บทย่อ
นิยาย...ทะเลทรายสวีต...ที่พระเอกอบอุ่นน่าแอบอิงและนางร้ายแรงสุดๆ ************************** เขาคือผู้บุกรุก ที่เธอคิดว่าเป็นโจรย่ามใจเข้ามาปล้นสวาท เธอคือสาวงาม ที่เขาคิดว่าเป็นของแถมเข้ามานอนรออยู่ในห้อง เขาคือจอมโอหัง ที่บังอาจกอดจูบเธอโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ เธอคือสาวสวย ที่สามารถปลุกความรู้สึกด้านชาของหัวใจให้เต้นระทึก เขาวางแผนพาเธอมายังบ้านเมืองเพื่อพิสูจน์รักแท้ในหัวใจ เธอถูกลักพาตัวเพื่อฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย มาลุ้นกันว่า...เจ้าชายคริสตินกับมินทราภา จะผ่านพ้นภัยร้ายน่าระทึกใจได้ครองรักกันหรือไม่... ************************** และต้องไม่พลาดกับบทโรมานซ์ซึ้งๆของพระนาง และร้อนแรงสุดแซ่บของนางร้าย
บทที่ 1 เล่ห์รักในรอยทราย
หลังจากเดินทางมาพักอยู่กับน้องชายที่ออสเตรเลียได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ มินทราภา สุรารักษ์ ก็ได้รับแจ้งด่วนจากทางบ้านให้กลับมาร่วมสัมมนาวาระสำคัญที่มีวิทยากรรับเชิญระดับสูงจากต่างประเทศมาให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาดิน และพืชไร่เขตร้อน จึงต้องรีบเร่งเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน
มินทราภามาถึงโรงแรมเป็นเวลาค่ำมืดพอดี โดยได้รับรายงานว่าผู้จัดการและผู้ช่วยกำลังต้อนรับแขกพิเศษอยู่ จึงให้พนักงานยกกระเป๋าขนสัมภาระของเธอไปยังห้องชุดที่เธอเคยพักอยู่ประจำทันที หลังจากเก็บข้าวของเข้าที่เรียบร้อยแล้ว เธอเพิ่งนึกได้ว่าต้องโทรบอกทางบ้านตามที่มารดาสั่งไว้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยบุตรสาวคนเดียว แล้วอาบน้ำเข้านอนด้วยความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจากการเดินทางไกล
ขณะที่มินทราภากำลังนอนหลับลึกจากความฝันน่าสะพรึงกลัวด้วยลำตัวยาวของพญานาคราชสีเขียวคล้ำจนเกือบดำพันล้อมอยู่รอบปราสาทหินทราย เศียรใหญ่ชะโงกเงื้อมเห็นหงอนแดงต้องแสงอาทิตย์ร้อนสะท้อนเลื่อมพราย ต่างจากสีดำสนิทของดวงตารียาวกะพริบไหว ปากใหญ่อ้าแยกกว้างเห็นเขี้ยวยาวโง้งขาววับวาวแหลมคมชวนหวาดหวั่น
ในความฝันร่างของมินทราภาถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนสีทองอร่ามยืนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางผืนทรายกว้างไกลสุดสายตา อากาศรอบกายร้อนแรงด้วยแสงแดดแผดกล้าราวกับจะเผาร่างเธอกับเจ้าพญานาคให้มอดไหม้เป็นเถ้าธุลี
มินทราภากรีดร้องสุดเสียง เมื่อเศียรใหญ่โตผงกโฉบลงมาหายังร่างของตน พลางดิ้นรนจนสุดแรงกำลังอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฉับพลันกลับรู้สึกเสมือนจริงว่าสิ่งที่โถมลงมาทาบทับร่างของตนไม่ใช่ลำตัวพญานาคราช แต่เป็นร่างมนุษย์
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมองดูของหนักที่บ่งบอกชัดว่าเป็นร่างกายบุรุษตัวสูงใหญ่ชะโงกง้ำอยู่เหนือร่างของเธอที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยผ้าห่มผืนหนาจากลำตัวจรดปลายเท้า
“กรี๊ดดด...ว้ายอะไรเนี่ย !” มินทราภาเพ่งสายตามองเห็นใบหน้ามนุษย์ผู้ชายตัวโตด้วยใจก็เต้นระทึกรู้สึกกลัวมากขึ้น
“อะไรกัน...คุณเป็นใคร...เข้ามาได้ยังไง“
มินทราภาร้องถามพร้อมกับกิริยาดิ้นขลุกขลักและออกแรงผลักไสคนที่ล้มหงายลงพาดทับด้วยน้ำหนักที่ทำให้จุกแน่นในอกอยู่เกือบหนึ่งอึดใจ เมื่อเห็นเขายังนอนตะลึงจ้องมองนิ่งไม่ขยับหรือเคลื่อนกายออกก็ยิ่งอกสั่นขวัญหาย เริ่มทุบแรงผลักแรงมากขึ้นจนคนบนกายส่งเสียงร้อง
“...โอ้ย...นี่...หยุดทุบผมเดี๋ยวนี้นะ“
เสียงพูดด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงชัด ทำให้คนออกแรงทุบระรัวหยุดชะงัก แล้วต่างคนต่างจ้องหน้ามองตากันอย่างตกตะลึงพรึงเพริด
“ คุณมาทำอะไรในห้องนอนผม “
“ คุณมาทำอะไรในห้องนอนฉัน “
เสียงทุ้มกับเสียงหวานถามออกมาพร้อมกันราวกับนัด แล้วฝ่ายเสียงหวานก็เพิ่มแรงผลักให้เจ้าของเสียงทุ้มที่ตัวโตกว่าพลิกออกไปพ้นจากร่างอย่างทุลักทุเล และรีบหดขาขยับตัวเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง พร้อมกับหยิบปืนขนาดเหมาะมือที่มักจะพกติดตัวจากชั้นข้างหัวเตียงออกมา พลางกระโดดผลุงลงไปยืนจังก้าแบบแม่เสือสาวปักหลักมั่น ปากก็ร้องขู่คนตัวโตที่กำลังนอนเค้เก้อยู่ปลายเตียง
“...อย่าขยับนะ...ถ้าขยับฉันยิงจริงๆ...บอกมาว่าคุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม“
คริสตินได้สติคืนมาจากแรงผลักแรงทุบจากเสียงผู้หญิงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา เบิ่งตามองหญิงสาวสวยร่างเพรียวบางในชุดนอนเนื้อบางที่ต้องแสงไฟสว่างเผยเรือนร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งสมส่วนเย้ายวนตาชวนมองด้วยความพึงพอใจ
เขายิ้มให้เจ้าของใบหน้าสวยคลาสสิกที่ติดจะบึ้งเคียดขึงเอาจริงเอาจังในสภาพผมยาวสลวยยุ่งเหยิงรุ่ยร่ายที่ยิ่งมองก็ยิ่งดูเซ็กซี่สะดุดใจ ขนาดอยู่ในสถานการณ์คับขันเขายังแทบจะอดใจคว้าตัวเธอลงมานอนกอดก่าย แล้วจูบปากอิ่มสีกุหลาบที่เอ่ยเอื้อนคำขู่คำถามตามใจปรารถนาไม่ได้