บทนำ (3)
“ชนแค่นี้ก็เจ็บแล้ว? อ่อนแอเกินไปหน่อยแล้วมั้ง” เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าจะร้องไห้ เสียงทุ้มห้าวก็เอ่ยขึ้นอย่างดูแคลน เดโรครอปกดนิ้วมือลงบนเอวบางรั้งคนตัวเล็กให้ขยับเข้ามาแนบชิดพลางก้มใบหน้าลงมองดวงหน้าอ่อนหวานที่สามารถสะกดสายตาคนมองให้จดจ้องอย่างหลงใหลจนไม่อาจละสายตาได้
ท่าทางของเธอดูน่าสงสารก็จริง แต่เขากลับคิดว่ามันน่ารำคาญจนรู้สึกหงุดหงิดในใจ ผู้หญิงประเภทนี้ก็ดีแต่ปั้นหน้าใสซื่อหลอกลวงคนอื่นไปวัน ๆ คงทำงานทำการอะไรไม่เป็น แล้วที่แต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าเนื้อในจะเน่าเฟะไปถึงไหนแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอคนประเภทนี้ แล้วทุกครั้งที่เจอก็รู้สึกสะอิดสะเอียนอยากหลีกหนีไปให้ไกล
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉันไว้” วาริสาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักรู้สึกกลัวเกรงต่อสายตาดุดันน่าเกรงขามของเขาจนในที่สุดเธอก็ขอยอมแพ้หลบสายตาเขาไปมองทางอื่น เรียวปากอิ่มอมชมพูเม้มเข้าหากันแน่นรู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบงันผิดปกติ จนต้องหันไปมองรอบ ๆ อย่างสงสัยและเมื่อเห็นว่าใครหลายคนกำลังจับจ้องอยู่ เธอก็รู้สึกอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
เธอกลั้นใจ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองหน้าเขาอีกครั้ง แล้วก็ต้องผงะตกใจกับดวงตาคมดุดันที่แฝงกระไอร้อนระอุจ้องเขม็งเธออยู่
เดโรครอปไม่สนใจสีหน้าตื่นตกใจของหญิงสาวเอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ผิดกับสีหน้ายียวนกวนประสาทที่แสดงออกมา
“สำออยหรือว่าเจ็บจริง”
พลั่ก!
“นี่คุณ! มันจะมากเกินไปแล้วนะ! ชนคนอื่นแล้วยังจะมาพูดจาหมา ๆ แบบนี้ใส่อีก! เสียแรงที่หน้าตาดีซะเปล่า ตาถั่วซะไม่มี ปล่อยเพื่อนฉันได้แล้ว อย่าเอาเนื้อตัวสกปรกของคุณมาโดนตัวเพื่อนฉัน!”
อังคณาที่ทนไม่ไหวก็ถึงกับโกรธจัดเดินตรงเข้าไปผลักร่างของฝ่ายตรงข้ามออกห่าง ก่อนจะดึงตัววาริสาให้มายืนหลบอยู่ข้างหลัง แต่พอวาริสาได้สติกลับคืนมา หลังจากที่ช็อกไปกับคำพูดร้ายกาจนั้นก็ดันร่างขององคณาให้ถอยไป ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นมาประจันหน้ากับคนร่างสูง ดวงตาสองคู่ประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนหน้านี้เธอพยายามแทบตาย ทำอย่างไรก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนของเขา แต่พออังคณาเข้าไปผลักเข้าหน่อยก็รีบปล่อยตัวเธอทันที ทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง
เขาทำเหมือนรังเกียจเธอ ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอคติกับผู้หญิงก็ต้องเป็นเพราะเธอดูแย่มากในสายตาเขา ถ้าเป็นอย่างแรกเธอคงไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง เธอคงรู้สึกไม่ต่างจากการถูกตบหน้าฉาดใหญ่ เพราะเขาเป็นคนแรกที่มองเธอด้วยสายตาแบบนี้ แล้วท่าทางเหยียดหยามนั่นอีก เธอเคยไปทำให้เขาชิงชังน้ำหน้าหรือไง
“ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณมองผู้หญิงแบบฉันว่าเป็นอย่างไร แต่ในเมื่อฉันไม่รู้จักคุณมาก่อน คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาใช้สายตาแบบนี้มองฉัน ฉันขอโทษที่ชนคุณเมื่อกี้ ฉันอยากบอกให้รู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ แล้วถ้าเป็นไปได้ฉันก็จะไม่พาตัวเองไปโดนตัวคุณเด็ดขาด ตัวคุณคงทำจากทองคำมั้งคะ มันถึงมีค่ามีราคามาก คนต้อยต่ำอย่างฉันขออยู่ให้ห่างจากคุณดีกว่า และหวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก แล้วกับผู้ชายอย่างคุณ ฉันก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเกินกว่าจะเข้าใกล้เหมือนกัน ไปกันเถอะอัน ผู้ชายแบบนี้คงมีดีแต่หน้าตาอย่างที่เธอว่าจริง ๆ”
วาริสาพูดออกมายาวเหยียดรัวเร็วเสียจนคนฟังพูดอะไรไม่ออก ขณะที่ใช้สายตามองอีกฝ่ายอย่างแสนซื่อราวกับคำพูดนั้นคือคำทักทาย ทั้งที่จริงแล้วมันคือการด่าทางอ้อมต่างหาก ดวงตากลมโตโค้งลงเล็กน้อยมองสบกับเขาอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป ถึงเธอจะเป็นคนอ่อนแอก็ไม่ได้อ่อนด้อยจนถึงขนาดยอมให้ใครก็ได้มาทำร้ายแบบนี้โดยเฉพาะเรื่องที่เธอไม่ผิดแล้ว เธอไม่มีทางยอมเป็นฝ่ายยืนนิ่งรอเวลาถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอก ถ้าเขากำลังคิดแบบนั้นก็สมควรที่จะได้รู้แล้วว่าตาของตัวเองมีปัญหาเสียแล้ว
เธอส่งยิ้มให้เขาอีกครั้ง ก่อนจะฉุดมือของเพื่อนรักให้เดินออกไปจากตรงนี้ทันที
“แกทำให้ฉันอึ้งมากนะยายสา”
“เป็นเธอจะทนได้เหรอ” วาริสาย้อนถามกลับไปแค่นั้นก็เดินลิ่วนำเพื่อนรักไปก่อนเพื่อหลีกหนีสายตาอำมหิตที่กำลังทิ่มแทงอยู่ด้านหลังถึงไม่ต้องหันกลับไปมองเธอก็รู้ว่าเขามองเธออยู่ เขาคงจะโกรธที่เธอพูดแบบนั้น แต่มันก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เหรอ เธออยู่ของเธอเฉย ๆ ไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาสักหน่อย แค่เดินชนกันแค่นี้ เขาก็ไม่น่าที่จะต้องพูดจาร้ายกาจแบบนั้นใส่เธอ ต่อให้จะมีอคติกับผู้หญิง เขาก็ต้องแยกให้ออกสิว่าผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันทุกคน
คล้อยหลังร่างบางมีดวงตาคมดุคู่หนึ่งกำลังจ้องเขม็งตามไป เดโรครอปถึงกับสบถหยาบในลำคอพลางจดจำใบหน้าแสนหวานที่ร้ายกาจไม่ต่างจากนางปีศาจ เห็นหน้าหงิม ๆ แบบนั้นกับท่าทางใสซื่อใครจะคิดว่าจะปากร้าย สวนกลับมาแต่ละคำได้เจ็บแสบแบบนี้ ก็หวังว่าจะไม่เจอกันอีกเหมือนกัน เพราะถ้ามีครั้งหน้าอีก เขาอาจจะหักคอเธอโทษฐานที่กล้าด่าเขาต่อหน้าฝูงชน
“เหอะ คิดไว้ไม่มีผิด หน้าตาซื่อ ๆ แบบนี้ก็หลอกล่อผู้ชายเก่งเหมือนกัน นี่คงจะดูละครมากเกินไป ถึงได้คิดว่าผู้ชายจะหน้าโง่เหมือนกันทุกคน คิดจะหลอกให้ฉันเข้าหาน่ะเหรอ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกอีหนู เล่ห์เหลี่ยมมันยังห่างชั้นกันเยอะ”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน มุมปากเหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มพร้อมกับดวงตาที่ฉายชัดถึงความดูแคลน ผู้หญิงสมัยนี้ก็เหมือนกันทุกคน มีวิธีการใหม่ ๆ มาใช้หลอกจับผู้ชาย แต่บังเอิญว่าเขาไม่นิยมของจืดชืด เธอก็เลยอดที่จะจับเขาน่ะสิ แบบเขามันต้องขนาดบิ๊กไซส์ รู้งาน เร้าใจและเร้าอารมณ์ ไม่ใช่เห็นแล้วยังไม่รู้สึกอะไรเหมือนกับยายนี่ ที่สำคัญยังสามารถรองรับความต้องการของเขาได้ในทุกรูปแบบด้วย ส่วนยายหน้าหวานคนนั้น แค่ลงมือแตะก็คงจะร้องโอดโอยน่ารำคาญหูแหกปากเรียกร้องความสนใจและทำตัวน่าสงสารใส่น่ะสิ
ไม่ต้องพบเจอกันอีกเป็นดีที่สุด เขาเองก็ใช่ว่าอยากจะเจอนักหรอก หน้าตาสวยแล้วยังไงวะ ท่าทางอ่อนปวกเปียกแบบนั้นไม่เห็นน่าสนใจสักนิด อย่าให้เจออีกแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาไม่ปล่อยเอาไว้แน่น!
กับผู้หญิงประเภทนี้ไม่เคยอยู่มีค่าในสายตาเขาอยู่แล้ว!