บทที่ 4 เล่ห์รักในรอยทราย...
แต่ก่อนจะก้าวผ่านหน้าหญิงสาวออกไป คริสตินอดใจไม่ได้ที่อยากจะปลอบขวัญคนขวัญเสียสวยสะพรั่งถูกตาถูกใจที่กำลังเงยหน้ามองเขาตาโต เขาเดินเข้าไปหาร่างบางที่อยู่ในอิริยาบถยืนเก้ๆกังๆเหมือนทำอะไรไม่ถูก แล้วปลดปืนที่เธอยัง กำอยู่ออกมาจากมือเรียวบางโยนไปบนที่นอน แล้วดึงร่างงามเข้ากอดโยกตัวไปมาเหมือนปลอบโอ๋เด็กเล็กๆ
คริสตินก้มหน้าลงมาพร้อมกับมินทราภาที่เงยหน้าขึ้น หญิงสาวตั้งใจจะร้องประท้วงการกระทำของเขา ทำให้ริมฝีปากของทั้งสองแนบบรรจบกันได้ง่ายขึ้น ริมฝีปากของคริสตินลูบไล้ปากอ่อนนุ่มของมินทราภาอย่างนุ่มนวลในลักษณะปลอบประโลมค่อยเป็นค่อยไป
มินทราภาประหลาดใจเมื่อพบว่าสัมผัสของเขาช่วยคลายความหวาดหวั่น พลันเปลี่ยนเป็นกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วกาย เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนใดในลักษณะเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ร่างกายและริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดกัน ลำแขนแข็งแรงของคริสตินโอบรัดสะเอวคอดบอบบาง พลางลูบไล้อย่างถนอม เขาเริ่มรับรู้ความรู้สึกที่ชวนหลงใหล จากสัมผัสบนริมฝีปากอิ่มอุ่นช่างให้รสแตกต่างแทบทุกวินาที นุ่มนวล อ่อนหวาน ไร้เดียงสา ซาบซ่าน และเชิญชวน เป็นรสชาติเย้ายวนแปลกใหม่ที่ชายหนุ่มไม่เคยพานพบมาก่อน
...กลีบปากนุ่มคู่นี้...รสชาติแบบนี้...เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกกับหญิงใด...ช่างถูกใจนัก...
คริสตินคิดอย่างคลั่งไคล้ เพียงจุมพิตไร้เดียงสาก็พาความรู้สึกนึกคิดของเขาเตลิดไกลถึงการสัมผัสนวลเนื้อทั่วร่างงาม โดยเฉพาะความลี้ลับในตัวเธอที่เขาปรารถนาค้นคว้าให้ได้รู้ว่าสาวสวยน่ารักมีอะไรดึงดูดใจเขาได้มากขนาดนี้
มินทราภารับรู้ความรู้สึกไม่คุ้นเคยหากชวนหลงใหลในจูบแรกของชายแปลกหน้าที่เปลี่ยนปรับสลับกันไปในทุกจูบรุกราน จากอ่อนนุ่มละเมียดละไม บดย้ำหยอกเย้า เคล้าคลอ เรียกร้อง และสั่งการให้เพลิดเพลินเผลอไผล
“...อึ้ม...”
มินทราภาร้องอยู่ในลำคอ ตื่นตะลึงต่อความรู้สึกรุมเร้าชวนหลงใหลที่ไม่อาจขัดขืน ยืนตัวแข็งต่อการกระทำอย่างถือสิทธิ์ด้วยใจเต้นไม่เป็นส่ำ พอเขาย้ำจุมพิตสนิทสนมที่เกือบจะเป็นการรุกรานมาอีกครั้งจึงเปล่งเสียงทักท้วงแสดงอาการไม่พอใจ
“...ฝ่าบาท...”
คริสตินชะงักกึก เพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังทำในสิ่งไม่เหมาะสม แต่ปล่อยร่างนุ่มนิ่มน่าถนอมเป็นอิสระอย่างทันควันทำให้ร่างหญิงสาวซวนเซยืนไม่อยู่ เขาจึงกลับเข้าประคองพาไปนั่งที่ขอบเตียงในอาการที่มินทราภาพยายามเบี่ยงตัวหนี คราวนี้เลยกลายเป็นเขาเซซวนพาร่างของมินทราภาล้มหงายลงไป
ต่างคนต่างตกใจตะลึงนิ่งงันด้วยกิริยาที่ร่างสูงของคริสตินทาบทับอยู่บนร่างนุ่มนิ่มของมินทราภา ก่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟวิ่งไหลเวียนแปลบปลาบบนเรือนกายหนุ่มสาวเป็นแรงกระตุ้นเร้าให้คริสตินเผลอไผลกอดกระชับร่างงามเข้าสู่อ้อมแขน และจูบจุมพิตดูดดื่มอย่างลืมตัว
มินทราภาเผลอไผลไปกับจูบสำรวจเรียกร้องของคนที่บังเอิญมาเจอะกัน เป็นจูบแรกจูบเดียวที่หญิงสาวไม่สามารถต้านทานได้ และกลับรู้สึกชื่นชอบจนลืมตัวยอมตามการชี้นำให้รู้จักการจูบลึกซึ้งที่ไม่เคยได้พานพบมาก่อน
คริสตินดื่มด่ำกับความสุขจากรสชาติหวานหอมในจูบของหญิงสาวสวยคนแรกคนเดียวที่เขาจูบโดยไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเธอ และอยากจูบอยู่อย่างนี้อย่างไม่มีวันเลิกรา แต่เขาต้องหักห้ามใจ เพราะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะมีความสุขเพลิดเพลินกับสิ่งที่ปรารถนามากกว่านี้ได้
ชายหนุ่มพยุงกายหญิงสาวให้ลุกตามขึ้น พาร่างงามมาจับนั่งอยู่ริมขอบเตียง แล้วทรุดกายคุกเข่ากับพื้นยื่นหน้าเข้ามากระซิบชิดมุมปากก่อนจุมพิตแผ่วอีกครั้ง
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณตกใจ”
กล่าวจบเขาก็ลุกขึ้นหันหลังเดินก้าวยาวๆออกไปด้วยเกรงว่าจะอดใจไม่อยู่ โดยไม่รู้ว่ในความคิดของหญิงสาวที่นั่งงงงันอยู่ เห็นว่าเขาทำเหมือนการจูบเธอไม่ได้มีความหมายอะไร และเขาปิดประตูได้ทันที่หมอนใบหนึ่งถูกปาลอยมากระทบบานประตูดังบึ้ก โดยที่ผู้ปานึกอยากให้เป็นตัวเขานัก