3 ส่งฉันกลับบ้าน
ไม่ว่าจะตะโกนส่งเสียงดังขนาดไหน แต่ดูเหมือนว่าด้านนอกจะไม่มีใครได้ยิน ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นห้อง น้ำตารินไหลอาบสองแก้มเนียน
“ฮื้อ....ร้องไห้ไม่ได้ ตาจะบวม แต่งหน้าไม่สวย” ถึงจะบอกกับตัวเองอย่างนั้นแต่ไม่สามารถห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้ หญิงสาวซุกใบหน้าเข้ากับหัวเข่า นี่ใช่ไหมประโยคที่เขาพูดถึงกัน น้ำตาเช็ดหัวเข่า เธอว่าต้องใช่แน่ ๆ
กำลังคิดว่าเธออาจจะต้องแห้งตายอยู่ในนี้แน่ ๆ ประตูห้องก็ถูกใครสักคนผลักเข้ามาอย่างรุนแรง ลมหนาวด้านนอกปะทะเข้ากับใบหน้าที่เปียกชื้น เส้นผมสีดำขลับยาวสลวยละไล้ไปกับใบหน้า
ชายหนุ่มที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามามีท่าทีอึ้งไปเล็กน้อย อี้หรานเฟยไม่เคยดูน่าสงสารเช่นนี้มาก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมานางเอาแต่ทำตัวร้ายกาจ ถือว่าตนเองมีครอบครัวหนุนหลัง ต่อให้เขาทรมานนางจนตาย สตรีผู้นี้ก็ไม่มีวันจะหลั่งน้ำตา ของที่นางต้องการ นางจะยึดถือแย่งเอามาโดยไม่สนใจว่าสิ่งนั้นมีเจ้าของหรือไม่ เอาแต่ใจชั่วช้า ลงมือทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์
เค่อเฉียนเหวิน จับนางมาขังไว้ที่นี่เมื่อห้าวันก่อน สาเหตุเกิดจากการที่นางทำร้ายคน วางยาพิษในสุราหมายจะสังหารไป๋อี้ถงให้ตายตก ไป๋อี้ถงคือสตรีที่เขารักที่สุด และเพียงเพราะเขาไม่รับรักอี้หรานเฟย สตรีชั่วช้าผู้นั้นจึงลงมือโดยไม่คิดลังเล โชคดีที่เขาช่วยชีวิตไป๋อี้ถงได้ทันเวลาก่อนที่นางจะจากโลกนี้ไป ส่วนไป๋อี้ถงนั้นแสนดีต่อให้อี้หรานเฟยคิดอยากจะสังหารตนขนาดไหน แต่กระนั้นก็มิอาจตัดใจส่งนางให้กับทางการได้
ท้ายที่สุดจบลงด้วยการนำตัวนางมาขังเอาไว้ในห้องเก็บของภายในตำหนักรัชทายาท รอให้นางสำนึกผิด แต่ผ่านมาห้าวันไม่เพียงนางไม่สำนึก ซ้ำยังไม่คิดจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ได้ข่าวจากนางกำนัลพบว่าคุณหนูอี้ไม่กินไม่ดื่ม เขาตั้งใจมาดูว่านางตายหรือยัง เพราะจะปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นไม่ได้ หากนางตายขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเขาและจวนกั๋วกง ผู้ที่กุมอำนาจราชสำนักฝ่ายขวา มาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน นอกจากนั้นยังมีกำลังทหารและองครักษ์อยู่ในมืออีกนับไม่ถ้วน เขาจึงไม่อาจกระทำเรื่องขัดใจอีกฝ่ายได้ ที่สำคัญการขึ้นครองราชย์ของเขายังต้องอาศัยครอบครัวของนางหนุนหลัง
ตอนที่นางร่ำร้องอยากจะมาอาศัยอยู่ที่ตำหนักรัชทายาท เขาเองก็ไม่สามารถขัดใจได้ จึงได้แต่ยอมทน รอวันที่เขาขึ้นเถลิงอำนาจ จวนอี้กั๋วกงจะเป็นที่แรก ๆ ที่เขาคิดกำจัดทิ้ง ทั้งที่เขายินยอมนางทุกอย่าง ให้นางมาอยู่ด้วยแท้ ๆ แต่กลับคิดสังหารคน ชาตินี้เขาจะไม่มีวันให้อภัยนางเด็ดขาด
ดวงตาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเมื่อกระทบกับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้างดงามระยิบระยับเปล่งประกาย พานให้หัวใจของผู้คนกระตุกวูบ ลักษณะท่าทางบางอย่างของอี้หรานเฟยในเวลานี้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน หญิงสาวลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำของคนทั้งหมด ที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามา
