บทที่ 2...เล่ห์รักในรอยทราย...
ช่วงเวลาที่ผ่านมากว่าสองปี คริสตินยังไม่เคยเจอผู้หญิงสวยมากพอที่จะทำให้หัวใจเต้นระทึกอย่างนี้ ตอนที่ล้มตัวลงนอนทับตัวเธอยังรู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มละมุนละไม เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมจึงมานอนในห้องชุดที่เขาสั่งจองกับทางโรงแรมไว้ ดูสถานการณ์แล้วคงไม่ใช่อภินันทนาการพิเศษจากทางโรงแรมส่งมาให้อย่างแน่นอน
“...โอ๊ะ...โอ...ทางที่ดี...ผมคิดว่าเราสองคนมาพูดกันดีๆโดยไม่ต้องใช้อาวุธอันตรายดีกว่า สภาพผมคงไม่ทำให้คุณคิดว่าเป็นโจรหรือเป็นขโมยที่ไหนหรอกนะ”
คริสตินพูดอยู่ในท่าเอนกายเค้เก้ยกสองมือหรา สายตาจ้องจับอยู่กับอาวุธในมือหญิงสาวอย่างทึ่งจัด คิดว่าผู้หญิงสวยจัดกับอาวุธร้ายแรงในมือช่างไม่เข้ากันเสียเลย
เขาเลื่อนสายตามองพินิจใบหน้างามกับเรือนร่างอรชรสวยสมส่วนด้วยใจเต้นแรงระทึก แล้ววกกลับมามองปากอิ่มจิ้มลิ้มน่าจูบ ตอนได้ยินเสียงหวานร้องขู่ฟ่อ
“อย่าขยับนะ แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไร เอ้อ เป็นใคร ก็ไม่สมควรเข้ามาในห้องของฉัน”
มินทราภารับรู้ถึงสายตาคมปราบอาบความชื่นชมที่กวาดมองโลมไล้ส่งกระแสวาบหวามไปทั่วร่าง หญิงสาวถอยหลังก้าวห่างออกมาจนชิดข้างฝาใกล้ประตูห้องนอน ยกมือสั่นกดเปิดสวิตช์ไฟกลางห้องที่เอื้อมถึง ทำให้เห็นชัดว่าเขาเป็นชายหนุ่มต่างชาติหน้าตาหล่อคมคายมากคนหนึ่ง
เมื่อมองจับจ้องกันอยู่ในระยะใกล้ท่ามกลางแสงไฟส่องสว่าง เห็นชัดถึงไรเคราเขียวครึ้มกับคางผ่ายิ่งช่วยให้ใบหน้าชายหนุ่มดูหล่อมีเสน่ห์ชวนมองและสามารถเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวมาหลงใหลได้ปลื้มอย่างง่ายๆ
โดยเฉพาะท่านอนเค้เก้ยกมือหราในสภาพที่สวมเสื้อผ้าเพียงเชิ้ตสีขาวสะอาดปล่อยชายและปลดกระดุมลงมาเกือบถึงสะเอวจนมองเห็นไรขนดำบางๆที่พาดผ่านจากแผงอกลงมาอย่างน่าระทึกใจ และมีอิทธิพลทำให้หน้าตาเนื้อตัวของมินทราภาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์
...เขาเป็นใคร ท่าทางดูมีสง่าราศีแบบที่หายากในบุรุษทั่วไป...และความรู้สึกนี้ก็ไม่เคยเกิดกับการมองผู้ชายหล่อคนไหน แต่จะดูดีอย่างไรมินทราภาก็ไม่คิดจะวางใจ อดหวาดระแวงไม่ได้เพราะสมัยนี้โจรผู้ร้ายรูปร่างหน้าตาดีแฝงตัวอยู่ในคราบผู้ดีมีเยอะแยะไป
“แต่ควรจะเป็นผมนะ ที่ต้องถามว่าคุณเข้ามาทำอะไรในห้องนอนผม“
คริสตินพูดพร้อมขยับกายทำน่าจะลุกนั่งให้สบายตัวขึ้น แต่ต้องชะงักกึกทิ้งตัวลงในท่าเดิมจากคำร้องขู่
“หยุดนะ อย่าขยับนะ ฉันยิงจริงๆด้วย“
มินทราภาร้องเตือนเสียงดัง กระชับสองมือกุมอาวุธมาดมั่นจริงจังเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกทุกขณะ
“อ่ะ อ่ะ ผมจะไม่ขยับ คุณจะเอายังไงก็ว่ามา”
คริสตินเห็นท่าเอาจริงยิ่งนึกชื่นชมในใจ เขาไม่ได้หวั่นกลัวความร้ายแรงของอาวุธในมือนั่นสักเท่าไร เพราะเขารู้จักการเซฟตัวเองให้รอดจากคมกระสุนได้ แต่การที่เขายอมตามง่ายๆ เพราะไม่อยากให้แม่เสือสาวแสนสวยตรงหน้าหวั่นกลัวตัวเขาไปมากกว่านี้
“ห้องนี้จะเป็นของคุณได้ยังไง ปกติทางโรงแรมไม่เคยเปิดให้ใครเข้ามาใช้...มันเป็นห้องชุดส่วนตัวของครอบครัวฉันนะทางคุณจะมาอ้างลอยๆไม่ได้“
“ฉันมีกุญแจ/ผมก็มีกุญแจ“
ราวกับนัดหมายเมื่อสองหนุ่มสาวกล่าวขึ้นพร้อมกันและเบนสายตาไปยังโต๊ะใกล้หัวเตียงที่เพิ่งจะเห็นว่ามีพวงกุญแจสองพวงวางอยู่ไม่ห่างกันมากนัก
“...เอ๊ะ...”
“ไม่ต้องมาเอ๊ะ...ผมจองห้องพักบนชั้นนี้เอาไว้ ...แล้วทางโรงแรมก็จัดเป็นห้องชุดทางปีกขวาให้”
ชายหนุ่มเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยชัดแจ๋ว แล้วบอกชั้นกับเลขที่ห้องแก่หญิงสาวที่กำลังยืนจ้องในอาการตะลึงงัน
“เราพลาดอะไรไปหรือเปล่า” มินทราภารำพึงในใจ
แต่เมื่อเขามีกุญแจไขเข้ามาในห้องนอนของเธอได้ก็แสดงว่าทางโรงแรมต้องให้กุญแจมา...เกิดผิดพลาดอะไร?...ทำไมทางผู้จัดการโรงแรมถึงให้กุญแจห้องชุดนี้แก่แขกผู้เข้ามาพัก เพราะปกติห้องพักชั้นนี้จะเป็นที่พักประจำของครอบครัวและไม่เคยมีปัญหาแบบนี้