บทที่ 4 เขาไม่เคยแตะต้องฉัน
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเล่าเรียนสาขา Wedding Planner ที่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับประเทศก็ถูกใจบริษัท Wedding Planner แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “พบรัก” จึงยื่นประวัติส่วนตัวไป
สวี่เจียนใช้อำนาจเล็กน้อย เธอจึงถูกรับเข้าทำงานโดยไม่ได้ผ่านการสัมภาษณ์
แน่นอนว่า เสี่ยวเนี่ยนไม่ได้มีความขี้เกียจหย่อนยานเพราะมีรองผู้บัญชาการคนนี้คอยให้การสนับสนุนแม้แต่น้อย
เธอตื่นแต่เช้าตรู่ อุ้มลูกชายที่กำลังหลับสนิทไปสอดไว้ใต้ผ้าห่มอูเจินจู ค่อยไปห้องครัวทำอาหารเช้าทิ้งไว้ให้สองคนนั้นกินตอนตื่น จากนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถือกระเป๋าออกจากห้องไป
เพิ่งจะลงไปถึงข้างล่าง ก็เห็นสวี่เจียนที่สวมชุดลำลองพิงประตูรถสูบบุหรี่อยู่
สวี่เจียนเป็นหนุ่มหล่อตามมาตรฐานคนหนึ่ง คิ้วกระบี่ นัยน์ตาลึก โครงหน้าเหลี่ยมหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ไหล่กว้างเอวสอบ ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายความรู้สึกมั่นคงและมีมาดของชายชาตรี
การประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างยาวนานทำให้เขามีแข็งแกร่งไม่ย่อท้อ ทั้งยังกล้าหาญเป็นพิเศษ เมื่อสวมเครื่องแบบแล้วองอาจอย่างไม่ธรรมดา เป็นตัวเลือกสามีในอุดมคติของสุภาพสตรีที่ยังไม่แต่งงาน
“พี่คะ กินข้าวเช้ารึยัง”
“ยังเลย” สวี่เจียนรีบดับบุหรี่ พ่นควันที่เหลืออยู่ในปาก จับจ้องหญิงสาวด้วยแววตาลึกซึ้ง หัวใจก็อุ่นร้อน
เสี่ยวเนี่ยนแต่งตัวเรียบง่าย เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงคลุมเข่า ผูกผมหางม้า ดวงหน้าไร้เครื่องสำอางงดงามสะอาดสะอ้าน นัยน์ตากลมตาคู่สวยทอประกายลึกซึ้ง สวยงามจนทำให้ผู้คนประทับใจ
ตอนที่พบกันครั้งแรก เธอเพิ่งจะอายุสิบหกสิบเจ็ดปี แม้ว่าตอนนี้จะเป็นแม่คนมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทำให้ผู้คนเอ็นดู เขาชอบมาก
“ฉันทำอาหารเช้า เอามาให้พี่ด้วย” เมื่อขึ้นรถ เสี่ยวเนี่ยนก็หยิบกล่องข้าวออกมายื่นให้กับสวี่เจียน
“ภรรยาทำ พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ” สวี่เจียนคีบเกี๊ยวทอดขึ้นมาป้อนเสี่ยวเนี่ยนก่อนคำหนึ่ง จากนั้นค่อยยัดเข้าปาก กัดเบาๆและเพลิดเพลินไปกับมัน “อร่อยมาก”
เสี่ยวเนี่ยนกัดเกี๊ยวแล้วก็หัวเราะพรืดออกมา “ภรรยาอะไรคะ เป็นถึงร้อยตำรวจเอก ก็ปั้นน้ำเป็นตัวเป็นด้วยหรอคะ”
“เป็นเรื่องที่ไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องเกิดขึ้น” คิ้วกระบี่ของสวี่เจียนเลิกขึ้น ตัดสินใจว่าจะต้องได้มา
“ฮ่าๆ” เสี่ยวเนี่ยนไม่ได้ปฏิเสธ ริมฝีปากได้รูปโค้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อยิ้มขึ้นมาก็ริมฝีปากก็แดงระเรื่อเป็นพิเศษ สวี่เจียนเห็นแล้วก็ใจลอย
“เนี่ยนเอ๋อร์ พรุ่งนี้ทำเกี๊ยวอีกนะ อร่อยมากเลย กินทั้งชาติก็ไม่พอ”
“อืม”
เมื่อไปถึงบริษัทพบรัก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเพิ่งจะลงจากรถ ก็มีรถสปอร์ตแลมโบกินี่สุดหรูคันหนึ่งจอดอยู่ข้างเธอ
“คุณเอี๋ยน คุณมาแล้วหรอคะ” ผู้จัดการพาพนักงานหลายคนออกมาต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
เสี่ยวเนี่ยนนึกว่ากำลังพูดกับเธอ ขณะที่คิดจะตอบ ก็เห็นผู้จัดการโค้งตัวเปิดประตูรถแลมโบกินี่ พลางยื่นแขนออกไป ท่าทีเช่นนี้ราวกับขันทีปรนนิบัติพระนางซูสีไทเฮา เห็นได้ชัดเลยว่าคนในรถนั้นสูงศักดิ์เพียงใด
“พวกเราเข้าไปกันเถอะ” สวี่เจียนไม่อาจทนดูท่าทีเช่นนี้ได้ จึงดึงเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปในห้องโถงด้วยสีหน้าเย็นชา
เสี่ยนเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น เหลือบตามองดูอย่างเร่งรีบ ก็เห็นเรียวขาเพรียวบางขาวราวกับหิมะยื่นออกมาจากด้านในรถ
“ตึก!” เสียงรองเท้าหนังฝังอัญมณีคู่งามกระทบกับพื้นดังขึ้น ต่อมา หญิงสาวที่สวมเดรสสั่งตัดตัวยาวคนหนึ่งก็ยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ สวมแว่นกันแดด เชิดคางขึ้นสูงอย่างดูแคลนทุกสิ่งบนโลก
“คุณเอี๋ยน ยินดีกับการแต่งงานด้วยค่ะ!”
เหล่าพนักงานพากันย่อตัวลงจัดชายกระโปรงให้เธอ และปรนนิบัติคนมีเงินด้วยความรอบคอบ “พวกเราเชิญอาจารย์ที่จะวางแผนการจัดงานแต่งงานชั้นยอดมาให้คุณสิบท่าน เพื่อติดตามงานแต่งของคุณเป็นพิเศษ”
เอี๋ยนหยู่โรวดึงแว่นกันแดดลงมาเล็กน้อย หางตาชี้ขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาด “เมื่อครู่ผู้หญิงที่เดินเข้าไปกับรองผู้บัญชาการคนนั้นทำหน้าที่อะไร”
“อ่อ เธอหรอคะ”
ผู้จัดการกลอกตา นึกถึงข่าววงในขึ้นมาได้ “ไม่กี่วันก่อนได้ยินว่าผู้บัญชาสวี่แนะนำคนมาทำงานที่นี่คนหนึ่ง อาจจะเป็นเธอค่ะ”
“น่าสนใจ” เอี๋ยนหยู่โรวเลิกคิ้ว ออกคำสั่งอย่างยโสโอหัง “งานแต่งงานของฉันก็ให้เธอปรนนิบัติคนเดียว คนอื่นๆแยกย้ายไปให้หมด ฉันจ่ายค่าคอมมิชชั่นเหมือนเดิม”
“นี่...ดีเกินไปแล้ว!” ผู้จัดการลังเลไปวินาทีหนึ่ง ก่อนจะตอบรับอย่างไร้น้ำใจ “คุณเอี๋ยน ความกล้าหาญนี้ของคุณ เหมือนกับบูเช็กเทียนกลับชาติมาเกิด เหนือกว่าคุณหญิงไฮโซทั้งหมดอีกค่ะ!”
“หึ” ...เอี๋ยนหยู่โรวยิ้มได้ใจแล้วกลับไปนั่งในรถ “ส่งเธอไปบริการฉันที่บ้านให้เร็วที่สุด จำเอาไว้ว่า ตั้งแต่แต่งหน้าเปลี่ยนชุดไปจนถึงจัดการงานต่างๆ ล้วนให้เธอทำคนเดียว อย่าสร้างเรื่องให้ฉันล่ะ!”
“ค่ะ” ผู้จัดการปิดประตูรถให้เรียบร้อยด้วยความระมัดระวัง พลางโค้งตัวเก้าสิบองศาส่งเธอจากไป
วันแรกที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทำงาน ยังไม่ทันจะทำความคุ้นเคยกับบริษัทก็ลงมือทำงานด้วยความมึนงงแล้ว เดิมเธอนึกว่าเป็นการเห็นแก่หน้าสวี่เจียน
รอจนไปถึงเซียงเจียงเลคไซด์วิลล่าแอเรียของบิดา เธอเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางของพี่สาวแล้ว แต่เธอเห็นคุณค่าของงานนี้ จึงกัดฟันหวีผมให้กับพี่สาว
“เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เธออยากตายหรอ! ทำผมฉันเจ็บแล้วเนี่ย!”
