3
เธอพยายามร้องขอ แต่ก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนเขา ปากและจมูกร้อนๆ ไถลไปตามผิวนวลขาว เขาจูบ ดื่มชิมไปทุกส่วน
มือของเขาพันธนาการมือของเธอไว้ด้วยมือเดียว ตัวหนักๆ นั่นทับมาที่ร่างน้อยแทบทำให้คนใต้ร่างหายใจไม่ออก ทั้งกลัว ทั้งสับสน สารพัดความรู้สึกปะปน เธอตัวสั่นจนเขารับรู้ได้ อาการเอาแต่ใจของเขาค่อยคลายลง เปลี่ยนเป็นผ่อนแรงตนที่แตะสัมผัสเธอ
เขาใช้มือเลิกเปิดเสื้อของเธอขึ้น ปลดบาร์เซียตะขอหน้าของเธอออก ทรวงขาวอูมแต้มด้วยยอดอกสีหวานปรากฏต่อสายตา มีรตีร้องห้ามเขา เธอสะดุ้งสุดตัวเมื่อปลายลิ้นของเขาแตะแต้มบนยอดทรวง
ผีเสื้อนับพันกระพือร้อนเร่า กระตุ้นร่างน้อยไม่เคยชายให้บินกระพือขึ้นไปตามแรงอารมณ์ที่ถูกสั่งสอน อารมณ์ดิบของมนุษย์ที่ไม่เคยได้เรียนรู้ถูกปลุกเร้าโดยผู้ชำนาญการ ร่างน้อยร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็น บางส่วนฉ่ำชื้นปริ่มออกมา โอ...เขากำลังทำอะไรกับเธอ
"พี่กาย ปล่อย อ๊า ปล่อย"
"หึๆ แน่ใจที่จะให้พี่ปล่อย"
เขางึมงำกับเต้าขาวนิ่ม ฟัดมันอย่างเมามัน มีรตีกัดริมฝีปากจนเจ็บ มือของเธอยังคงถูกรวบไว้เหนือหัว เธอพยายามเรียกสติไม่ให้ไหวพัดไปตามที่เขานำพา
แต่ยากเหลือเกิน
โอ...
ลิ้นของเขาร้ายกาจ มันตวัดดึงดูด เหมือนจะกลืนเธอเข้าไป ส่วนสาวของเธอเริ่มเปียกฉ่ำ เพราะอารมณ์กฤษณาที่เพิ่งเคยถูกสั่งสอนให้ได้รับรู้
"พี่กาย...ไม่ อย่าทำรตี"
น้ำตาของเธอไหลคลอ เธอกำลังสับสนใจตัวเอง ละอายในตัวเอง กลัว....และก็อยาก...รับผลไม้ต้องห้ามที่เขากำลังบังคับป้อน
"เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอร้องว่าอย่าหยุด"
เขาหัวเราะ มือของเขาไต่ไปตามหน้าท้องเนียน แล้วดึงกางเกงตัวนุ่มของเธอ มือเขาที่จับมือเธอไว้ปล่อยแล้วตอนนี้ มันไปประคองสะโพกของเธอไว้แทน มีรตีรู้สึกเย็นวาบเมื่อเขาถอดทุกชิ้นออกจากตัวเธอ
"อา..."
เขาคำรามกับกลีบกุหลาบเบียดชิดที่เห็น มันขาวโพลนไม่มีสิ่งใดปกคลุม แม่สาวน้อยของเขา...หล่อนน่ากินเหลือเกิน
เขาก้มหน้าลงไป แหวกลิ้มรสหล่อนด้วยลิ้นร้อน มือที่จะผลักเขาเมื่อเป็นอิสระ กลับจิกไปที่บ่ากว้างแทน ร่างงามสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกลิ้นชำแรก ถูกดูดกินกลืนหยาดหยดน้ำหวาน เขาจับขาของเธออ้าออกกว้าง พาดขาเรียวไว้บนบ่า ตวัดลิ้นระรัวชิม เปิดกว้างเธอเหมือนเป็นอาหารชั้นเลิศ
"พี่กาย ไม่ อ๊า อื้อ"
มีเพียงเสียงดูดกลืนที่น่าเร้าใจดังแทนคำตอบจากเขา มีรตีหลับตาแน่น หวีดร้องออกมาเมื่อสวรรค์แรกมาเยือน หัวของเธอหมุนคว้างไปหมด ร่างกายอ่อนเปียก สุขสมและไร้เรี่ยวแรง
"เสร็จแล้วสินะ ยัยตัวร้าย"
เขางึมงำ เงยหน้าขึ้นมาจากความเปียกชุ่ม ก่อนจะยิ้มแสยะอย่างร้ายกาจ มืออีกข้างจับตรงความแข็งร้อนเป็นหินของตนเอง อา...มันอยากเข้าไปในตัวของหล่อนจนแทบจะระเบิดแล้ว
"พี่กาย อย่า..."
เสียงห้ามนั้นยังคงดังระโหย จากปากอิ่ม เมื่อเขาขึ้นทาบทับเธอ มีรตีรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ โอ...มันไม่ถูกต้อง แต่เธอไม่อาจจะห้ามเขาได้เลย
เขากำลังฉุดเธอลงหลุมนรกแห่งความใคร่
เขาป้อนตัณหาให้เธอได้ลิ้มรส
"อย่าหยุดใช่ไหม"
เขากระซิบ จับขาของเธอพาดที่สะโพกเขา เปิดทางให้กับเขา
"โอ๊ย...อื้อ เจ็บ"
เธอถึงกับสะดุ้งขึ้นทั้งตัว เมื่อเขาเข้าแทรกเป็นส่วนหนึ่ง กรเอกขบกรามกรอดกับความคับแน่น ที่บีบเค้นเขาจนแทบทะลัก
"ทนอีกนิด อีกนิด อา...แน่นเหลือเกิน"
"ปล่อยรตี ปล่อยเถอะ รตีเจ็บ"
"ปล่อยไม่ได้ โอ...ไม่ไหวแล้ว"
ที่สุดของความอดทน เขากระแทกตัวเข้ามาในตัวเธอจนสุด มีรตีรู้สึกเหมือนบางอย่างในตัวฉีกขาด เธอกัดฟันกรอดกลั้นเสียงร้อง น้ำตาไหลปริ่มด้วยความเจ็บปวด
ความแนบแน่นบีบเค้นนั้นทำให้เขาไม่อาจจะกลั้นได้ กรเอกแค่เข้าไปได้เขาก็ทะลักล้น เขากอดร่างน้อยไว้แน่นขณะที่หล่อนพยายามดิ้นหนีเขา
เขาได้สั่งสอนประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดให้เธอไปสินะ
แม้จะอยากใจดำ แต่เขากลับปลอบโยนเธอ ถอดถอนตัวออกมา พรมจูบซับน้ำตาให้ มือน้อยๆ นั่นยังเพียรทุบอกเขา เหมือนจะอยากให้เขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
แต่เรื่องอะไรเขาจะปล่อย
เขายิ่งรัดเธอเข้ามาในอ้อมแขน ไม่สนว่าเธอจะร้องไห้ และอ้อนวอนของให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ
ซาตานตัวร้ายนอนกอดเธอไว้แบบนั้นจนหลับไป
มีรตีเองก็เหนื่อย...เจ็บ...และ สุดท้ายเธอก็หมดความพยายาม หลับคาอกกว้างไปทั้งน้ำตา
....
"ยัยรตีไม่ลงมากินข้าวหรือคุณ"
"เห็นบอกว่าไม่สบายน่ะค่ะ วันนี้ก็ลา"
"อ้อ...ไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า?"
"บอกว่าเป็นไข้น่ะค่ะ นี่ก็เอายาให้กินแล้ว ข้าวก็ยกขึ้นไปให้แล้ว"
เสียงสนทนาของบิดาและมารดาเลี้ยง ทำให้คนที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ พร้อมกับนั่งเช็คข่าวสารในโทรศัพท์ชะงักไปนิดหนึ่ง เขาวางแก้วลง ตามองไปยังบิดาและมารดาเลี้ยง เมื่อเห็นว่าพวกท่านกำลังนั่งคุยกันสนทนากันเกี่ยวกับเรื่องคนที่กำลังอยู่บนชั้นสองของบ้าน เขาก็เดินตรงไปหาพวกท่าน พร้อมกับเอ่ยขึ้นแทรกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน