ตอนที่ 3 หนี
“เรื่องที่ให้ไปสืบเป็นยังไงบ้างธนิน” เหมราชถามบอดี้การ์ดข้างกายเขาที่ให้ไปสืบเรื่องของสาวน้อยที่เขาช่วยไว้เมื่อคืน
“เธอชื่อปิ่นมุก รัตนธาดา ครับ” ธนินรายงานออกไปแล้วมองหน้าเจ้านายเพื่อรอดูปฏิกิริยาของเขา
“รัตนธาดางั้นเหรอ” เหมราช ไม่สนใจชื่อเธอ แต่เขาสนใจนามสกุลของเธอ เพราะเขาเกลียดคนนามสกุลนี้ที่สุด
“อะ เอ่อครับนายหัว เธอเป็นน้องสาวของนายปรมะครับ”
ธนินรายงานต่อเมื่อเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเจ้านาย
“หึหึ น้องสาวไอ้ปรมะงั้นเหรอ ถึงเวลาแล้วสินะ”
ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งขรึม แต่ดวงตานั้นเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว เคียดแค้นชิงชัง
“นายหัวครับ ผมว่าปล่อยเธอไปเถอะครับ เธอไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ” ธนินเอ่ยค้านกับความคิดของเจ้านายที่เขาเดาไว้ถูกต้อง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเหมราชรู้ประวัติของคนร่างเล็ก
เหมราชมองหน้าธนินนิ่งๆ จนเขาเสียวสันหลัง ก่อนจะเอ่ยรายงานข่าวที่ไปสืบมาอีก เผื่อเจ้านายจะใจอ่อนปล่อยหญิงสาวไป
“อีกอย่าง ที่สืบทราบมา คือคุณปรมะพร้อมกับพ่อแม่ เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตกันหมด เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมว่าเขาน่าจะได้ชดใช้กรรมแล้วนะครับ ส่วนคุณปิ่นมุก เธอเองก็ต้องสูญเสียทั้งครอบครัว และยังถูกอาที่เป็นน้องชายบุญธรรมของพ่อโกงธุรกิจไปหลังจากพ่อเธอเสียชีวิต แค่นี้ก็น่าจะเกินพอที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะรับได้แล้วนะครับ” ธนินบอกเจ้านายพร้อมกับความเวทนาในโชคชะตาของหญิงสาว..
“นันทิยาก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ไอ้เลวนั่นมันก็ดึงเธอมาเกี่ยวข้อง ในเมื่อมันตายแล้วก็แล้วไป แต่เรื่องนี้ก็ยังต้องมีคนชดใช้ ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอ เพราะเธอเป็นน้องสาวมัน”
ชายหนุ่มตะคอกใส่มือขวาของเขาเสียงเหี้ยม ด้วยความแค้นที่ปะทุอยู่ในใจตลอดเวลา
ธนินได้แต่สงสารหญิงสาวในใจ แต่ไม่สามารถขัดขวางเจ้านายได้
“อีกเรื่องที่ผมสืบเจอ คืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุธรรมดา และดูเหมือนว่าคุณปิ่นมุกเธอก็น่าจะสืบรู้เรื่องนี้เหมือนกัน เธอจึงถูกตามฆ่าอย่างนี้ครับนาย”
ชายหนุ่มรายงานผู้เป็นนายเรื่องที่เขาตามสืบมา เสร็จแล้วจึงกลับไปทำงานของตัวเองปล่อยให้เหมราชนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
“ ไม่ว่ายังไง เธอก็ต้องชดใช้แทนพี่ชายสารเลวของเธอ ปิ่นมุก”
ช่วงสายของวันนั้น
ภายในห้องนอนรับรองของแขกผู้มาเยือนบนเกาะมันเดรา หญิงสาว ร่างบางตื่นขึ้นจากนิทรา พร้อมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พลันความคิดก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า
เธอกำลังวิ่งหนีเอาตัวรอดจากการทุกตามฆ่า เธอวิ่งไปบนถนน และเห็นรถที่กำลังวิ่งเข้ามาในระยะประชิด ไฟรถส่องกระทบเข้ากับดวงตา กลมโต ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไป พร้อมกับตื่นมาอีกครั้งในห้องนี้ ที่มองไปตรงหน้าต่างเห็นวิวทะเลด้านนอก…
“ฉันอยู่ที่ไหน มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่เมื่อคืน”
หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับพยายามคิดแต่ก็คิดไม่ออกแอ๊ดดดด
เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับร่างท้วมของหญิงสูงวัยท่าทางใจดีคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“ฟื้นแล้วเหรอจ๊ะแม่หนู เป็นยังไงลูก เจ็บตรงไหนมั้ย”
นางเดินเข้ามาข้างเตียง พลางสำรวจร่างบางตรงหน้า
‘ตอนหลับว่าสวยแล้ว ตื่นขึ้นมายิ่งสวย น่ารักเสียจริง’ หญิงชราคิดในใจพลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ขอโทษนะคะ คือหนูจำไม่ได้ว่าหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วใครพาหนูมา เกิดอะไรขึ้นคะป้า” หญิงสาวถามคำถามรัวด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวๆจ้ะ ใจเย็นๆก่อนนะจ๊ะ นายหัวพาหนูมาเมื่อคืน ป้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนูต้องไปถามนายหัวเอาเอง”หญิงชรากล่าวกับหญิงสาว
“นายหัวเหรอคะ??” เธอพูดพลางทำสีหน้าสงสัย แล้วถามต่อ
“แล้วที่นี่ที่ไหนคะ?”...
“ที่นี่เกาะมันเดรา เป็นเกาะที่ทำธุรกิจรังนก สวนปาล์ม กับฟาร์มหอยมุกของครอบครัวตระกูลวัฒนาภักดีน่ะ” หญิงชราหรือป้าอรอธิบายให้ฟังอย่างใจดี
“ป้าว่าหนูไปอาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาก่อนนะ เสื้อผ้าป้าเตรียมไว้ให้แล้ว เดี๋ยวป้าจะไปบอกเด็กเตรียมข้าวกับยามาให้” นางบอกอย่างใจดีก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
หญิงสาวจึงได้ทำตามที่หญิงชราบอก เพราะเธอไม่รู้อะไรเลยในตอนนี้
หลังจากกินข้าวกินยาเสร็จแล้ว ปิ่นมุกก็ถูกบังคับให้นอนพักผ่อนอยู่ในห้อง เพราะคนที่ช่วยเธอไว้ออกไปทำงาน กว่าจะกลับมาคงค่ำๆ เธอจึงทำได้เพียงรอเขากลับมาเท่านั้น
ด้วยความที่ร่างกายอ่อนเพลียทำให้หญิงสาวสามารถนอนหลับได้อย่างรวดเร็ว และหลับยาวตลอดวัน
แต่ใครจะรู้ว่าในอีกไม่กี่นาทีกี่ชั่วโมงนี้เธอต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเธออีกครั้ง
…