3.เหตุผลที่แท้จริง
RREP3:เหตุผลที่แท้จริง
Mori Part
ฉันตื่นเช้ามาด้วยขอบตาบวมเป่ง เมื่อคืนฉันนอนร้องไห้ตลอดทั้งคืน เพราะฉันรับไม่ได้กับสิ่งที่พี่เจเจพูดดูถูกฉัน แถมการกระทำของพี่เขายังดูไม่พอใจฉันเอามากๆอีก ยิ่งใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ยิ่งตอกย้ำฉันได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่มีวันรักฉันเพราะเขามีแฟนอยู่แล้ว
วันนี้คุณลุงโทรมาหาฉันแต่เช้าบอกว่าจะให้ลูกน้องมารับฉันกลับบ้าน ตั้งแต่เช้ามาฉันยังไม่เห็นหน้าของพี่เขาเลย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยู่ห้อง
“ออกไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้หรอ….”
ฉันยืนมองประตูห้องนอนของพี่เขาก่อนจะตัดใจเดินลงมาด้านล่าง พี่เขาคงเกลียดฉันถึงขั้นไม่อยากใช้ห้องร่วมกันเลยละมั้ง
ทันทีที่ลูกน้องของคุณลุงมาถึงฉันก็ออกเดินทางไปยังบ้านของคุณลุง ฉันเหม่อมองออกไปนอกกระจกรถเพื่อผ่อนคลายความกังวลที่มีอยู่
ฉันไม่อยากแต่งงานแล้ว….
ฉันอยากกลับญี่ปุ่นไปหาพ่อ!
ตอนนี้รถของฉันจอดติดไฟแดงอยู่ แต่มันไม่ได้สำคัญเท่ากับผู้ชายคนนั้นที่ฉันเจอ! ฉันเพ่งพินิจพิจารณาผู้ชายกับผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าโรงแรมนั้นด้วยหัวใจสลายอีกรอบ นั่นพี่เจเจกำลังขึ้นรถกับผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากโรงแรม
ฉันพอจะเข้าใจเหตุผลที่พี่เขาหายไปเมื่อคืนแล้วล่ะแต่แล้วทำไมหัวใจมันถึงเจ็บแบบนี้ล่ะ เพียงเเค่คิดว่าเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ฉันก็อยากจะร้องไห้ หรือว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นแฟนของพี่เขา? แล้วทำไมต้องพามาโรงแรม?
โอ้ย! ฉันคิดจนสมองจะระเบิดอยู่แล้ว
Mori End
JJ Part
หลังจากที่ไปส่งผู้หญิงที่เจอกันที่ผับเมื่อคืนเสร็จผมก็ตรงดิ่งเข้ามาที่บ้านทันทีเพราะพ่อส่งข้อความไปบอกผมแล้วว่าโมริอยู่ที่นี่ ที่ผมตัดสินใจออกไปข้างนอกเมื่อคืนแล้วไม่ยอมกลับคอนโดเพราะอยากขจัดความคิดแปลกๆที่มีต่อโมริออกไป นั้นแหละผมกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้
ผมไปนั่งดื่มอยู่ที่สกายผับของไอ้จิมมี่ โชคดีที่มันยังไม่บินกลับออสเตรเลียผมก็เลยได้ระบายความทุกข์ที่มีอยู่ให้มันฟังทั้งหมด ก่อนที่ผมจะกระดกเหล้าเข้าปากจนเมา แล้วไปเอาใครก็ไม่รู้กลับโรงแรมด้วย ตอนเช้าผมแวะไปส่งผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับจ่ายเงินให้เธอ…..ผมก็ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
“ขึ้นมาคุยกับฉันบนห้อง”
เดินเข้าไปในบ้านได้เพียงไม่กี่ก้าวน้ำเสียงของบิดาก็ลอยขึ้นมากระทบหู ดูเหมือนพ่อจงใจมายืนรอเข้าอยู่ตรงนี้
ผมเดินตามพ่อเข้ามาในห้องทำงาน โดยไม่เห็นแม้แต่เงาของโมริเลย
“ถ้าพ่อจะมาพูดเรื่องแต่งงาน ผมขอบอกอีกครั้งว่าผมไม่แต่ง! พ่อก็รู้ว่าผมรักใครไม่ได้อีกแล้ว”
ผมเอ่ยก่อนที่พ่อจะเริ่มบทสนาด้วยซ้ำ
“ไอ้เจ ทำไมแกถึงได้ดื้อด้านแบบนี้ ถ้างั้นฉันจะบอกความจริงให้ว่าทำไมแกถึงต้องแต่งงานกับหนูโม”
พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะหยิบแฟ้มอะไรสักอย่างขึ้นมาให้ผมดู ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะรอฟังเหตุผลของพ่อ อยากรู้ว่ามันจะสำคัญขนาดไหน
“แกรู้ใช่ไหมว่าพ่อของโมริก็เป็นมาเฟีย”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก เพราะก็พอรู้เรื่องมาเฟียฝั่งญี่ปุ่นมาบ้าง
“ตอนนี้มาสะกำลังตกที่นั่งลำบากเพราะคนในแก๊งค์หักหลังกันเอง และแกเองก็รู้ว่าจุดอ่อนที่ศัตรูจ้องจะเล่นงาน คงหนีไม่พ้นลูกสาวคนเดียว นั่นก็คือหนูโม มาสะเคยเสียเเม่ของหนูโมไปแล้วครั้งหนึ่ง แกเข้าใจใช่ไหมว่าทำไมหนูโมต้องมาอยู่กับเรา”
ผมคิดตามสิ่งที่บิดากล่าว จะว่างั้นมันก็ถูก แต่เราสามารถปกป้องเธอได้โดยไม่ต้องใช้การแต่งงานเป็นข้ออ้าง
“งั้นเราก็ปกป้องโมริได้ด้วยวิธีอื่น แล้วทำไมพ่อต้องบังคับให้ผมแต่งงาน”
ถึงยังไงผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“แกนี่มัน! ถ้าแกไม่แต่งแกจะให้ฉันแต่งแทนรึไง แกอยากได้หนูโมเป็นแม่มั้ยล่ะ”
“พ่อ!!”
ผมรู้สึกหงุดหงิดกับคำประชดประชันนั้นขึ้นมาแปลกแฮะ
“มาสะเคยช่วยชีวิตพ่อเอาไว้ครั้งนึง คราวนี้เขาขอร้องให้พ่อดูแลหนูโมริให้ และวิธีที่จะทำให้หนูโมริปลอดภัยที่สุด คือต้องเอาน้องเอาไว้ข้างกายแก”
พ่อผมยังยืนยันคำเดิมว่าจะให้แต่งงาน ผมรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วยังไงก็คงขัดพ่อไม่ได้หรอก ตอนนี้คงต้องยอมจำนนให้งานเเต่งเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“งั้นก็ได้ แต่พ่อต้องสัญญากับผมว่าเมื่อไหร่ที่โมริปลอดภัยแล้ว พ่อจะยอมให้ผมหย่า”
ผมประกาศก้าวออกไปแบบนั้นโดยที่ไม่ได้นึกถึงเลยว่าต่อจากนี้ชีวิตของผมจะเป็นยังไง มันจะเปลี่ยนไปไหม ผมยึดแค่ความรู้สึกของตัวเองตอนนี้จริงๆ ผมไม่อยากมีพันธะกับใครอีกแล้ว มันเจ็บปวด….เหมือนตายทั้งเป็น
เวลาที่เราสูญเสีย…..
“ได้! ทันทีที่มาสะมารับโมริกลับญี่ปุ่น แกหย่ากับน้องได้เลย และหวังว่าตอนนั้นแกจะไม่กลับคำพูดตัวเองนะ”
พ่อพูดกับผมพร้อมกับยิ้มมุมปาก พ่อคิดว่าเขาจะหลงรักยัยเด็กนั้นงั้นหรอ มีเเต่เขาจะรำคาญเธอล่ะไม่ว่า ต้องเก็บมาไว้ข้างกาย แค่คิดก็รำคาญแล้ว แต่ช่างมันเถอะ เขาจะคิดว่าเธอเป็นน้องสาวคนนึงแล้วกัน มันจะได้ดูไม่ฝืนใจจนเกินไป
“ฮึ! ฝันไปได้เลยครับพ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมไปนะ”
แอดดด! อยู่ดีๆประตูห้องก็เปิดเข้ามาพร้อมกับร่างบางที่ยืนดวงตาแดงก่ำอยู่หน้าห้อง หมายความว่าเธอคงได้ยินสิ่งที่เขากับพ่อคุยกันทั้งหมดสินะ
“เธอ!”
“หนูโม”
JJ End
Mori Part
ตั้งแต่เมื่อเช้าฉันติดต่อพ่อไม่ได้เลย ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ได้เข้ามาได้ยินสิ่งที่คุณลุงพูดกับพี่เขาฉันก็คงจะไม่ได้รู้ว่าจริงว่าพ่อส่งฉันมาที่นี่ทำไม พ่อไม่ได้บอกอะไรฉันเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพ่อมากๆ อยู่ดีๆน้ำตามันก็รื้นขึ้นมา อีกเหตุผลนึงก็คงจะเป็นเพราะคำว่า ‘หย่า’ ที่พี่เขายืนยันหนักแน่นว่าต่อให้เชายอมแตางงาน ฉันกับเขาก็ต้องจากกันอยู่ดี
“หมายความว่ายังไงคะคุณลุง ตอนนี้พ่อโมอยู่ไหน โมติดต่อพ่อไม่ได้เลย”
ฉันเดินเข้าไปหาคุณลุงพร้อมกับพูกเสียงสั่น เพราะฉันรู้ดีว่าการมีพ่อเป็นมาเฟียมันไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรหรอก ฉันเคยเสียแม่ไปแล้วครั้งนึงเพราะเรื่องพวกนี้ แล้วตอนนี้พ่อฉันจะเป็นยังไงบ้าง!
“หนูโมใจเย็นๆนะลูก ตอนนี้มาสะหลบหนีไปอยู่ที่ไหนสักที่ ลุงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน หน้าที่ลุงคือดูแลหนูโมให้ปลอดภัย แค่ประเทศไทยไอ้พวกนั้นตามหนูมาได้ไม่ยากเลย ตอนนี้หนูโมต้องแต่งงานกับพี่เขาวันพรุ่งนี้เลย หลังจากนั้นลุงมั่นใจว่าถ้าทุกอย่างโอเคพ่อของหนูจะมารับหนูกลับ”
ฉันน้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าฉันเลือกได้ฉันอยากให้พ่อเลิกเป็นมาเฟียและเลิกใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายพวกนี่ซะ
“แต่พี่เขาไม่อยากแต่งงานกับโม….”
ฉันมองหน้าพีเจเจก่อนจะเอ่ยออกมาไม่เต็มเสียงนัก
“ฉันตกลงแต่งงานกับเธอ หยุดร้องไห้ได้ยัง”
พี่เขาพูดออกมาสีหน้าเรียบเฉย ฉันเดาไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“หยุดร้องไห้เถอะหนูโม ทุกอย่างจะโอเคเชื่อลุงนะ วันนี้ให้พี่เขาพาไปลองชุดแต่งงานนะลูก ส่วนเรื่องจัดงานเดี๋ยวลุงจัดการเอง”
ฉันต้องยอใทำตามคำสั่งของคุณลุงอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ฉันจะเป็นห่วงและกังวลเรื่องของพ่อมากแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว ฉันจะรักษาตัวเองให้ปลอดภัย รอวันที่พ่อมารับกลับบ้าน ส่วนเรื่องของพี่เจเจ ฉันขอพับใส่หีบเอาไว้ เพราะนักแรกของฉัน ดูเหมือนจะไม่มีหวังในการเจริญเติบโตขึ้นมาแล้วล่ะ
บนรถคันหรู ระหว่างทางไปร้านชุดวิวาห์
ถึงแม้พี่เขาจะยอมแต่งงานกับฉันแล้ว แต่ฉันก็พอดูออกว่าเขาไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่ แต่ก็ช่างมันเถอะ ฉันจะคิดเพียงว่าฉันกำลังทำตามคำขอของคุณลุงก็พอ
“เรื่องเมื่อคืน พี่ขอโทษนะ”
หื้ม? พี่? ฉันหันไปมองพี่เจเจที่กำลังขับรถอยู่ด้วยความงง จู่ๆพี่เขาก็มาพูดดีใส่ฉันเฉยเลยอะ แล้วฉันต้องทำตัวยังไง ฉันเริ่มจะทำตัวไม่ถูกแล้วนะ
“ค่ะ ไม่เป็นไร โมเข้าใจ”
ฉันตอบออกไปแบบนั้นแหละ เพราะฉันพยายามจะเข้าใจพี่เข้าสุดๆละ
“โมขอถามอะไรพี่เจหน่อยได้มั้ยคะ”
เห็นว่าเขากำลังอารมณ์เป็นปกติไม่ได้เป็นผีบ้าเหมือนเมื่อคืน ฉันเลยอยากถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
“ว่ามาสิ”
“ผู้หญิงคนเมื่อเช้าที่อยู่โรงแรมกับพี่คือแฟนพี่หรอ?”
ไม่เเอบเป็นห่วงแค่เรื่องนี้ล่ะ ในเมื่อพี่เขามีแฟนอยู่แล้ว แล้วแฟนเขาจะโอเคหรอที่พี่เขาจะมาแต่งงานกับฉัน ถึงฉันจะชอบพี่เขามากแต่ก็ไม่ได้อยากจะแย่งแฟนคนอื่นหรอกนะ
“เปล่า”
พี่เขาฉันมามองฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอีกแล้ว ก่อนจะชักหน้ากลับไปมองตรงตามเดิม
“อ้าว แล้วแฟนพี่อยู่ไหนล่ะคะ”
“แฟนฉัน’ตาย’แล้ว”
ฉันหันไปมองหน้าพี่เจเจแบบอึ้งๆ เพราะคำตอบที่ได้รับกลับมามันเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ และเหมือนฉันจะไปถามคำถามจี้ใจพี่เขาอีกแล้ว ฮือออ…ดีกันไม่ได้พอสิบนาทีเธอ
“เอ่อ โมเสียใจด้วยนะคะ”
มันแปลกไหมที่ฉันแอบมีหวังขึ้นมา ว่าหากฉันกับพี่เขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน ฉันอาจจะได้หัวใจของพี่เขามาครอบครองก็ได้
“ขอบใจ แต่ถึงแฟนฉันจะไม่อยู่แล้ว ฉันก็ขอยืนยันคำเดิม ว่าฉันไม่สามารถรักใครได้อีก”
เหมือนพี่เขารู้ทันความคิดของฉันอย่างงั้นแหละ เขาดับความฝันฉันซะสนิทเลยอะ ฉันกลืนน้ำลายลงคอให้กับความชัดเจนและการขีดเส้นความรู้สึกของพี่เขาด้วยหัวใจปวดร้าวอีกครั้ง
“ค่ะ โมรู้แล้ว”
ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไมือยากให้เขารับรู้ว่าฉัรกำลังเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า มันก็คงจะเก่งเกินถ้าฉันสามารถเลิกรักพี่เขาได้ภายในเวลาหนึ่งวัน แล้วฉันจะเอาเวลาไหนไปตัดใจจากเขาล่ะ ในเมื่อถ้าแต่งงานฉันก็ต้องเห็นหน้าพี่เขาทุกวัน พ่อจ๋า….รีบกลับมารับหนูกลับบ้านทีเถอะ