บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นจริง (1)

ร่างเพรียวบางเดินทอดน่องไปตามถนนสายหลักของกรุงปารีสด้วยความทดท้อใจ หลังจากที่ตรงเข้าไปสมัครเป็นพนักงานในบริษัทสามแห่งที่เล็งเป้าไว้ แต่กลับได้รับการตอบปฏิเสธกลับมาอย่างไม่ใยดี ส่วนอังคณาที่ตามมาเป็นเพื่อนพอเห็นวาริสาทำหน้าเศร้าใจก็เอื้อมมือไปตบบ่าอย่างให้กำลังใจ จนดวงหน้าหวานละมุนเงยขึ้นแย้มยิ้มขอบคุณออกมา แม้จะดูฝืดเฝื่อนไปบ้างก็เถอะ

“ฉันไม่เป็นไรหรอก ถึงไม่ได้สามที่นี้ก็ยังไปหางานที่อื่นได้ บริษัทไม่ได้มีอยู่แค่นี้สักหน่อย” วาริสาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มเพื่อไม่ให้อีกคนเป็นห่วงแต่แท้จริงแล้วมันคือการปลอบใจตัวเองต่างหาก เธอสูดหายใจเข้าลึกรีบขยับยิ้มให้กว้างขึ้นเพื่อเรียกกำลังใจกลับคืนมา เมื่อคิดที่จะหางานทำแล้วแค่โดนปฏิเสธแค่นี้เธอจะถอยหลังกลับได้อย่างไร เธอต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อตัวเองและพี่ตาด้วย

เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็มีใบหน้าแจ่มใสขึ้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายวาววับมีชีสิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยท้อแท้หมดกำลังใจก็เริ่มมีแรงฮึดขึ้นมา มือเรียวคว้าเข้าที่มือคนข้าง ๆ ก่อนจะฉุดร่างของเพื่อนสาวให้เดินต่อไปข้างหน้าบนเส้นทางที่แสนยาวไกล ยังไงซะก็ต้องมีสักบริษัทที่รับเธอเข้าทำงานจนได้

“แกยังโอเคอยู่รึเปล่าสา ฉันว่าแกเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”

“ฉันไม่เปลี่ยนใจ แล้วก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วย เธอเลิกพูดเรื่องนี้สักทีเถอะ แล้วมาช่วยกันคิดดีกว่าว่าใกล้ ๆ กันนี้ยังมีบริษัทไหนบ้างที่พอจะรับพนักงานเพิ่ม จะตำแหน่งไหนก็ได้ ตอนนี้ฉันทำได้หมดแหละ”

“แกเนี่ยน่า...อืม...เหมือนจะมีอยู่ที่หนึ่งอะนะ แต่ฉันไม่รู้นี่สิว่าเขารับพนักงานในตำแหน่งอะไร น่าจะอยู่ตรงหน้านี้แหละ ใกล้บ้านแกที่สุดแล้ว แบบนี้พี่ตาจะได้ไม่สงสัยด้วยไง ถ้าเกิดว่าแกกลับมาช้า หรือมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปกันเถอะ ขอแค่ที่นี่ไม่ปฏิเสธฉันอีกเป็นพอ ตำแหน่งอะไรฉันก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น”

“ย่ะ ทำได้ทุกอย่างทุกงาน ขอแค่ให้ได้ทำ ฉันจะจำไว้ย่ะ” อังคณาทำปากยื่นใส่อย่างหมั่นไส้ ถึงวาริสาภายนอกจะหน้าหวานดูแสนดีราวกับนางฟ้า แต่ถ้าใครได้มารู้จักตัวจริงจะรู้ว่ายายนี่น่ะ ปีศาจชัด ๆ

“ตรงข้างหน้านี้ใช่ไหม ใช่บริษัทนั้นหรือเปล่า” วาริสาไม่สนใจคำพูดประชดประชันของอีกฝ่ายรีบเปลี่ยนเรื่องพูดไปเสียดื้อ ๆ เป็นช่วงจังหวะเดียวกับที่สายตามองเห็นตึกสูงตระหง่านใจกลางห้างสรรพสินค้ากับบริษัทเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่รายล้อม นิ้วเรียวชี้ไปทางตึกสูงตรงหน้าเพราะมั่นใจว่าเพื่อนสาวจะต้องหมายถึงบริษัทนั้นแน่ ๆ ซึ่งพออีกฝ่ายเห็นเข้าก็พยักหน้าส่งให้ เธอถึงได้ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง

รู้สึกว่าบริษัทนี้จะใหญ่โตยิ่งกว่าสามบริษัทที่เธอไปสมัครมาก่อนหน้าอีก แต่ใหญ่โตขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่ามาตรฐานการรับพนักงานจะสูงลิ่วแค่ไหน แล้วเธอจะโอกาสได้เข้าไปนั่งทำงานในบริษัทนั้นหรือเปล่านะ แค่คิดมือไม้ก็พานเย็นเฉียบไปหมดแล้ว

“แกตื่นเต้นเหรอ” เมื่อเห็นใบหน้าหวานมีเสน่ห์แสดงอาการประหม่ากับสองมือที่กำแน่นจนเห็นข้อขาวซีด อังคณาก็เอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่รู้ว่าบริษัทนี้จะรับฉันเข้าทำงานหรือเปล่า” เสียงหวานแผ่วลงอย่างไม่มั่นใจ

“โอ๊ย! แก! ถ้าเล่นกลัวไปก่อนหน้าแบบนี้ แกจะทำงานไหวไหมเนี่ย เอาล่ะ แกสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นะ แล้วก็ผ่อนออกมาให้สุด ทำใจให้สบาย แล้วเราก็ไปลุยกัน”

“อื้ม!”

วาริสารีบทำตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนจะเดินลิ่วไปยังบริษัทตรงหน้า ทว่าก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้ามาเธอก็รับรู้ถึงสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาจนรู้สึกอึดอัดทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวยืนนิ่งไม่ขยับแต่ฝ่ามือกลับเอื้อมกระตุกมือเพื่อนยิก ๆ หวังให้คนข้าง ๆ ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ อังคณาที่รับรู้ถึงแรงกดดันบางอย่างก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เกรงกลัวหรือประหม่าแม้แต่นิด ดวงตาคมเฉี่ยวตวัดมองแต่ละคนเรียบนิ่งสะกดทุกสายตาให้จ้องมองชะงักงัน แววดุดันในดวงตาทำให้ทุกคนแอบสะดุ้งในใจจนเป็นฝ่ายหลบสายตาไปเอง เธอกระแอมไอเบา ๆ เรียกสายตาของพวกนั้นให้หันกลับมามองอีกครั้ง

“ขอโทษนะคะ ถ้าเพื่อนดิฉันต้องการสมัครงานต้องไปยื่นใบสมัครตรงไหน” เสียงถามเผด็จการของอังคณาทำให้ใครหลายคนเผลอตัวสะดุ้งตกใจ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้แต่มีบางอย่างทำให้เธอดูเหนือกว่าพวกเขาอย่างไรชอบกล แต่ความกลัวก็ดูจะหมดไปเมื่อพวกเขานึกถึงคำถามของอีกฝ่าย พอประมวลผลได้ก็ก่อนลากสายตาไปมองยังผู้หญิงอีกคนที่สวมชุดกระโปรงยาวเฟื้อย แถมยังบานอล่างฉ่าง คราวนี้ทุกคนถึงกับดึงสายตากลับมาแทบไม่ทันรู้สึกสยองขวัญกับการแต่งตัวแสนเฉยและท่าทางนุ่มนิ่มเหมือนคนจะล้มมิล้มแหล่

นี่ถ้าโดนชนเข้าหน่อยคงจะตัวปลิวกระแทกพื้นเลยมั้ง หน้าตาซื่อ ๆ แบบนี้ไม่น่าจะทำงานที่นี่ไหวนะ

“เอ่อ...ทางนั้นค่ะ” แต่เมื่ออีกฝ่ายถามมาพวกเธอก็มีหน้าที่แค่ตอบไป เจ้านายของพวกเธอสอนไว้ว่าไม่ว่าจะรวยหรือจนก็ต้องปฏิบัติตนต่อลูกค้าอย่างยุติธรรม ไม่ลำเอียงและสองมาตรฐานเด็ดขาด และถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะมาเพื่อสมัครงานก็ต้องรักษามารยาททำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น

เมื่อได้รับคำตอบอังคณาก็รีบฉุดมือคนหน้าหวานให้เดินตามไปยังจุดที่พนักงานคนนั้นบอก ระหว่างทางที่เดินผ่านก็มีคนหันมามองพวกเธอด้วยสายตาสนอกสนใจ แต่จะพูดให้ถูกอีกทีคนที่ถูกมองอย่างสนใจจริง ๆ เห็นจะเป็นยายตัวประหลาดที่อยู่ข้าง ๆ มากกว่า แต่งตัวอย่างกับจะไปงานแฟนซีเพราะดันกลัวว่าพี่ตาจะจับได้ก็เลยปลอมตัวมาซะ ตอนเธอเห็นครั้งแรกทั้งอึ้งทั้งตกใจจนแทบสะดุดล้มหัวทิ่มพื้น

แต่งตัวแบบเปิ่น ๆ ท่าทางดูหงิม ๆ แถมยังทำหน้าตาซื่อ ๆ แบบนี้ คนคงสงสัยว่าเดินออกจากบ้านมาได้ยังไง ถึงไม่ตกท่อตัวดำซะก่อน แบบนี้ไม่น่ารอดนะ จริง ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel