บทที่ 3 เด็กน้อยน่ารัก
คนที่เดินเข้ามาคือหนุ่มหล่อสาวสวยคู่หนึ่ง ด้านหลังตามมาด้วยผู้ช่วยและบอดี้การ์ดหลายคน ดูมีมาดเป็นอย่างมาก
หวงฟางรีบหยุดมือ หันหลังหยิบแว่นดำจากในกระเป๋าออกมาใส่
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหน้าผากแตก เลือดสีสดรินไหลหยดแล้วหยดเล่าลงไปตามแพขนตาเข้าไปนัยน์ตา ตรงหน้ามีหมอกแดงบังเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเธอก็เห็นพี่สาวเช่นกัน
เอี๋ยนหยู่โรวคล้องแขนชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งด้วยท่าทางน่ารัก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
ชายหนุ่มหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง สวมเสื้อเชิ้ตชุดสูทสีดำรีดเรียบกริบ ปกคอเสื้อปลดกระดุมออกสองเม็ด เผยให้เห็นลำคอที่เซ็กซี่ มองดูแล้วทำให้คนหน้าแดงหัวใจเต้นระรัว ทว่านัยน์ตาเย็นยะเยือกกลับเย่อหยิ่ง
ชายหนุ่มกวาดตามองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแวบหนึ่ง
สายตาประสานกัน คล้ายกับดวงตาถูกสิ่งสกปรกปนเปื้อน เขาเบนสายตาไปอย่างเย็นชา มือข้างหนึ่งโอบเอวเอี๋ยนหยู่โรวให้เดินต่อไปอย่างเอาใจใส่
ไม่รู้ว่าทำไมในใจเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถึงได้รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เธอยกมือปาดเลือดบนหน้าผาก
เอี๋ยนหยู่โรวหันกลับมามองมารดา แววตามีประกายโหดเหี้ยมพาดผ่าน
เธอเดาได้แล้วว่าน้องสาวมาทำอะไรที่โรงพยาบาล จึงส่งสัญญาณให้มารดาลงมือให้หนัก
หวงฟางเข้าใจ มุมปากจึงโค้งเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย ในที่สุดลูกสาวแท้ๆก็ได้ยกระดับเป็นคนมีฐานะสูงขึ้นแล้ว ลูกเลี้ยงคิดจะทำลายน่ะ ไม่มีวัน!
“คุณเอี๋ยน คุณจิตใจงดงามจริงๆ” เห็นเอี๋ยนหยู่โรวหันหน้ากลับไปบ่อยๆ เลขาเล่ย์ที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยยิ้มๆ “ที่โรงพยาบาลเห็นคนหัวแตกเลือดไหลเป็นเรื่องปกติมาก มีคุณหมออยู่ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกครับ”
“ฉันยังรู้สึกไม่วางใจเล็กน้อยค่ะ” เอี๋ยนหยู่โรวกระชับแขนเซียวเซิ่งแน่นด้วยความเคร่งเครียด แสร้งเอ่ยราวกับเป็นเรื่องใหญ่ว่า “เด็กสาวคนนั้นเลือดออกแล้ว ไม่สู้พวกเราไป”
“ไม่ต้อง” ความโหดเหี้ยมบนใบหน้าเซียวเซิ่งเลือนหายไป ขณะก้มมองเธอ มุมปากโค้งเป็นรอยยิ้มจางๆ “แค่ดูก็รู้ว่าตั้งท้องโดยที่ไม่มีผู้ชายรับผิดชอบ ดังนั้นถึงได้ถูกแม่ตบ เรื่องในครอบครัว”
เอี๋ยนหยู่โรวตะลึงไปเล็กน้อย แนบมือเซียวเซิ่งลงบนแก้มของตนเอง พลางเอ่ยอย่างมีใจปฏิพัทธ์ “ขอบคุณที่คุณรับผิดชอบฉัน ไม่อย่างนั้นฉันก็คงเหมือนเธอ”
“ไม่หรอก” เซียวเซิ่งดึงมือกลับมา โอบร่างเล็กของเอี๋ยนหยู่โรวเข้ามาในวงแขนแกร่ง ปกป้องเอาไว้ “มีผม เซียวเซิ่งปกป้องคุณอย่างรอบคอบ แม้ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่คุณก็ไม่สามารถแตะต้องคุณได้แม้แต่เส้นผมเส้นหนึ่ง”
ว้าว
ผู้ชายคนนี้ยิ่งใหญ่มาก เผด็จการมาก! เอี๋ยนหยู่โรวยิ้ม ยิ้มหวานมาก หวานมากๆ...
