6.เตือนแล้วนะ
RREP6.เตือนแล้วนะ
เมื่อกลับมาถึงบ้านเจเจก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย วันนี้โจเซฟเรียกโมริเข้ามาคุยที่ห้องทำงานเพราะต้องการจะคุยเรื่องที่เตรียมการเอาไว้ให้ อีกอย่างหนึ่งที่มาสะฝากฝังเขาเอาไว้นั่นก็คือการเปิดร้านขนมให้โมริ
“สวัสดีค่ะคุณลุง มีอะไรจะคุยกับโมหรอคะ”
“อ้าวหนูโม มาพอดีเลย ลุงมีเรื่องจะคุยด้วย”
ชายสูงวัยนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารบางอย่างขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
“นี่ของหนูโมนะ ลุงเตรียมไว้ให้”
โมริหยิบซองเอกสารนั้นขึ้นมาดูก่อนที่เธอจะพบว่ามันคือข้อมูลของร้านขนม
“คืออะไรคะคุณลุง”
โมริถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ
“พ่อของหนูโมขอให้ลุงช่วยเปิดร้านขนมเล็กๆให้หนูโมในระหว่างอยู่ที่นี่ พ่อเขาบอกว่าหนูโมชอบทำขนมมากๆ ลุงก็เลยจัดให้”
“จริงหรอคะ”
น้ำเสียงของหญิงสาวดูตื่นเต้นมากๆ เธอนั้นชอบทำขนมมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งบิดาก็คอยสนันสนุนเต็มที่มาตลอด ส่งเธอไปเรียนการอบขนมแทบทุกชนิด แต่โมริเองก็ไม่ได้ชอบทำทุกเมนูที่ตัวเองไปเรียนมาหรอกนะ บางเมนูเธอก็จำสูตรไม่ได้ด้วยซ้ำ
“จริงสิ พรุ่งนี้ร้านพร้อมเปิดเลยนะ หนูโมล่ะพร้อมมั้ย”
ผู้เป็นลุงเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม บนใบหน้าเหี่ยวย่นยังคงความหล่อเอาไว้เหมือนเดิม หากลูกชายของท่านใจดีได้สักครึ่งหนึ่งของผู้เป็นพ่อคงจะดีไม่น้อย
“พะพร้อมค่ะคุณลุง งั้นโมขอไปทวนสูตรขนมก่อนนะคะ”
โมริดีใจจนปิดเอาไว้ไม่มิด วันนี้หญิงสาวใช้เวลาทั้งวันกับการหาสูตรขนมเพื่อนำไปทดลองเปิดร้านในวันพรุ่งนี้ ร้านของเธอตั้งอยู่ในห้างใหญ่ของเมืองกรุง เพราะฉนั้นไม่ต้องห่วงว่าขนมของเธอจะขายไม่ออก ดีเหมือนกันที่พ่อมองการณ์ไกลเอาไว้ให้ เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งอมทุกข์เรื่องอื่น ตอนนี้เธอเองก็พอจะทำใจได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าคงต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่ไปสักพัก รอวันที่พ่อมารับเธอกลับบ้าน ค่อยคิดหาทางออกให้เรื่องหัวใจของตัวเอง สุดท้ายแล้ว เธออาจจะเลิกรักเจเจได้ในที่สุด ใครจะไปรู้….
หนึ่งวันผ่านไปไวเหมือนโกหก
Mori Part
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวันนี้ฉันตื่นเช้ามาแบบแฮปปี้สุดๆ อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนฉันไม่ได้นอนห้องเดียวกับกับคุณสามีจำเป็นละมั้ง ก็เลยไม่ต้องไปทนอึดอัดกับใบหน้าบอกบุญไม่รับของพี่เขา แถมหัวใจของฉันมันก็เต็มไปด้วยสูตรขนมที่ตั้งใจจะลงมือทำในวันนี้
ฉันตื่นนอนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อมาเตรียมตัวอาบน้ำก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร้านขนมของฉันเอง ชื่อร้านที่คุณลุงเลือกให้ก็คือ Mori love cake ชื่อร้านน่ารักชะมัด ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณลุงก็แอบมีโมเม้นต์อะไรแบบนี้ด้วยอะ
“นั่นเธอจะไปไหน?”
ใบหน้าของฉันหันไปมองตามเสียงที่เอ่ยขึ้นมา อีกก้าวเดียวเท้าของฉันก็จะโผล่พ้นประตูบ้านแล้ว พี่เขาจะมาถามทำไม เขาอยากรู้เรื่องราวชีวิตของฉันตั้งแต่เมื่อไร?
“พี่สนใจโมด้วยหรอคะ”
ฉันตีหน้าซื่อถามกลับไป เมื่อวานหลังจากที่เจเจพาเธอไปดูหลุมศพผู้หญิงที่เขาพร่ำบอกรักนักหนาเธอก็ไม่เจอเขาอีกเลย กลับมาอีกทีก็ดึกดื่น แถมเขาเองก็ไม่ได้เข้ามานอนในห้องเดียวกันกับเธออีกด้วย และโมริเองก็เลือกที่จะไม่สนใจ ในเมื่อเขายืนกรานชัดเจนว่าไม่มีวันรักเธอ ต่อให้เธอจะชอบเขามากแค่ไหน ก็ไม่อยากไปยุ่งด้วยหรอก
“พ่อฉันสั่งให้ดูแลเธอให้ดี”
ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งที่เอื้อนเอ่ยออกมา พี่เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่นะ
“โมว่าพี่ไม่ต้องเสียเวลามาดูแลโมหรอกค่ะ ไปดูแลผู้หญิงในสต๊อกของพี่เถอะ”
เธอพูดเรื่องจริงทั้งนั้น ปากเขาก็พร่ำบอกตลอดว่ารักใครไม่ได้อีก แต่วันนั้นก็พาผู้หญิงเข้าโรงแรม แถมยังชอบมาล่วงเกินเธออีก ผู้ชายหนอผู้ชาย พูดอะไรออกมาเชื่อถือไม่ได้ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าหึงหรืออะไรโมริถึงได้พูดออกมาแบบนั้น
“เอางั้นหรอ ได้ดิ งั้นเธอดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าไปฟ้องพ่อล่ะว่าวันนี้ฉันไม่ได้ไปส่ง”
“พี่เจ!”
พูดจบพี่เขาก็ส่งยิ้มกวนประสาทมาให้ฉันทีนึง เขาไม่รู้จริงๆหรอว่าฉันกำลังพูดประชด ร่างหนาเดินลับตาออกไปขึ้นรถคันโปรด โดยที่ไม่ได้สนใจถามฉันจริงจังสักนิดว่าฉันกำลังจะออกไปไหน
โมริรีบสลัดความปั่นป่วนในหัวสมองออกไป ก่อนจะปั้นยิ้มเรียกอารมณ์ดีๆของตัวเองกลับมาเพื่อเดินทางไปยังร้านขนมของตัวเอง
MORI END
ณ ห้างสรรพสินค้า
หญิงสาวใช้เวลาวันการเตรียมร้านให้พร้อมสำหรับการขายภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง คุณลุงจ้างพนักงานให้มาช่วยเป็นลูกมือเธอหนึ่งคน ตอนนี้โมริกำลังอบขนมอยู่ประมาณ 3-4 ก้อน ภายในเตาอบส่งกลิ่นหอมยั่วยวนน้ำลายได้เป็นอย่างดี มีขนมหลากหลายวางเรียงรายอยู่หน้าตู้ขนมสีสันน่ารับประทานและตอนนี้มันก็พร้อมจะขายให้แก่คนที่ต้องการพวกมันแล้ว
12.00 น.
