2.ความเป็นจริง
RREP2.ความเป็นจริง
Mori Part
ถึงแม้ฉันจะมีคำถามอยู่มากมายในสมองแต่ก็ไม่กล้าถามพี่เจเจออกไป พี่เขาพาฉันมาที่คอนโดทำไมกันแน่ ไหนตอนแรกคุณลุงบอกให้ฉันไปพักที่บ้านเขาไม่ใช่หรอ ฉันไม่ทันมีเวลาได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น จู่ๆพี่เจเจก็ก้มลงหาฉันใกล้ๆ
ฉันหลับตาแน่นอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าพี่เขาก้มลงมาทำท่าเหมือนจะจูบฉัน แต่ทว่า…..
แกร๊ก!
“ฉันแค่ปลดล็อคเบลล์ให้”
พี่เขาแค่ก้มมาปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยให้ฉัน ฉันจะทำยังไงดี พี่เขาหัวเราะฮึในลำคอ ดูเหมือนเขาจะพอใจที่แกล้งฉันได้สำเร็จ
“ขอบคุณค่ะ”
เอ่ยจบฉันก็ก็ลงจากรถไป และแน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ช่วยฉันถือกระเป๋าใดๆเลย มันจะดูงี่เง่าไปไหม ที่ฉันแอบคาดหวังให้เขาช่วยฉันสักนิด ถึงฉันจะทำเองได้แต่การเข็นกระเป๋าหนักๆขึ้นลิฟมันก็ใช้แรงเยอะพอสมควร
ฉันคิดว่าพี่เขาจะมีความเป็นสุภาพบุรุษเหมือนเมื่อก่อนซะอีก….
มีเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่เขาดูเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะ
ภายในห้องพัก
ทันทีที่คนตัวโตเปิดประตูเข้าไป ฉันก็เดินตามเข้ามา ห้องโทนสีขาวดำนั้นช่างดูเป็นระเบียบและมืดมนไปพร้อมๆกัน ฉันกวาดสายตาไปเพื่อสำรวจรอบๆห้อง แต่ฉันก็ต้องไปสะดุดกับรูปภาพใบใหญ่ที่แขวนติดผนังอยู่
มันคือรูปของพี่เจเจกับผู้หญิงคนนึง พวกเขาดูเหมือนรักกันมากๆเลย หัวใจของฉันเจ็บแปล๊บขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แถมมันยังสับสนอีกด้วยเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังไม่ชอบมาพากล
“เรามีเรื่องต้องตกลงกัน”
คนที่อยู่ในชุดสูธสีดำหันมาพูดกับเธอทันทีที่ประตูห้องปิดลง
“ห้ามแตะต้องของที่อยู่ในห้องฉันเป็นอันขาด ทุกอย่างในห้องนี้เป็นสิ่งที่ฉันหวงมาก โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัวของแฟนฉัน…..เธอห้ามแตะต้อง”
อึ้งมั้ยละ….ถึงฉันจะคอยติดตามข่าวสารของพี่เขามาตลอดแต่ฉันไม่เคยรู้เลยจริงๆว่าพี่เขามีแฟนอยู่ก่อนแล้ว แล้วเรื่องแต่งงานของฉันกับพี่เขามันหมายความว่าอะไรกัน
“พะพี่มีแฟนอยู่แล้วหรอคะ”
ฉันกลั้นใจถามออกไปถึงแม้หัวใจมันจะปวดร้าวแค่ไหนก็เถอะ
“ใช่”
“แล้ว แล้วเรื่องแต่งงานของเรา…..”
เรา….ฉันเอ่ยคำนี้ออกไปได้ไม่เต็มเสียงนัก ตอนนี้ความคิดหลายอย่างตีกันไปหมดในหัว ทั้งอึ้ง ทึ่ง เศร้า เสียใจ ตกใจ ในเวลาเดียวกัน
“เธอช่วยพูดกับพ่อให้หน่อยว่าฉันไม่อยากแต่ง เธอรู้ใช่มั้ยว่าฉันคิดกับเธอแค่น้องสาว”
เหมือนถูกมีดกรีดลงกลางใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเธอจะต้องมายืนทนรับความอึดอัดอยู่แบบนี้ด้วย รักแรกของเธอกำลังพังยับ
ยัยโมริเอ้ย!
“ตะแต่พ่อบอกโมว่าพี่อยากแต่งงานกับโม”
นั่นมันอะไร? พี่เขากำลังส่งยิ้มเย้ยหยันมาให้ฉันอย่างงั้นหรอ ก็พ่อเธอบอกมาแบบนี้ แล้วพ่อจะโกหกเธอไปเพื่ออะไร!
“ฮึ! โมริ ฉันพอจะเข้าใจได้นะว่าเธอน่ะแอบชอบฉันมานานแล้ว แต่ฉันต้องขอโทษแทนพ่อฉันจริงๆ เรื่องแต่งงานที่เธอรับรู้พ่อฉันเป็นคนบงการขึ้นมาทั้งนั้น ฉันมีคนรักอยู่แล้ว และฉันก็รักเขาคนเดียว ฉันไม่มีวันรักใครได้อีก”
จู่ๆใบหน้าของฉันมันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียอย่างนั้น น้ำตาของฉันมันกำลังจะไหล มันเหมือนฉันตั้งรับกับทุกอย่างที่หล่นลงมาทับหัวใจไม่ได้เลย นี่พี่เขารู้มาตลอดหรอว่าฉันรู้สึกยังไง
สรุปฉันคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดสินะว่าพี่เขาอาจจะมีสักเสี้ยวนึงที่ชอบฉันบ้าง
แต่ไม่เลย…..แล้วฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักฉันไปทำไม
“ค่ะ ถ้าอย่างงั้นโมจะคุยกับคุณพ่อแล้วก็คุณลุงให้นะคะ”
ฉันกลืนน้ำตาที่เกือบจะไหลลงคอไปหมดสิ้น ถึงแม้พี่เขาจะมองดูสีหน้าของฉันออกว่าฉันกำลังเสียใจ แต่สุดท้ายมันก็คงไม่สำคัญหรอก เพราะเขาพูดมาขนาดนี้มันก็หมายความว่าเขา ไม่! ได้! อยาก! แต่ง! งาน! กับ! ฉัน! ยังไงล่ะ
“ขอบใจ งั้นเธอก็ไปพักเถอะ นอนห้องรับแขกนะ อย่ามาป้วนเปี้ยนบริเวณห้องของฉันเด็ดขาด!”
น้ำเสียงดุตอนสุดท้ายทำให้โมริน้อยใจไม่น้อย หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องที่เขาชี้ให้ดูก่อนจะเรียบเรียงทุกอย่างให้สมองเข้าใจอีกครั้ง ตั้งแต่เธอเหยียบเท้าเข้ามาในแผ่นดินนี้ ทุกอย่างก็ดูน่าผิดหวังไปหมดเลย
Mori End
JJ Part
ผมยืนมองคนที่เดินลากกระเป๋าเข้าไปในห้องรับแขกด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ เพียงแค่มองหน้าเธอผมก็รับรู้ได้แล้วว่าโมริผิดหวังกับตัวผมมากขนาดไหน ทำไมผมจะไม่รู้ความรู้สึกของเธอว่าที่ผ่านมาเธอชอบผมมากแค่ไหน เราเคยเจอกันเมื่อสิบปีก่อนหน้านี้ วันนั้นตอนที่ผมหลับ โมริเดินเข้ามามองผมใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยความรู้สึกของเธอออกมา
‘โมชอบพี่’
เสียงนั้นเขายังจำได้ดี
คนตัวโตเดินเข้าไปหยุดอยู่หน้ารูปถ่ายบานใหญ่ที่เขาถ่ายกับคนรัก รอยยิ้มนั้นของอาย ผมโคตรคิดถึงมันเหลือเกิน ถ้าอายยังอยู่ ตอนนี้เธอจะพูดกับผมว่าอะไรนะ ผมสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัว อดีตที่ขมขื่นผมไม่อาจจะหวนกลับไปนึกถึงมันได้อีกแล้ว
คอนโดนี้ที่ผมอยู่ผมเก็บของทุกอย่างของคนรักเอาไว้เหมือนเดิม เพราะอะไรน่ะหรอ คงเป็นเพราะผมคิดถึงเธอมากละมั้ง และผมเองก็อยากย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ ว่าคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตคือ’อาย’ คนเดียวเท่านั้น
กลางดึกคืนเดียวกัน
Rrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เจเจกำลังนอนหลับอยู่ ชายหนุ่มกดรับโดยที่ยังไม่ทันมองให้ชัดว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา เขาเพิ่งหลับไปได้ครึ่งชั่วโมงเอง หวังว่าคนที่โทรเข้ามาจะมีเรื่องด่วนจริงๆนะ ถึงได้กล้าโทรมาเอาป่านนี้
“ฮัลโหล”
‘ไอ้เจ! แกพาน้องไปไหน!’
น้ำเสียงนี้มีคนเดียวเท่านั้น บิดาผู้บังเกิดเกล้านั้นเอง สงสัยพ่อจะรอเขาพาโมริกลับบ้านถึงได้โทรตามเวลานี้
“พ่อไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่พาเธอไปขายทิ้งหรอกน่า”
‘ไอ้ลูกเวร! ทำไมแกชอบขัดคำสั่งฉัน แกไปพูดอะไรกับน้อง ทำไมน้องถึงบอกว่าไม่อยากแต่งงานกับแก’
น้ำเสียงของพ่อกำลังบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจสุดๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มีหรือเขาจะสน
“คนไม่ได้รักกันจะแต่งไปทำไมให้เสียเวลาชีวิต”
ผมเถียงพ่อกลับตามความเป็นจริง ยุคนี้มันไม่ใช่ยุคคลุมถุงชน พ่อเขาไปดูละครผิดยุคมารึไง!
‘ได้! ในเมื่อแกไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันบอก ฉันจะเลื่อนงานแต่งมาให้เร็วขึ้น พรุ่งนี้เช้าแกต้องพาหนูโมมาหาฉัน ถ้าแกไม่พามาแกจะโดนไม่ใช่น้อย’
“พ่อ!!”
ผมตะโกนออกไปเสียงดังลั่น บอกตรงๆว่าโคตรหงุดหงิดกับชีวิตที่กำลังเป็นอยู่ ปลายสายถูกตัดไปโดยไม่รอฟังคำเถียงจากเขาสักนิด เจเจกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น เขาพยายามอย่างมากที่จะพูดกับบิดาด้วยเหตุผล เเต่ดูเหมือนตาแก่นั่นจะไม่ฟังอะไรเขาเลย!
JJ End
Mori Part
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังมากจนคนที่อยู่ด้านในตกใจรีบเดินมาเปิด ทันทีที่ฉันเปิดประตูออกไป ฉันก็พบว่าพี่เจเจกำลังยืนมองฉันด้วยสายตาคาดโทษ อยู่ดีๆสันหลังของฉันมันก็เย็นวาบขึ้นมาทั้งแถบ
ทำไมพี่เขาถึงดูหน้ากลัวจังวะ
“มะมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มี เธอไปพูดอะไรกับพ่อฉัน”
เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเคย แต่เดี๋ยวนะ! ฉันยังไม่ได้ไปคุยอะไรกับคุณลุงเลย แล้วพี่เขามาถามฉันทำไม
“เอ่อ โมยังไม่ได้คุยกับคุณลุงเลยนะคะ”
“แต่พ่อบอกฉันว่าเธอขอยกเลิกงานแต่ง?”
เขาเลิกคิ้วถามฉัน แต่ฉันไม่ได้คุยกับคุณลุงจริงๆนะ ฉันแค่โทรคุยกับพ่อก่อนจะเข้านอน สงสัยพ่อฉันคงต่อสายตรงหาคุณลุงนั่นแหละ
“โมโทรคุยกับพ่อค่ะ ตอนแรกว่าจะเข้าไปบอกคุณลุงวันพรุ่งนี้ ก็พี่เป็นคนขอร้องให้โมไปพูดเองไม่ใช่หรอคะ?”
“ก็ใช่….แต่เธอไปพูดอิท่าไหน ทำไมพ่อฉนถึงจะเลื่อนงานแต่งมาให้เร็วกว่าเดิม”
แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ นี่พี่เขาบ้าไปแล้วหรอ เขาควรจะไปถามพ่อตัวเองสิ ไม่ใช่มาถามฉัน ในเมื่อฉันก็กำลังทำตามสิ่งที่เขาขอ ถึงฉันจะรักเขามากแต่ฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักฉันหรอกนะ
“โมว่าพี่ควรจะไปถามคุณลุงนะคะ”
“เธออยากแต่งานกับฉันมากขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมพ่อเธอถึงดูอยากให้ฉันแต่งงานกับเธอจัง”
สายตาที่พี่เขามองฉันมันไม่ต่างอะไรจากการดูถูกเลยอะ เขาคงไม่ได้คิดว่าพ่อฉันยกตัวฉันมาถวายให้เขาฟรีๆหรอกใช่มั้ย พี่เขาคงไม่ได้กำลังคิดว่าฉันกำลังอยากได้เขาจนตัวสั่นหรอก? หรือเขากำลังคิดแบบนั้นอยู่กันแน่
“โมว่าพี่ควรไปนอนนะคะ เอาไว้คุยกันตอนเช้าดีกว่า ว้าย”
ฉันยังไม่ทันพูดจบ พี่เจเจก็ผลักตัวฉันให้เข้ามาในห้องจนฉันเกือบจะล้ม นี่ผีเข้าสิงเขาหรอไง!
“หรือฉันกำลังมองเธอผิดนะโมริ เธออยากแต่งงานกับฉันจนตัวสั่นเลยหรอ!”
พี่เขาตะโกนใส่หน้าฉันเหมือนเขากำลังโกรธฉันมากๆ ฉันไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมพี่เจเจถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ พี่เขากลายเป็นคนชอบคิดลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ถึงโมจะชอบพี่ แต่โมก็ไม่ได้คิดแบบนั้น ทำไมพี่ต้องมาตะโกนใส่โมด้วย!”
“ฮึ โมริ เธอคิดว่าฉันดูไม่ออกหรอว่าเธอชอบฉันมากขนาดไหน ถ้าเจ้าสาวไม่เอ่ยปากว่าอยากแต่ง มีหรอผู้ใหญ่จะเห็นดีงามขนาดนี้”
พี่เขาคิดแบบนั้นจริงดิ? เขาคิดว่าฉันไปบอกคุณลุงให้เลื่อนงานแต่งให้เร็วขึ้นงั้นหรอ
“โมว่าพี่เจออกไปเถอะค่ะ คุยไปตอนนี้มีแต่ทะเลาะกันเปล่าๆ ดูเหมือนพี่จะไม่เข้าใจอะไรโมเลย อื้อ!!”
จู่ๆพี่เขาก็กระชากฉันไปจูบอย่างแรงเลยอะ จูบแรกของฉันมันจำเป็นต้องขื่นขมขนาดนี่เลยหรอ ทำไมมันเจ็บขนาดนี้ พี่เขาจงใจทำแรงๆให้ฉันรู้สึกเจ็บ เพื่ออะไร!!
“พะพี่เจจูบโมทำไม”
“ก็ฉันเห็นเธออยากได้ฉันจนตัวสั่นนิ! ฉันก็กำลังจะสงเคราะห์ให้อยู่นี่ไง!”
Mori End
JJ Part
ผมไม่รู้เลยว่าทำไมถึงได้จูบคนตรงหน้าด้วยอารมณ์โมโหขนาดนั้น อาจเป็นเพราะผมเครียดพ่อมาเป็นอาทิตย์แล้วกับเรื่องงานแต่งของผมกับเธอ ผมไม่สามารถโต้แย้งอะไรพ่อได้เลย ซึ่งมันหน้าหงุดหงิด หงุดหงิดจนผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แล้วเอามาลงกับคนตรงหน้า เจ้าสาวที่ผมเข้าใจว่าเธออยากแต่งงานกับผม!
“โมไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้…”
น้ำเสียงของโมริบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอกำลังผิดหวังกับตัวผมมากแค่ไหน
“ฉันแย่กว่าที่เธอคิดอีกโมริ เธอคิดดีแล้วหรอที่จะมาแต่งงานกับคนอย่างฉัน!”
ผมก้าวเท้าเข้าไปหาคนร่างเล็กที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างหน้า กลิ่นกายสาวมันทำให้ผมกลายเป็นคนดิบเถื่อนได้ดีๆนี่เอง
“พะพี่เจจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ!”
เธอพยายามเดินหนีผมแต่มันก็ไม่เป็นผลหรอก เพราะตอนนี้ผมรวบตัวเธอมาไว้ใต้ร่างได้เรียบร้อยแล้ว
“อื้อ ยะอย่า อื่อ!”
ผมก้มลงไปจูบคนใต้ร่างอีกครั้ง แต่รอบนี้ผมไม่ได้รุนแรงเท่าเมื่อกี้นะ ผมเปลี่ยนสัมผัสให้มันเป็นจูบที่นุ่มนวลแทน แต่ดูเหมือนโมจะจูบไม่เป็น? แต่ ณ เวลานั้นผมไม่ได้สนใจหรอก มือหนาของผมกำลังเลื่อยเข้าไปในเสื้อที่ไม่ได้ใส่บราอยู่พร้อมกับนวดเคล้นหน้าอกที่ดูเหมือนจะล้นมือผมเบาๆ
“พะพี่เจ ยะอย่าทำแบบนี้ พี่มีแฟนอยู่แล้วนะ! อ๊ะ”
เชื่อไหมว่าคำนั้นของเธอเตือนสติผมได้ดีเหลือเหลือ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผมไม่ได้จินตรนาการเอาไว้เลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ตั้งแต่คนรักของผมตายจากโลกนี้ไป เรื่องพวกนี้ผมก็แค่ซื้อกิน ซึ่งมันก็ใช้แค่เงินไม่ได้ใช้ใจ แต่กับโมริ ทำไมเวลาอยู่ใกล้เด็กนี่ผมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้
ผมหาคำตอบให้ตัวเองอยู่หลายวิหลังจากที่ผละตัวเองออกมาจากร่างนุ่มนิ่มของเธอแล้ว ผมเดินออกมาจากห้องนั้น ก่อนจะสวมเสื้อผ้าและตัดสินใจออกไปหาอะไรดื่ม ตอนนี้ผมต้องหาที่ลง ต้องปลดปล่อยความรู้สึกหนักอึ้งนี้กับใครสักคน แต่มันต้องไม่ใช่เธอ…โมริ ทันทีที่ยัยนั่นพูดถึง แฟน ของผม ใบหน้าของอายก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด ทำไมผมถึงได้รู้สึกแย่ขนาดนี้ เหมือนใจมันกำลังทรยศผมยังไงก็ไม่รู้
JJ End