“คุณมาช่วยฉันเหรอคะ” อี้หรานเฟยเปิดอัลติของนางเอก จมูกเล็ก ๆ ที่เคยเชิดรั้นอยู่ตลอดเวลาเป็นสีแดงระเรื่อดูน่าสงสาร ดวงตาเย่อหยิ่งโอหังเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ
“...” ภาพลักษณ์ของอี้หรานเฟยที่เค่อเฉียนเหวินไม่เคยเห็น ทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจ จนมิสามารถเอ่ยประโยคใดออกมาได้ สตรีที่เคยมีรูปร่างเหมือนลูกแตงเดินได้จะสามารถงดงามได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ฮึก ๆ ปล่อยฉันกลับบ้านเถอะนะคะ ถ้าคุณอยากได้เงินบอกมาได้เลยนะคะ อยากได้เท่าไหร่ ฮึก...บอกฉันมาได้เลยค่ะ จะให้คุณพ่อกับท่านประธานโอนให้เดี๋ยวนี้เลย ขอแค่...ขอแค่คุณอย่าทำร้ายฉันก็พอ คลิปวิดีโอ ภาพถ่ายที่คุณถ่ายภาพของฉันเอาไว้ ฉันก็ไม่ติดใจเอาเรื่อง” อี้หรานเฟยเกาะแขนข้างหนึ่งของชายหนุ่มตรงหน้า เส้นผมสีดำยุ่งเหยิงแต่มันทำให้นางดูน่าทะนุถนอมราวกับลูกกวางตัวเล็ก ๆ อีกทั้งนางพูดไปร้องไห้ไป
เค่อเฉียนเหวินต้องสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่าน นางก็แค่เล่นละครเท่านั้น ชายหนุ่มสะบัดแขน อี้หรานเฟยคงไม่ทันระวังตัว ถูกเขาผลักจนร่างเล็กทรุดตัวลง
“อย่ามาเล่นละครต่อหน้าข้า เจ้าต่างหากที่อยากเข้ามาอยู่ที่นี่ ข้าไม่ได้บังคับเสียหน่อย” นางอยากเข้ามาอยู่ในจวนเขา เขาก็ให้นางอยู่ ว่าแต่ตอนนี้สตรีผู้นี้เล่นตลกอะไรกัน ชายหนุ่มทนไม่ไหวขึ้นเสียงใส่นาง ซ้ำยังชี้หน้าด่ากราด “สตรีชั่วช้าเช่นเจ้า วันหนึ่งฟ้าดินจะลงโทษ นี่โชคดีแค่ไหนที่ถงเอ๋อขอร้องข้าเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเจ้าคงถูกจับและส่งตัวให้แก่กรมอาญาไปแล้ว”
อี้หรานเฟยคิ้วกระตุกเล็กน้อย หน้าตาดีก็จริงแต่ผู้ชายคนนี้เป็นบ้าอะไร ดูละครพีเรียดอ่านนิยายมากเกินไปหรือไง ตลอดชีวิตของการเป็นนักแสดง เธอไม่เคยถูกใครชี้นิ้วด่ากราดเช่นนี้มาก่อน ความกลัวแปลเปลี่ยนเป็นความโกรธ
“ฉัน...ฉันทำอะไร ผู้หญิงที่ชื่อถงเอ๋ออะไรนั่นกันเหรอคะ คุณอย่ามามั่วสิคะ ก็ในเมื่อเห็น ๆ กันอยู่ว่าความจริงแล้ว คุณจับตัวฉันมาเรียกค่าไถ่ ฉันรู้หรอกนะคะ ว่าฉันน่ะหน้าตาดี เป็นที่รักของประชาชน ฉันรู้ว่าฉันคือขวัญใจของคนทั้งประเทศ มันก็ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะมีใครสักคนชื่นชมฉันจนถึงขั้นลักพาตัว แต่ขอเถอะนะคะ ส่งตัวฉันกลับไปบ้านของฉันเถอะค่ะ ถ้าคุณกลัวคุณพ่อคุณแม่ของฉันจะเอาเรื่อง ก็เอาโทรศัพท์มาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาผู้จัดการกับท่านประธานเอง ให้เขามารับแล้วก็จะทำแบบเงียบ ๆ ไม่บอกสื่อมวลชนด้วยนะคะ”
อี้หรานเฟยร่ายยาว ริมฝีปากเล็ก ๆ พูดเจื้อยแจ้ว เป็นประโยคยาวเหยียด มีบางคำเขาฟังไม่รู้เรื่อง โทรศัพท์ สื่อมวลชน ผู้จัดการ ท่านประธาน ถูกขังแค่ไม่กี่วันนางเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร
“เป็นที่รักของประชาชนงั้นหรือ น่าขันนัก สตรีชั่วร้ายเช่นเจ้าน่ะหรือเป็นที่รักของประชาชน ถูกก่นด่าสาปแช่งไปทั้งแผ่นดินน่ะสิไม่ว่า” เค่อเฉียนเหวินใช้นิ้วจิ้มหน้าผากนางอย่างเหยียดยาม “เจ้าคิดว่าข้าจะส่งเจ้ากลับบ้านไปง่าย ๆ งั้นหรือ ให้เจ้ากลับไปฟ้อง อี้กั๋วกงงั้นเหรอ เจ้าคิดว่าข้าโง่หรืออย่างไร”
ร่างเล็กตะลึงงัน ถ้าไม่นับในละครก็ไม่เคยถูกใครใช้นิ้วชี้หน้าขนาดนี้ คนตัวเล็กอดทนถูกหยามเกียรติไม่ได้ คว้ามือของชายหนุ่มกัดเข้าไปที่นิ้วข้างที่ใช้จิ้มหน้าผากของนาง