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ”
ฉันหันไปยิ้มหวานให้กับผู้ชายร่างสูงตรงหน้า ใบหน้าอันหล่อคมของเขาทำให้คนมองเผลอยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“มีอะไรอร่อยบ้างครับ”
อคินถามออกมาพร้อมกับจ้องมองคนตรงหน้าไม่วางตา
“อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ แต่วันนี้เพิ่งเปิดร้านวันแรก ดูเหมือนชีสเค้กบลูเบอร์รี่จะขายดีที่สุดนะคะ”
“แล้วคนขายอร่อยมั้ยครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างติดตลก แต่ดูเหมือนโมริจะตั้งรับไม่ทันกับมุขที่ชายหนุ่มส่งมาให้
“เอ่อ อะไรนะคะ”
“ฮึ ผมล้อเล่นครับ งั้นผมเหมาชีสเค้กถอดนั้นหมดเลยแล้วกัน”
เขายิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับขนมถาดนั้นที่เหลืออยู่ไม่กี่ชิ้น
“ใส่กล่องกลับบ้านทั้งหมดเลยนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างดีใจ วันนี้ถึงแม้จะเปิดร้านวันแรกแต่เธอก็ขายดีเกินคาด
“ใส่กล่องกลับบ้าน 1 ชิ้นครับ แล้วอีก 2 ชิ้นใส่จานมาแล้วกัน ผมจะทานที่นี่”
อคินกล่าวพร้อมกับหยิบแบงค์พันในกระเป๋าออกมา
“ได้ค่ะ แต่ว่าคุณจะทานคนเดียวสองชิ้นเลยหรอคะ”
“ใครบอกว่าผมจะทานคนเดียว อีกชิ้นนึงของคุณครับ ผมเลี้ยง คุณออกมาทานเป็นเพื่อนผมได้หรือเปล่า”
โมริงงงันกับลูกค้าคนนี้มากๆ หญิงสาวห้นซ้ายหันขวา เธอเห็นว่าลูกค้าเริ่มเงียบแล้วก็เลยยอมออกมานั่งกินขนมกับเขา ภายในร้านถูกจัดแต่งด้วยเก้าอี้สีชมพูหวานแหว๋ว มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งเพียงแค่สามโต๊ะเท่านั้น และตอนนี้ทั้งร้านมีแค่โมรินั่งคุยอยู่กับอคิน เนื่องจากวันนี้หญิงสาวก็ยืนขายของกับทำขนมทั้งวัน พอได้นั่งพักบ้าง ก็รู้สึกดีเหมือนกัน
JJ PART
วันนี้ผมเข้ามาทำงานแถวๆห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ผมรับงานกำกับภาพยนต์เรื่องใหม่เอาไว้ วันนี้ก็เลยเลือกออกมาทำงาน ไม่ได้ไปคอยตามดูแลภรรยาในสมรสตามที่พ่อสั่งเอาไว้
“พี่เจคะ มีร้านขนมเปิดใหม่ด้วยอะ ปิ่นว่าจะซื้อไปฝากแม่พอดี มาทางนี้ก่อนค่ะ”
ปิ่นคือนักแสดงหญิงรุ่นน้องที่ผมค่อนข้างจะสนิท วันนี้เธอขอติดรถผมกลับบ้านด้วย แต่เธอดันหันไปเห็นร้านขนมที่เพิ่งเปิดใหม่ภายในห้างพอดีก็เลยเดินลากแขนผมเข้าไป
แต่ทำไมชื่อร้านมันดูคุ้นๆ….
“พี่เจ”
ผมหรี่ตามองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เสียงนั้นของเธอที่เรียกผมทำให้ผมหยุดชะงัก และภาพของโมริก็ปรากฎ ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตาไปมองผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับเธอ ผมว่าผมคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้นะ?
“เธอมาอยู่นี่ได้ไง”
ผมเอ่ยถามโมริออกไป
“ก็นี่ร้านโม ทำไมโมจะอยู่ไม่ได้ล่ะคะ”
คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนก่อนจะตอบกลับ โมริหันไปมองปิ่นที่ยื่นอยู่ข้างๆผมด้วยแววตาบางอย่าง ผมเองก็ไม่มั่นใจ แต่เดาว่าเธอคงคิดอะไรลบๆอยู่แน่ๆ
“ร้านเธอ? หมายถึงเธอเป็นเจ้าของร้านนี้งั้นหรอ?”
“พี่เจรู้จักหรอคะ”
ผมเลิกคิ้วถาม ถึงว่าทำไมชื่อร้านคุ้นๆ แต่เขาไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าเธอมาเปิดร้านที่นี่ตอนไหน และเขาเองก็ไม่ได้สนใจจะถามเธอด้วยสิ ไม่แปลกหรอกมั้งที่จะไม่รู้
“อืม ลูกสาวเพื่อนพ่อน่ะ”
ผมตอบปิ่นออกไปก่อนจะหันไปจ้องหน้าผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆภรรยา(ที่ไม่เปืดตัวให้คนอื่นรู้)
“ถ้างั้นผมขอตัวนะครับคุณโม ไว้วันหลังผมจะมาอุดหนุนใหม่ ขนมอร่อยมากเลยครับ”
“ขอบคุณมากนะคะพี่อคิน ไว้เจอกันค่ะ”
ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าทั้งสองคนกำลังส่งสายตาแพรวพราวไปให้กัน แต่เดี๋ยวนะ! ไอ้หมอนั่นชื่ออคิน! อคินงั้นหรอ!
“จะมาซื้อขนมหรอคะ เชิญด้านนี้เลยค่ะ”
ทำไมผมจะไม่รู้ว่าโมริจงใจจะเมินผม ยัยเด็กนี่คงเข้าใจว่าปิ่นคือสาวในสต๊อกของผมแน่ๆ แต่ช่างเถอะ ผมไม่จำเป็นต้องมาอธิบายเรื่องชีวิตส่วนตัวให้ใครฟัง เพราะเราสองคนก็เป็นเพียงแค่สามี-ภรรยา ในนามก็แค่นั้น
สิบนาทีผ่านไป
“ไปรอพี่ด้านนอกแปปนะ”
“โอเคค่ะ”
ผมบอกปิ่นให้ออกไปยืนรอนอกร้านก่อน เพราะผมมีเรื่องที่จะต้องคุยกับยัยตัวแสบเจ้าของร้าน
“อยู่ห่างๆไอ้หมอนั่นไว้”
ผมโพล่งออกมาในขณะที่โมริกำลังจัดขนมในตู้อยู่ เพราะเมื่อกี้ผมให้ไอ้เจษช่วยตามหาคนๆนึงที่ชื่อเดียวกันกับผู้ชายที่นั่งอยู่กับโมริ และผมก็ได้คำตอบแล้วว่ามันคือคนๆเดียวกัน
“ใครคะ?”
ไม่รู้ว่าโมไม่เข้าใจจริงๆ หรือจงใจจะกวนผม
“อคิน อยู่ห่างๆมันไว้”
“ทำไมโมต้องเชื่อพี่ด้วย”
โมริจ้องหน้าผมสายตาเรียบนิ่ง เธอคงไม่ได้กำลังโกรธผมเรื่องปิ่นอยู่หรอกใช่มั้ย
“พ่อสั่งให้ฉันดูแลเธอ ถ้าไม่เชื่อฉันแล้วเธอจะเชื่อใคร”
“ค่ะ พี่ดูแลโมดีมากเลยอะ พาผู้หญิงคนอื่นมาช็อปปิ้งด้วย”
คนตัวเล็กพูดออกมาพร้อมกับแสยะยิ้มมุมปาก เอาจริงๆผู้หญิงก็จะนิสัยประมาณนี้แหละ เวลาหึงล่ะประชดซะแหลกเชียว
“นี่น่ะหรอคะที่พี่บอกว่ารักแฟนพี่นักหนา แต่เห็นควงผู้หญิงไม่ซ้ำกันไม่เว้นแต่ล่ะวัน”
“ปิ่นคือรุ่นน้องที่ฉันสนิท วันนี้ฉันมาทำงานแถวนี้เขาเลยขอติดรถกลับ”
แล้วทำไมผมจะต้องมายืนอธิบายอะไรแบบนี้ให้เธอฟังด้วยนะ
“หรอคะ? งั้นเมื่อกี้ทำไมพี่ไม่บอกความจริงไปว่าเราเป็นอะไรกัน!”
“ฉันเข้าใจนะว่าเธอชอบฉัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
ทันทีที่ผมพูดจบโมริก็หันควับมาจ้องหน้าผม ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงมองว่าการกระทำของคนตรงหน้านั้นมันดู ‘น่ารัก’ นี่ผมชอบใจที่เธอมีท่าทีหึงหวงงั้นหรอ
ดูท่าผมคงใกล้บ้าเร็วๆนี้!
“โมไม่ได้หึง พี่พูดจบแล้วใช่มั้ยคะ กลับไปเถอะค่ะ โมจะขายของ”
จู่ๆเธอก็ไล่ผมซะงั้น
“ฉันก็ไม่อยากอยู่กวนเธอนักหรอก แต่เรื่องผู้ชายคนนั้น อย่าให้เห็นว่ามันมายุ่มย่ามกับเธออีกนะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
ผมพูดทิ้งท้ายเอาไว้เท่านั้นก่อนจะหันหลังออกมาจากร้าน ในใจก็แอบหวั่นๆว่าโมจะเชื่อคำพูดของผมไหม ถึงเธอจะไม่ยุ่งกับมันแต่ถ้ามันมายุ่งกับเธออันนั้นผมก็คงห้ามไม่ได้ แต่ทำไมตาขวาถึงกระตุกไม่หยุดเลยล่ะเนี้ย เห็นทีผมต้องขอให้เพื่อนรักช่วยตามสืบเรื่องนี้ให้ลึกลงไปเสียเเล้ว เพราะผมไม่ไว้ใจสายตาของไอ้อคินนั่นจริงๆ!
JJ END