5.ยัยตัวแสบ
RREP5.ยัยตัวแสบ
“ม่ายย โมรำคาญ โมจะไปอาบน้ำ”
พูดจบหล่อนก็เดินหนีผมเข้าไปในห้องน้ำเลย เฮ้อ…แล้วคืนนี้ผมจะอดใจไหวมั้ย ถ้าขืนโมริเกิดเป็นบ้าทำอะไรแปลกขึ้นมา ผมจะอยู่ยังไง?
คนตัวโตนั่งคิดไม่ตกอยู่บนเตียง หัวใจดวงใหญ่ที่ห่างหายจากความรู้สึกตื่นเต้นไปนานแล้ว พองโตขขึ้นมาอีกครั้ง ให้ตายสิ! เขาไม่สามารถควบคุมความรู้สึกตัวเองได้เลย
เจเจตัดสินใจปิดไฟแล้วนอนคลุมโปงเพื่อหลีกหนีคนเมา ถ้าเขาหลับทุกอย่างในคืนนี้ก็จะจบ
“เอ๋? มืดจัง”
คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยออกมาน้ำเสียงเอะใจเล็กน้อย ก่อนที่ร่างนุ่มนิ่มของเธอจะกระโดดขึ้นมาบนเตียง เตียงขนาดคิงไซต์อ่อนยวบจนคนที่นอนอยู่ไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลย
“นอนแล้วหรอคะ”
โมริเอ่ยถามผมออกมา ผมรู้สึกได้ว่าเธอกำลังนั่งจ้องผมอยู่
“พี่เจยังไม่นอนใช่มั้ยคะ โมริมีเรื่องจะคุยด้วย”
ไม่พูดอย่างเดียว เธอยังเขย่าตัวผมไปมาอีก
พลึ่บ!
“จะทำอะไร”
ผมเอ่ยถามออกมา เพราะคนตัวเล็กดึงผ้าห่มออกจากหน้าผม นี่ขนาดเธอเข้าไปอาบน้ำแล้วกลิ่นเหล้ายังแรงอยู่เลย มันไม่ได้เหม็นนะ แต่มันชวนให้ดมมากกว่า กลิ่นสบู่อาบน้ำหอมๆน้้นไม่ได้กลบกลิ่นความมึนเมาไปหมดเสียทีเดียว
“โมอยากขอโอกาส”
“โอกาสอะไรของเธอโมริ”
ผมกดน้ำเสียงต่ำลง แสงไฟสลัวๆจากโคมไฟทำให้ผมเห็นลางๆ ว่าคนตรงหน้าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!! 0_0
ให้ตาย!
“พี่เจลองให้โอกาสโมริหน่อยได้มั้ยคะ โมริชอบพี่เจ…”
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะโฟกัสอะไรก่อนดี คำถามที่เธอถามหรือเลือนร่างอันเปลือยเปล่าของเธอ!
และดูเหมือนลูกชายของผมจะเริ่มตื่นตัวแล้วด้วย กลิ่นกายสาวของโมริมันกำลังเชิญชวนให้เขาเข้าไปสัมผัสเธอ
“ฉันไม่รับปาก….ฉันกลัวเธอจะเสียใจทีหลัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่พี่ลองให้โอกาสโมริสักครั้ง ต่อให้สุดท้ายถึงพี่จะไม่รักโมก็ไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองด้วยความยากลำบาก ร่างหนาขบกรามเอาไว้แน่น เพราะคนข้างๆไม่ทำเพียงแค่พูดเฉยๆ หนำซ้ำเธอยังใช้นิ้วขึ้นมาทำปูไต่บริเวณหน้าอกของเขาอีกด้วย
พรึ่บ!
“พะพี่เจจะทำอะไรคะ?”
ผมใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยววิในการเปลี่ยนตำแหน่งขึ้นไปคร่อมร่างบางเอาไว้ บัดนี้โมริได้ล้มลงไปอยู่ใต้ร่างของเขาเรียบร้อยแล้ว
“ทำไมเธอไม่ใส่เสื้อผ้า…..”
เจเจเอ่ยถามพร้อมกับใช้นิ้วยาวเกลี่ยบริเวณต้นขาขาวเบาๆ
“โม โม โมลืมค่ะ”
ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าโมริกำลังเมาอยู่จริงหรือเปล่า
“เธอแก้ผ้ามาอ่อยฉันขนาดนี้ ฉันควรทำยังไงกับเธอดี…..”
“พี่เจ…อื้มมม”
เหมือนร่างกายของผมจะไม่ต้องการเพิ่มบทสนทนาในระหว่างนี้ ผมก้มลงไปจูบโมอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ลิ้นหนาสอดเข้าไปชิมโพรงปากหวานพร้อมกับดูดดึงมันอย่างสนุกสนาน
“ดะเดี๋ยวค่ะ แต่โมมีข้อตกลงหนึ่งข้อ อ๊ะ”
โมริจะรู้ไหมว่าผมไม่ต้องการให้เธอพูดอะไรขึ้นมาอีก เพราะผมกำลังสนุกอยู่กับการหยอกเย้ากับหน้าอกของเธอ
“พี่ห้ามล่วงเกินโมจนกว่าพี่จะรักโม”
หื้ม? ผมฟังไม่ผิดไปใช่ไหม
“เธอว่าไงนะ?”
เขาผละใบหน้าออกมาจากดอกบัวตูมโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินข้อตกลงนั้น เหมือนคนใต้ร่างจงใจแกล้งเขา ยัยตัวแสบ!
“โมจะยอมยกร่างกายให้พี่ก็ต่อเมื่อพี่รักโมแล้วค่ะ”
ผมนั่งนิ่งไม่กล้าทำอะไรต่อ เพราะมัวแต่คิดตามคำพูดที่คนใต้ร่างเอ่ยออกมา เธอตัังกฎมาแบบนี้เขาก็คงต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนัก เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่มีวันรักใครได้อีกแล้ว นั่นมันหมายถึงเรื่องบนเตียงระหว่างเขากับเธอจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!
“ฉันจะออกไปนอนห้องรับแขก”
ว่าจบผมก็เดินออกจากห้องนั้นมาเลย คืนนี้คงต้องไปนอนสงบสติอารมณ์อยู่คนเดียวเช่นเคย
JJ End
Mori Part
รุ่งเช้า
โมริตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวเล่นงานเธออย่างหนัก ไม่อยากจะเชื่อว่ากินไปแค่ไม่กี่แก้วเธอลับจำอะไรไม่ได้เลย แต่จะว่าไปก็จำได้ลางๆนะ ตื่นขึ้นมาฉันก็ไม่เห็นพี่เขาแล้วนั่นแหละ ฉันจำได้แค่ว่าฉันอ้วกใส่พี่เขาส่วนความทรงจำหลังจากนั้น ลืมจ่ะ
‘ไอ้เจ บอกแล้วไง คืนเข้าหอห้ามออกนอกห้อง’
เสียงดังเอะอะโวยวายด้านนอกทำให้คนที่กำลังแต่งตัวอยู่ต้องรีบเดินออกมาดู
“คุณลุง!”
ฉันเห็นคุณลุงกำลังยืนด่าพี่เจเจอยู่หน้าห้องรับแขก เมื่อคืนพี่เขาคงไปนอนห้องนั้นสินะ แต่ดูเหมือนพี่เขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดของคุณเลย เพราะเขาเดินออกมาจากห้องนั้นหน้าตาเฉย แถมยังส่งสายตาคาดโทษมาให้ฉันอีก T_T แล้วเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพี่เขาถึงมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นง่าาา
“จะยืนบื้ออีกนานไหม ตามฉันมาสิ”
พี่เขาเดินมาหาฉันพร้อมกับสั่งให้ฉันเดินตามลงไป ไปไหน?
“เดี๋ยว แล้วนั่นแกจะพาน้องไปไหน”
คุณลุงเอ่ยถามขึ้นมา ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าพี่เขาจะพาฉันไปไหน
“พาไปกินข้าวนอกบ้าน”
0.0 นี้คือหน้าตาของฉันตอนที่ได้ยินคำตอบ ฉันยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรพี่เจเจก็เดินมาคว้าข้อมือของฉันเดินลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
ภายในรถ
“พี่จะพาโมไปไหนคะ”
โมริเอ่ยถามออกมาเพราะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่ พี่เจเจหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาเหมือนยังงอนอะไรฉันอยู่อย่างงั้นแหละ
“เดี๋ยวก็รู้เอง”
พูดจบพี่เขาก็ขับรถออกมาจากบ้าน โดยที่ฉันไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเส้นทางที่พี่เขาพาไปนั้นคือที่ไหน
Mori End
รถคันหรูแล่นเข้ามาจอดในสุสานด้วยความเร็วคงที่ โมริเบิกตาโพลงเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพาเจอมาที่สุสาน เขาจะพาเธอมาที่นี่ทำไม หญิงสาวได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ คราวนี้เธอจะรอให้เขาบอกเธอเองว่าพามาที่นี่ด้วยจึดประสงค์อะไร
“ลงมา”
ฉันทำตามคำสั่งนั้นทันทีก่อนจะเดินตามพี่เขาไป
“พาโมมาที่นี่ทำไมคะ”
ด้านหน้าของเขาและเธอคือหลุมศพของผู้หญิงคนหนึ่ง เพียงเเค่เห็นภาพเล็กๆเธอก็พอจะจำได้ว่าผู่หญิงคนนี้คือคนรักของสามี
“ฉันอยากพาเธอมาแนะนำให้อายรู้จัก”
เขาหันมาบอกหน้าคนถามก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้หลุมศพของคนที่ตัวเองรักจนหมดหัวใจ โมริแอบน้อยใจอยู่เหมือนกัน รอยยิ้มแบบนั้นเธอไม่เคยได้รับมันเลย
“อายคือคนที่ฉันรัก เราสองคนรักกันมาก ตอนนั้นฉันคิดว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่จะเป็นแม่ของลูกฉันได้ แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก ฉันกับอายถึงได้จากกันเร็วแบบนี้”
โมริหน้าชาให้กับทุกคำพูดที่เจเจเอ่ยออกมา หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเขาจะมาสาธยายเรื่องพวกนี้ให้เธอฟังทำไม
“แล้วพี่มาบอกโมทำไมคะ”
“ก็เมื่อคืนนี้เธอขอโอกาสจากฉัน ฉันแค่อยากให้เธอรู้ว่าการให้โอกาสตัวเองในการรักใครอีกคน สำหรับฉันมันเป็นเรื่องยาก”
ที่เขาพาโมริมาที่นี่เพราะเขาอยากให้เธอเข้าใจและทำใจเรื่องของเขาซะ เรื่องของความรู้สึกมันไม่ได้ง่ายอย่างงั้นหรอก
“โมไปขอโอกาสจากพี่ตอนไหนคะ?”
“นี่เธอ…อย่าบอกนะว่าจำเรื่องเมื่อคืนนี้ไม่ได้?”
คนตัวโตถอนหายใจออกมาพร้อมกับส่ายหัว เขาไม่คิดว่าเธอจะเมาจนจำอะไรไม่ได้ขนาดนี้
“ค่ะ”
โมริตอบกลับหน้าตาย นี่เธอพูดอะไรกับเขาไปบ้าง คงไม่ได้ทำอะไรแปลกๆให้เขาดูใช่ไหม
“เจริญล่ะ แล้วเธอจำได้ไหมว่าเมื่อคืนแก้ผ้าให้ฉันดูอ่ะ”
“ห๊าาา! โมเนี้ยนะแก้ผ้าให้พะพี่ดู?”
ตอนนี้ร่างกายของเธอชาไปทั่วร่างของจริง ต่อจากนี้โมริสาบานกับตัวเองเอาไว้อย่างหนักแน่นว่าเธอจะไม่ดื่มเหล้าอีกเด็ดขาด!! ตอนนี้อายจนไม่รู้จะมุดหน้าไปที่ไหนแล้ว ใบหน้านวลร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“ใช่! งั้นต่อจากนี้เธอก็ช่วยทำตัวให้เป็นปกติเถอะ ฉันจะลืมๆเรื่องเมื่อคืนนึ้ไปก็แล้วกัน”
ชายหนุ่มพูดจบก็นำดอกไม้ที่ถือมาด้วยไปวางไว้ที่หลุมศพของคนรัก ก่อนจะพาโมริกลับบ้าน ถ้ารู้ว่าเธอจำอะไรไม่ได้เขาก็คงไม่เสียเวลาพามาที่นี่หรอก แต่จะว่าไปเขาก็แอบนอยด์อยู่เหมือนกันที่โมริจำอะไรไม่ได้เลย มันเหมือนกับเขาโดนยัยเด็กแสบนี่แกล้งปั่นหัวเล่น เพราะเมื่อคืนกว่าเขาจะหลับลงไปต้องเสียเวลาไปใช้มือกับลูกชายตัวเองอีกเป็นชั่วโมง ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ!