ตอนที่5 [อคินผู้บริหารหนุ่ม]
ตอนที่ 5
อคินเป็นเจ้าของบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ในภาคตะวันออก หลังจากเรียนจบมาหลายปีบิดาก็เพิ่ง ยกตำแห่งผู้บริหารให้ได้สามปีแล้ว เนื่องด้วยเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล
อคินเป็นเพื่อนรักของธนดลตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ชายหนุ่มหน้าตาดี และฐานะการเงินดีจึงทำให้ผู้หญิงมักเอาตัวเข้าหาตลอด
"พี่อคินค่ะ ปรางอยากออกไปทานข้าวข้างนอกค่ะ"
ปรางทิพย์เป็นนางแบบสาวอีกคนที่คอยมาเฝ้าตามติดแจ จนอคินเริ่มรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง
"พี่เคลียร์งานยังไม่เสร็จ รอก่อนได้มั้ย รึถ้าปรางหิวก็สั่งเข้ามาทานข้างในได้พี่อนุญาต"
"ไม่เอาค่ะ ปรางนั่งรอดีกว่าจะได้เวลาเลิกงานแล้วนี่ค่ะ"
"ตามใจ"
ชายหนุ่มนั่งทำงานต่อไปเรื่อย ๆ จนใกล้จะสองทุ่มจึงหันมาเก็บเอกสารบนโต๊ะเข้าแฟ้มงาน ก่อนมองเลยไปหาสาวสวยที่นั่งรอมาก่อนหน้าแล้วส่งยิ้มให้
"ป่ะ พี่เคลียร์งานเสร็จแล้ว"
หนุ่มสาวพากันเดินเคียงคู่มาที่ลานจอดรถคันหรู ก่อนเปิดประตูแล้วขับเคลื่อนออกไป หาร้านอาหารหรู หลังจากทานอาหารมื้อค่ำเสร็จ คู่นี้ก็มาจบลงที่เตียงคอนโดฯของอคินเหมือนอย่างเคย
"พี่อคินค่ะ ถอดกางเกงออกสิค่ะ รึจะให้ปรางถอดให้หมดเลย"
ครานี้ชายหนุ่มรู้สึกไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ มา ตั้งแต่ได้พบหน้าสาวน้อยหน้าใส คนนั้นที่มีนามว่า'มธุรส'ที่พบเจอกันโดยบังเอิญ ที่ห้างสรรพสินค้า ขณะเดินเลือกของใช้ส่วนตัวอยู่ แล้วอคินหันไปกระแทกชนอย่างแรง ทำให้เธอเกือบเสียหลักล้มลงแต่โชคดีที่เขาคว้าร่างบางไว้ทัน แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนกระทั้งวันนี้ ทราบแค่ชื่อจากปากของเพื่อนสาว ที่เอ่ยเรียกขานกันในวันนั้น ตั้งแต่วันนั้นอะไรก็เปลี่ยนไปหมด ชายหนุ่มพยายามไปเดินห้างบ่อยขึ้น แต่ไร้วี่แวว
"พี่อคินคิดอะไรอยู่ค่ะ เหมือนไม่มีอารมณ์ยังไงไม่รู้"
"พี่คงเหนื่อยกับงานมั้ง" อคินเลี่ยงที่จะไม่พูดความจริง
"ถ้าเหนื่อยไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวปรางจะปรนนิบัติให้ถึงใจเลย" ว่าจบปรางทิพย์ก็จัดแจงลอกคราบอคิน และตัวเอง ออกหมดจนร่างทั้งสองร่างเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์จนหมดชิ้น
แล้วร่างบอบบางของนางแบบสาวก็ใช้ร่างยั่วยวน เพิ่มจริต เพื่อให้อคินตื่นตัว แต่ก็ไร้ประโยชน์ จึงเป็นคนลงมือเริ่มเองเพื่อกระตุ้นชายหนุ่ม
"พี่อคินขา…ไม่อยากเหรอค่ะ"
"ก็บอกแล้วพี่เหนื่อย"
"แต่ก่อนปรางยังไม่ให้เลยจะเอาอย่างเดียว" ว่าจบนางแบบสาวก้มลงจูบปากหนาดูดดึง แต่อีกฝ่ายไม่ร่วมจึงระริมฝีปากบางมาดูดซับซอกคอขาวแทน แล้วระเรื่อยลงมาวนเม้มหน้าท้องมัดกล้าม มือเรียวสองข้างรู้งานอย่างอัตโนมัติ มือข้างหนึ่งไปคว้าแท่งใหญ่ยาวที่คุ้นมือยังไม่ตื่นตัว มาลูบไล้รูดขึ้นรูดลง จนร่างหนาที่ทำท่านิ่งเริ่มมีอาการพองตัวชูชันสู้มือขึ้น จนหญิงสาวคลี่ยิ้มออกมา แล้วก้มลงเอาลิ้นอุ่นเล็กมาเลียปลายพร้อมดูดเม้ม ร่างหนาใต้ร่างส่งเสียงคราง
"ฮื้อ!"
"เสียวใช่มั้ยค่ะ"
ว่าจบร่างบางก็เริ่มวนดูดเม้มซับความหอมหวานจากร่างหนาอย่างเมามัน โดยไม่คิดจะรังเกียจ พร้อมอ้าปากงับหมดลำรูดขึ้นรูดลง จนร่างหนาใต้ร่างส่งเสียงร้องกระเส่า
"ฮื้อ! อ่าส์…โอว"
หญิวสาวไม่รีรอรีบขึ้นคร่อมร่างหนา พร้อมยกมือเรียวจับแท่งใหญ่ยาวยัดเข้ากลางกายสาว ก่อนยกสะโพกกลมส่ายร่อน กระแทกกระทุ้งเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ หญิงสาวชักออกเกือบสุดลำ แล้วกระแทกเข้าจนสุดแรง ยกสะโพกกลมแอ่นเส่ยกระหน่ำสุดลึก ส่งผลให้ร่างหนาออกอาการกระตุกเกร็งรีบชักแท่งลำออกมาพ่นน้ำสีขาวขุ่นลงที่นอน
"ฮื้อ…อ่าส์! อูวส์"
หญิงสาวยกยิ้มอย่างพอใจ
"ปรางบอกแล้วจะเอาให้ถึงใจเลย แต่ปรางยังไม่เสร็จนะค่ะ" ร่างบางส่งเสียงกระเส่า ด้วยเม็ดเหงื่อเต็มหน้าสวยพราวระยับ
"พี่อคินช่วยปรางด้วยสิค่ะ" ว่าจบ ร่างบางคว้าแท่งยาวมายัดเข้ากลางกายอีกครั้งเตรียมร่อนสะโพกกลมกลึงกระแทกกระทุ้งส่ายก้นถี่ ๆสักพัก ร่างบางส่งเสียงร้องครวญครางขณะกระแทกเข้าออกเต็มแรง
"ฮื้อ…อะ…อะอ่าส์ อูวส์"
ร่างบางหายใจหอบถี่บนอกกว้าง ก่อนจะเอ่ยถามคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
"เป็นไงบ้างค่ะ พอจะผ่านได้มั้ย"
"อื้อ" อคินตอบไม่ออกเสียงมากนัก ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธได้เลย ว่านางแบบสาวเก่งเรื่องบนเตียงแค่ไหน เธอสามารถทำให้เขาถึงใจจนล้นอกทุกครั้ง เมื่ออยู่ด้วยกันบนเตียงนุ่ม หลังจบภาระกิจของเธอแล้วสาวเจ้าก็แต่งตัวเดินเชิดหน้าออกจากคอนโดฯ เมื่อวันนี้อ้อนอคินได้แบ๊งค์เทาหลายใบ
บริษัทAK อิเล็กทรอนิกส์ วันนี้มีคนมาสมัครงานหลายสิบคน เพื่อขยายเพิ่มอีกโรง หนึ่งในนั้นมี'มธุรส'รวมอยู่ด้วย เธอเพิ่งเรียนจบบริหารมาหมาด ๆ ด้วยวัยยี่สิบสองปี
วันนี้ทางบริษัทนัดสัมภาษณ์งาน เธอสัมภาษณ์ผ่านได้ตกอยู่เป็นเลขาฯแผนกสโตร์ ฝ่ายบุคคลได้นัดให้เธอมาทำงานวันที่หนึ่งของเดือน นี่ก็เหลืออีกหกวัน ก็จะสิ้นเดือนหญิงสาวจึงออกไปช่วยแม่เปิดร้าน ขายส้มตำไก่ย่างที่ปากซอยเข้าบ้าน ร้านของแม่อยู่ติดถนนใหญ่