“หึ โรวเอ๋อร์ของฉันมีวาสนาดี!” หวงฟางมองส่งเงาร่างของลูกสาวแล้วก็อารมณ์ดีจนหุบปากไม่ลง “คราวนี้จะแต่งให้กับตระกูลไฮโซแล้ว ฮ่าๆ...เสี่ยวเนี่ยนริษยามั้ย”
นึกถึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็ค่อยๆเลือนหายไปและแทนที่ด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต
เอามารหัวขนในท้องเธอออกมันจะไปพอได้ยังไง ต้องให้เธอตายไปด้วยกันเลย มีเพียงแค่คนตายที่สามารถรักษาความลับได้!
ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว หวงฟางก็หันกลับมา พุ่งเข้าใส่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนราวกับเสือตะครุบเหยื่อ ใครจะไปรู้ว่าพุ่งเข้าใส่ความว่างเปล่า นังเด็กชั่วหายไปแล้ว!
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหนีไปแล้ว!
...
สี่ปีต่อมา
เครื่องบินสำหรับตำรวจบินทะยานอยู่บนท้องฟ้าสดใส และกำลังจะไปถึงเมืองจงโจว
“คุณอาสวี่~”
ภายในห้องโดยสาร เสียงสดใสหวานล้ำของเด็กน้อยดังขึ้น ฟังแล้วนุ่มนิ่มน่ารักเป็นพิเศษ “คุณลุงชอบผมมากกว่า หรือชอบหม่ามี๊ของผมมากกว่าครับ”
“เอ่อ คำถามนี้ยากไปหน่อย” สวี่เจียนยิ้มอ่อนโยน
“พูดความจริงครับ” เอี๋ยนต้าฟา เด็กน้อยน่ารักวัยสามขวบที่นั่งอยู่บนหน้าขาของสวี่เจียน ลูบป้ายบนชุดตำรวจของเขา พลางเอ่ยสอบถามด้วยท่าทางจริงจัง
“ต้าฟา ลูกควรจะเรียกว่าคุณลุงสวี่ เขาอายุมากกว่าหม่ามี๊สิบปี เรียกคุณลุงจะให้ความรู้สึกเคารพยิ่งกว่า” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเหลือบมองลูกชายอย่างจนปัญญา เตือนเขาไปหลายครั้งแล้วก็ยังไม่จำ
“แบร่ๆ” เอี๋ยนต้าฟาแลบลิ้นใส่มารดา ดวงหน้าเล็กนุ่มนิ่มยิ้มหวาน “คุณลุงกับคุณอาล้วนเป็นเพียงชั่วคราว ผู้บัญชาสวี่จะเป็นปะป๊าของผมนะ!”
“ถูกต้อง” สวี่เจียนพยักหน้าเห็นชอบ เลิกคิ้วใส่เสี่ยวเนี่ยนเล็กน้อย พลางถามเสียงเบาว่า “นังหนู นี่เธอรังเกียจที่ฉันแก่หรอ”
เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาหนักแน่นและเด็ดเดี่ยวของสวี่เจียน ดวงหน้าขาวราวหิมะของเสี่ยวเนี่ยนก็เกิดริ้วแดงขึ้นมา ขณะส่ายหน้าด้วยความอึดอัด “จะเป็นไปได้ยังไงคะ”
ซาบซึ้งยังจะไม่ทันเลย
สวี่เจียน อายุ 31 ปี รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจจงโจว ร้อยตำรวจเอก สี่ปีก่อนได้บังเอิญพบกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือดโดยบังเอิญ และได้ช่วยเธอเอาไว้ พร้อมทั้งออกเงินส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศจนจบ...
“ไม่ใช่ก็ดี” ลูบศีรษะเธออย่างทะนุถนอม ก้มหน้ามองเด็กหนุ่มหน้าตาสะสวย “ลุงชอบน้องฟามากกว่า เพราะน้องฟารักลุงมากกว่าหม่ามี๊ อีกครู่ลงเครื่องบินแล้วไปอยู่บ้านลุงดีมั้ย”
“เอ่อ ฮิฮิ...ผมตัดสินใจเองไม่ได้ครับ” เอี๋ยนต้าฟาเกาเรือนผมสีดำทรงหัวเห็ดบนศีรษะ เหลือบมองดูมารดาแวบหนึ่งอย่างเอาใจ “หม่ามี๊ของผมเป็นคนสวย ไม่ว่าอะไรผมล้วนฟังหม่ามี๊ครับ”
“พี่คะ ขอบคุณที่ดีกับพวกเราแม่ลูกขนาดนี้”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองสวี่เจียนด้วยความจริงใจ นัยน์ตาฉ่ำวาวเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ “เพียงแต่พี่ยังโสดอยู่ ทั้งยังทำงานรับใช้ประชาชน พวกเราแม่ม่ายลูกติดไปอยู่ด้วย จะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อพี่นะคะ”
“ไม่เป็นไร รอสองสามวันพี่จะพาเธอไปพบกับผู้ปกครองอย่างเป็นทางการ จะได้จัดการเรื่องแต่งงานให้เรียบร้อย”
“นี่...” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้มขมขื่น มารดาของสวี่เจียนไม่เห็นด้วยที่จะให้พวกเขาคบกัน “พี่คะ ฉันให้เพื่อนชื่ออูเจินจูมารับฉันแล้ว จะอยู่บ้านของเธอชั่วคราวค่ะ”
ก็ดี ครุ่นคิดไปไม่กี่วินาที สวี่เจียนก็พยักหน้าตกลง “รอพี่มอบฐานะให้เธอได้ แต่งงานกับเธออย่างเป็นทางการ เสี่ยวเนี่ยน พี่...”
เขาอยากพูดว่าเขารักเธอ แต่ทุกครั้งที่บุรุษผู้แข็งแกร่งน่าเกรงขามที่ปลายกระบอกปืนเปื้อนเลือดเอ่ยถึงสามคำนี้ล้วนติดขัด ชวนให้มึนงงจริงๆ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้ความรู้สึกเขา จึงยิ้มเงียบๆ ไม่เคยเปิดเผยมันออกมา
เธอจะไม่ชอบฮีโร่ที่ช่วยตัวเองคนนี้ได้ยังไง ถ้าหากแม่ของสวี่เจียนไม่คัดค้าน คาดว่าคงแต่งงานไปนานแล้ว เฮ้อ...
เครื่องบินมาถึงสนามบินอย่างปลอดภัย
อูเจินจู เพื่อนสนิทรออยู่ที่อาคารโดยสารหมายเลข 1 นานแล้ว เมื่อเห็นสามคนครอบครัวเดินออกมา นัยน์ตาก็มีประกายตะลึงพาดผ่าน “เสี่ยวเหนียนหยู น้องฟา พี่สวี่!”
“เจินจู!”
“จุ๊ๆ...หนุ่มหล่อ สาวสวย ลูกชายก็น่ารัก รีบแต่งงานกันเถอะ!”
“ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเธอเป็นใบ้นะ” เสี่ยวเนี่ยนเขม่นตามองเพื่อนสนิทแวบหนึ่ง และยื่นกล่องของขวัญในมือให้เธอ “เครื่องสำอาง รุ่นลิมิเต็ดที่เธอชอบที่สุด”
“ทำใจใช้เงินเพื่อฉันได้จริงๆ” อูเจินจูรับมาด้วยรอยยิ้มระรื่น และถือโอกาสอุ้มเอี๋ยนต้าฟาขึ้นมางับไปคำหนึ่ง หลังจากนั้นก็ผลักเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปในอ้อมแขนสวี่เจียน “น้องฟาไปกับฉัน เสี่ยวเหนียนหยูไปกับพี่สวี่ เอาแบบนี้แล้วกัน”
สวี่เจียนประคองเสี่ยวเนี่ยนเอาไว้อย่างมั่นคง โค้งริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ได้”
“ในที่สาธารณะ อย่าเล่น! ฉันต้องไปกับเธอ” เสี่ยนเนี่ยนกระเด้งตัวออกจากอ้อมแขนสวี่เจียนราวกับถูกไฟช็อต กลัวว่าจะสร้างผลกระทบที่ไม่ดีให้กับผู้กำกับการใหญ่
สวี่เจียนอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง แต่ยังคงส่งสองแม่ลูกขึ้นรถของอูเจินจู มองเธอด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย “เสี่ยวเนี่ยน พรุ่งเช้าพี่จะรับเธอไปบริษัท เข้าทำงานวันแรก พี่จะไปทักทายสักหน่อย”
“แบบนี้...ได้หรอคะ”
“ไม่เป็นไร ตำรวจก็สามารถมีความสัมพันธ์กับผู้คนได้ตามปกติ”
“อย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกันค่ะ ต้าฟาบอกลาคุณลุงเร็วลูก” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเขย่านิ้วมือนุ่มนิ่มของลูกชาย
“ลาก่อนครับ ว่าที่แด๊ดดี้!” เอี๋ยนต้าฟาแย้มรอยยิ้มราวกับสุภาพบุรุษชวนให้ผู้คนหลงใหลออกมา ปากเล็กๆที่ฉีกออกนั้นเหมือนเสี่ยวเนี่ยนมาก
“เด็กดี” สวี่เจียนใจอ่อน หอมแก้มเด็กน้อยน่ารักไปครั้งหนึ่ง ตอนที่เหลือบตามองก็ถือโอกาสประทับจูบลงบนหน้าผากเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
เสี่ยวเนี่ยนหัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่งไปครู่หนึ่ง รีบผลัก อูเจินจูครั้งหนึ่ง “รีบขับรถเถอะ”
รถขับเคลื่อนออกไปจนไกลขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นทรวงอกสวี่เจียนก็เจ็บขึ้นมา มีความรู้สึกหลอนขึ้นมาว่าเธออยู่ห่างจากตนเองไกลขึ้นเรื่อยๆ และจะไม่กลับมาอีกแล้ว…