เอี๋ยนหยู่โรวปั้นน้ำเป็นตัว หวียังไม่ทันแตะหนังศีรษะเธอ เธอก็หันกลับมาดึงผมเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแล้วกระชากลงอย่างแรง
เสี่ยวเนี่ยนเจ็บจนต้องกดหนังศีรษะ “คุณเอี๋ยน ฉันยังไม่ได้แตะถูกคุณเลยนะคะ จะทำให้ผมคุณเจ็บได้ยังไง”
“เพี๊ยะ!” ทันใดนั้นเอี๋ยนหยู่โรวพาลโกรธ กระโดดขึ้นมาตบเธอฝ่ามือหนึ่ง ดวงหน้าบิดเบี้ยวตะคอกว่า “กล้าเถียงฉัน รู้มั้ยว่าฉันมีฐานะอะไร ฉันสามารถทำให้เธอหายไปจากโลกใบนี้ได้ในเสี้ยวนาที!”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหลุบตาลง มือที่ถือหวีกำแน่น พลางอดทนแล้วอดทนอีก
เธอไม่สนใจว่าเอี๋ยนหยู่โรวจะแต่งงานกับใคร แต่ดูจากท่าทางมีอำนาจล้นเหลือเช่นนี้ของเธอ ก็รู้ว่าคนต่ำต้อยยากจะล่วงเกิน “ขอโทษค่ะคุณเอี๋ยน”
“นังแพศยา!” เอี๋ยนหยู่โรวนั่งลงใหม่ ขาสองข้างที่พาดอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งสั่นไปมา ท่วงท่าราวกับคนมีอำนาจ แววตาเต็มไปด้วยแผนการร้าย
วันนี้ เธอจะให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตายที่นี่
อุบัติเหตุที่ทำให้คนคนหนึ่งตายนั้นง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์ ตกจากตึก แต่ก่อนตายต้องทำให้อัปยศอดสูให้พอก่อนค่อยว่ากัน
ตำแหน่งฐานะและความร่ำรวยมหาศาลในสี่ปีนี้ ทำให้เธอยืนอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิต แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนขโมยมา ไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้ได้ เมื่อเจ้าของที่แท้จริงมาถึง...เหอะ ฆ่าทิ้งสถานเดียว!
แต่ทว่า ตอนที่เอี๋ยนหยู่โรวกำลังเย่อหยิ่งทะนงตนจนลืมทุกสิ่ง ทันนั้นก็ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่...ทั้งกล่องเต็มไปด้วยภาพร่างกายเปลือยเปล่า!กับจดหมายข่มขู่ฉบับหนึ่ง!
ในจดหมายกล่าวไว้ว่า ถ้าหากเธอแต่งงานกับเซียวเซิ่ง ก็จะเปิดเผยภาพโป๊ คลิปวิดีโอต่างๆ พร้อมกับการแต่งงาน
“ฮือๆ...แม่คะ ทำยังไงดีคะ” เอี๋ยนหยู่โรวตกใจจนตัวสั่นระริก
“ลูกอยากมากขนาดนั้นเลยหรอ ยังจะผู้หญิงคนเดียวกับผู้ชายหลายคนอีก”
หวงฟางผู้เป็นมารดาคล้ายกับถูกฟ้าผ่าใส่ โยนรูปภาพออกไปด้วยความโมโห “ลูกมีผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างเซียวเซิ่งแล้ว ทำไมถึงยังไปแอบกินข้างนอกอีก”
“หนูอยู่กับเซียวเซิ่งมาสี่ปี แต่เขาไม่เคยแตะต้องหนูเลย เขาบอกว่าให้รอจนหลังแต่งงาน” เอี๋ยนหยู่โรวเช็ดน้ำตา เอ่ยอย่างน้อยใจว่า “หนูเป็นผู้หญิงปกติ มีความต้องการ! ในบางครั้งก็ต้องการมากเป็นพิเศษ จนอดทนไว้ไม่อยู่....”
“แอบกินยังไม่รู้จักจัดการให้เรียบร้อย” หวงฟางทุบศีรษะที่ปวดเศียรเวียนเกล้า เดินกลับไปกลับมาไม่หยุด “ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่แต่งหรือไม่แต่งงานแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ครอบครัวเรายังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่!”
“แม่คะ หนูไม่อยากตาย!” เอี๋ยนหยู่โรวร้องไห้จนเกือบช็อก
ถ้าเซียวเซิ่งรู้ว่าเธอไปเล่นสนุกกับผู้ชายข้างนอก จะต้องจัดการเธอให้ตายแน่ๆ! ศักดิ์ศรีของเซียวเซิ่งไม่ยินยอมให้เกิดเรื่องละเมิดเช่นนี้ได้!
“พอแล้ว ไม่ต้องร้องแล้ว!” หวงฟางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นัยน์ตาพลันสว่างวาบ “แม่มีวิธีหนึ่ง เสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนใหญ่เอาไว้!”
“หมายความว่าอะไรคะ” เอี๋ยนหยู่โรวหยุดร้องไห้ทันที พลางถามอย่างไม่เข้าใจ
หวงฟางหรี่ตายิ้มแปลกๆ แล้วเอ่ยทีละคำๆว่า “ให้เสี่ยวเนี่ยนแต่งไปรับเคราะห์แทนลูก”