มธุรสเป็นลูกสาวคนเดียว อยู่กับแม่และยาย เพราะบิดาได้จากไปตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ด้วยอุบัติเหตุขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากซื้อของที่ตลาด
แม่เลี้ยงดูมาด้วยการเปิดร้านขายส้มตำไก่ย่าง เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองและส่งเธอเรียนจนจบปริญาตรี มธุรสจึงภูมิใจในอาชีพของแม่มากที่สุด สมัยอยู่ในวัยเรียนวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ เธอก็ออกมาช่วยแม่ขายของทุกครั้ง
ร้านของแม่เป็นตึกแถวสองชั้น แถบนี้มียี่สิบห้องตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ที่แปลงนี้เป็นของยายปลูกสร้างเพื่อให้คนเช่าค้าขาย โซนนี้จึงเป็นแหล่งของกินสำหรับคนทำงานขายแรงในย่านนี้
ร้านแม่เลือกอยู่ร้านริมปากซอยเข้าบ้าน แม่ขายมานานจึงมีลูกค้าประจำเยอะ ต่อจากร้านแม่เป็นร้านอาหารตามสั่ง ย่านนี้จึงเหมาะสำหรับพนักงานพักกลางวัน ที่จะมานั่งกินทุกวัน เลยไปประมาณสองกิโลเมตรก็จะเป็นบริษัทAK อิเล็กทรอนิกส์ ที่เธอได้งานที่จะไปทำในสิ้นเดือนนี้นั่นเอง
ร้านแม่อยู่ใกล้โซนอุตสาหกรรมใหญ่ จึงทำให้แม่มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ ส่งเธอเรียน แล้วแม่ยังมีเงินแบ่งเก็บอีกส่วนหนึ่ง แม่เป็นลูกสาวคนเดียวของยาย ยายมีเนื้อที่ทั้งหมดสิบสองไร่ในเขตบ้าน ยายจึงไม่ลำบากเรื่องเงินทองยามจับจ่ายใช้สอย เพราะมีรายได้จากค่าเช่าตึกและบ้านเช่าเรียงราย
"แม่หนูจะไปทำงานแล้วแม่ต้องให้ผึ้งมาช่วยทุกวันนะคะ" เสียงมธุรสเอ่ยด้วยความห่วงใย
"แม่ขายคนเดียวก็ได้นี่ลูก" แม่เอมอรกล่าว
"ไม่ได้ค่ะ แม่อายุมากแล้วหนูไม่อยากให้แม่ลำบาก ต่อไปนี้หนูจะทำงานเลี้ยงแม่เอง"
"แม่ยังแข็งแรงอยู่นะ"
"ไม่เอาค่ะ ผึ้งต้องมาช่วยงานที่ร้านป้าอรทุกวันเข้าใจมั้ย" มธุรสงอแงไม่ยอม จึงหันมาบอกผึ้งเด็กข้างบ้านที่มาช่วยในร้านแทน
"เอ้า…ถ้างั้นก็ได้ผึ้งต้องมาช่วยป้าทุกวันแล้วนะ" แม่เอมอรกล่าว
"ค่ะป้าอร"
"ถ้าหนูไปทำงานแม่อยู่ร้านคนเดียวเหนื่อยแย่เลย"
"แม่มีลูกสาวขยัน น่ารักแบบนี้แม่ไม่เหนื่อยหรอกลูก" ว่าจบสองแม่ลูกส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข