้คุมใหญ่
"ต่อให้ตอนนี้เยว่ฮูหยินเหลือเพียงร่างกายก็ไม่ละเว้น"
"โอ้ย!"
ร่างเยว่จินจินกระเด็นออกมาชนเข้ากับท่อนไม้ใหญ่ที่ใช้แบ่งเขตของห้องคุมขังจนหัวไหล่บางเจ็บแปลบ หากแต่นางกลับไม่ห่วงตัวเอง รีบถลาเข้าไปรั้งมารดาที่ถูกลากออกไปราวเป็นสิ่งของเอาไว้
"ข้าขอร้อง... ช่วยใช้เปลหามท่านแม่ได้หรือไม่ อย่าน้อยท่านแม่ก็เคยเป็นถึงฮูหยินของแม่ทัพใหญ่ที่สร้างคุณงามความดีให้แก่บ้านเมืองมามากมาย"
ในเมื่อยื้อยุดร่างมารดากับทหารตัวใหญ่ไม่ไหว เยว่จินจินจึงได้แต่อ้อนวอนให้พวกเขาเห็นใจ อย่าได้ลากถูมารดานางราวกับเป็นผักปลาเช่นนี้เลย
"ทหาร หามเยว่ฮูหยินออกไปผูกกับรถม้า!"
คราแรกได้ยินรู้สึกใจชื้น แต่พอประโยคหลังจะผูกมารดากับรถม้าเยว่จินจินทรุดฮวบลงกับพื้นใจแทบแตกสลาย
คนพวกนี้มิใช่คน!
พวกเขาไม่สงสารมนุษย์ร่วมโลกด้วยกันมิพอ ยังกลั่นแกล้งคนที่ตกต่ำกว่าเพื่อความสนุกของตนเอง
"ส่วนพวกเจ้า รออีกหนึ่งถ้วยชาจะมีทหารอีกกองนำตัวไปยังแคว้นเสียนหย่ง"
สิ้นคำกล่าวนั้น เยว่ฮูหยินก็ถูกพาตัวออกไปรวมกลุ่มกับพวกอนุและข้ารับใช้ที่รออยู่ด้านนอก ทิ้งให้คุณหนูทั้งสองกอดน้องเล็กสุดเอาไว้แล้วปล่อยโฮออกมาจนน้ำตาแทบจะกลายเป็นสายเลือด