บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เล่ห์รักในรอยทราย...

โรงแรมนี้ เป็นโรงแรมสร้างใหม่ทรงยุโรปผสมผสานกับทรงไทย ภายในห้องชุดวีไอพีจะมีกุญแจคีย์การ์ดเปิดปิดเหมือนกับโรงแรมทั่วไป แต่ห้องนอนของโรงแรมนี้ จะมีกุญแจอีกอันเอาไว้เปิดปิดห้องนอนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อความเป็นส่วนตัวและป้องกันภัยจากบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของห้อง และการไขกุญแจเข้ามาของคริสตินก็เป็นสิ่งยืนยันว่าเขาได้รับสิทธิ์เข้ามาใช้ห้องนี้

แต่ปกติห้องชุดพิเศษสุดบนชั้นที่ยี่สิบของโรงแรมจะเปิดให้ครอบครัวของมินทราภาหรือญาติสนิทเข้าพักประจำอยู่เท่านั้น เพราะทางโรงแรมมีห้องพักหรูระดับวีไอพีไว้รองรับแขกสำคัญที่ชั้นถัดลงไป นอกจากจะมีแขกระดับสูงมากๆหรือห้องพักของโรมแรมเต็มจริงๆ จึงจะเปิดให้แขกวีไอพีเข้าใช้ห้องบนชั้นนี้

“ฝ่าบาท...กระหม่อมได้ยินเสียง ...มีอะไรให้กระหม่อมรับใช้ กระหม่อม“

แต่ความคิดของมินทราไม่ทันจะจบดี ก็มีเสียงเคาะประตูที่ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งผวาด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าจะมีใครอยู่ข้างนอกอีกคน

เสียงแว่วเข้ามาเป็นภาษาท้องถิ่นที่มินทราภาไม่คุ้นหูและฟังไม่เข้าใจ กลัวจนขนบนตัวลุกชัน หญิงสาวกระชับสองมือจับปืนมั่น เล็งจ้องไปยังคนบนเตียง เธอไม่อยากเสี่ยงวางใจผู้บุกรุกแปลกหน้าที่มีพรรคพวกรอยู่ข้างนอกและอาจจะเข้ามาสมทบอีกคนก็ได้ แต่กลับได้รับรู้จากเสียงตอบเป็นภาษาอังกฤษจากเจ้าของเสียงทุ้มน่าฟังดังชัด

“ไม่มีอะไร ทาซิม นายช่วยโทรตามผู้จัดการโรงแรมให้ขึ้นมาบนห้องชุดบนชั้นนี้หน่อย“

แต่ยังไม่ทันที่คนอยู่นอกห้องจะรับคำก็มีเสียงโทรศัพท์ภายในที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้หัวเตียงกรีดเสียงดังขึ้น คนยืนจังก้าถือปืนจ้องต้องสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง ทำให้คนนอนเมื่อยอยู่ในท่าเค้เก้กลั้นยิ้มไม่อยู่ พลางนึกเอ็นดูสาวสวยน่ารักตรงหน้า ดูเอาเถอะ แม้จะมีท่าทีหวั่นกลัวอย่างไร มือเธอก็ยังคงถือปืนเล็งมั่น ไม่เบนจากเป้าหมายเลยสักนิด

คริสตินมองหน้าคนสวยที่อยู่ในอาการหวาดผวามากกว่าจะคุกคามอย่างรู้สึกเห็นใจ พยักหน้าไปทางโทรศัพท์เป็นการบอกใบ้ให้เธอไปรับ แต่เธอยังไม่ยอมเขยื้อนขยับ ยืนจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ

พอเขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เธอจึงยอมถอยก้าวย่างไปอย่างระวังระไวโดยไม่ยอมลดปืนลงแบบคนมีทักษะการใช้ปืนอยู่พอตัว แม้จะนึกกลัวความใจเด็ดของแม่เสือสาวแสนสวยอยู่บ้าง แต่คริสตินก็อยากจะหาทางทำความรู้จักเธอ

ระหว่างการพูดคุยโทรศัพท์กับปลายสาย คริสตินสังเกตเห็นใบหน้าซีดขาวยิ่งเฝื่อนและเผือดสีลงมากกว่าเก่า พอมองสบตาเบิกกว้างด้วยอาการตกใจ ก็พอจะเดาได้ว่าเธอคงรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เขารอเธอวางโทรศัพท์ลดปืนลง และเปล่งเสียงสั่นไหวออกมา

“ผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมโทรมา...เอ้อ...มีการผิดพลาดเกิดขึ้น...ต้องขอประทานอภัย หม่อมฉันไม่ทราบว่ามีการจัดห้องชุดนี้เอาไว้ เชิญฝ่าบาทประทับรอที่ห้องรับรองข้างนอกก่อน หม่อมฉันขอเวลาเก็บของสักครู่“

เมื่อรับทราบจากปากคำของผู้จัดการโรงแรม มินทราภาทั้งตกใจทั้งอับอาย เธอไม่คิดว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรเป็นเช่นนี้ เธอกำลังยืนถือปืนขู่แขกสำคัญของโรงแรมที่เป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทแห่งประเทศที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของกลุ่มอาเซียนและเป็นคนสำคัญของการสัมมนาวันพรุ่งนี้

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะขอผู้จัดการให้หาห้องใหม่ก็ได้“

คริสตินลดแขนแข็งแรงที่ค่อนข้างจะเมื่อยล้าด้วยการยกมานานลงข้างกาย แล้วขยับลงจากเตียงลุกขึ้นยืนเต็มตัว ความสูงข่มร่างอรชรที่ยืนทำหน้าเฝื่อนดูเล็กกระจ่อยร่อยลงถนัดตา ทั้งที่มินทราภาก็เป็นหญิงสาวที่ตัวสูงคนหนึ่ง

“แต่ฝ่าบาท...เอ้อ...”น้ำเสียงมินทราภาไม่คลายอาการสั่นพร่า ยืนหรุบตาต่ำ ไม่กล้าสบตาวาววามของเขาตรงๆ เพราะรู้สึกอับอายจนอยาก จะมุดหน้าลงใต้เตียงหรือใต้พื้นที่ยืนอยู่

“ไม่เป็นไร”คริสตินพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล กวาดตามองไปทั่วห้อง แล้วหันมามองหญิงสาวสวยที่กำลังยืนเม้มปากหน้าแดงระเรื่อ แล้วตัดสินใจ

“ไหนๆข้าวของเครื่องใช้ของคุณก็จัดเก็บที่ห้องนี้แล้ว เดี๋ยวผมจะขอห้องใหม่จากผู้จัดการก็แล้วกัน“ เขาบอกกับหญิงสาว แล้วบอกต่อไปยังคนข้างนอกห้อง ที่รู้ว่าต้องยังยืนรอฟังคำสั่งอยู่หลังประตู

“ทาซิมเชิญผู้จัดการเข้ามาที่ห้องรับรองทีนะ” โดยสายตาคมปราบอาบแววชื่นชมกลับมองจับจ้อง หญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตา

“ผมขอใช้ห้องรับรองสักครู่ แล้วจะออกไปทันที“

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel