บทที่ 4-1 ชายาตัวน้อย
บทที่ 3 ชายาตัวน้อย
ถึงจะเป็นการเป็นงานอ้างอิงตำรา และพูดคุยอย่างดิบดีเต็มไปด้วยหลักการก็เถอะ แต่หนอนหนังสือก็มีขีดจำกัด ความจริงจะเป็นลมตั้งแต่ใช้ปากดูดเลียแล้ว แถมโดนท่านอ๋องรุกหนักขนาดนั้นก็หงายหลังตึง น้ำลายฟูมปากไปเสียแล้ว
ยามฟ้าสาง ลมหายใจของผิงเซียงเริ่มตื้นขึ้นในยามเช้า นางค่อยๆ ปรือตาขึ้น สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นข้างกาย เมื่อหันไปมองข้างๆ ก็ต้องตกใจ
ท่านอ๋อง?
ร่างของจิ้งอ๋องอยู่ท่ามกลางแสงสว่างนุ่มนวลของรุ่งอรุณ ใบหน้าคมเข้มของเขาดูสงบ ริมฝีปากบางที่เคยเอาแต่พูดเย็นชากลับดูอ่อนโยนในยามที่เขาหลับ ผิงเซียงเผลอคิดไปว่าใบหน้าเช่นนี้หาได้ดุดันหรือชั่วร้ายเหมือนคำลือไม่ เขาดูคล้ายกับภาพฝันอันละมุนละไมเสียด้วยซ้ำ
พอนึกถึงเรื่องอุกอาจเมื่อคืน องค์หญิงถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ นางสติฟั่นเฟือนหรืออย่างไรถึงได้ใจกล้าใช้ปากบำเรอให้ท่านอ๋องแบบนั้น
อ๊า!!!
เป็นเจ้าสาวไม่ได้อีกแล้วสิเรา
เอ๊ะ เราก็เป็นเจ้าสาวของท่านอ๋องแล้วนี่ ผิงเซียงขยับตัวเบาๆ พลางยิ้มบาง ใครจะไปคิดว่าความอ่อนโยนของท่านอ๋องเมื่อคืนจะทำให้นางใจสั่นได้ถึงเพียงนี้ มือบอบบางไถลขึ้นโดยไม่รู้ตัว แทบจะสัมผัสแก้มของเขา...
แต่ก่อนที่จะได้แตะปลายนิ้วลงบนผิวเนียนเย็น เขากลับลืมตาขึ้นเสียก่อน ดวงตาดำขลับเย็นเยียบคู่นั้นจ้องมองข้าอย่างนิ่งงัน ความราบเรียบไร้อารมณ์ในดวงตาแฝงด้วยคำถาม
“เจ้ามองอะไร” เสียงของเขาเย็นชา ราวกับแสงยามเช้ากลับกลายเป็นน้ำแข็งในพริบตา
องค์หญิงชะงัก หัวใจเต้นระรัวด้วยความตกใจปนประหม่า แต่ไม่ทันคิดหาคำแก้ตัว นางกลับเผลอยิ้มมุมปากออกมาเสียก่อน ใบหน้าผิงเซียงร้อนผ่าว และหันสายตาหลบเล็กน้อย
“ข้ามองท่าน... ข้าคิดว่าในแสงเช้านี้ ท่านดูนุ่มนวลดี” นางพูดไปตามที่รู้สึกโดยไม่รู้ตัว จิ้งอ๋องชะงักไปครู่หนึ่ง เขาหรี่ตาลงอย่างพิจารณา สายตาของเขายังคงสงบนิ่ง แต่ลึกในนั้นมีประกายบางอย่างที่นางไม่รู้จักมาก่อน
“อ่ะแหน่ะ ยิ้ม แต่แววตาไม่ได้ยิ้มตามเลยนะเพคะ คงไม่ใช่ว่าคิดจะเจื๋อนข้าทิ้งหรอกนะ”
“เจ้าช่างพูดช่างจาเกินคาด” เขาพูดเบาๆ น้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน “เจ้าไม่กลัวข้าเหมือนคนอื่นๆ เลยหรือ”
ผิงเซียงสบตาเขาอย่างจริงจัง นางไม่ใช่คนที่จะหลีกหนีความรู้สึกที่ตนเองมี และรู้สึกได้ว่าภายใต้เปลือกแข็งกระด้างของเขา มีบางสิ่งที่ซ่อนเร้น และนางต้องการจะรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร
“ท่านก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ข้ากลัวนี่เพคะ” ผิงเซียงตอบเสียงแผ่วเบา “เมื่อคืน...ท่านใจดีกับข้ามาก แล้วก็หัวเราะให้ข้าด้วย ข้าชอบท่าน ข้าคิดว่าท่านเองก็ชอบข้า...”
จิ้งอ๋องนิ่งงัน สายตาของเขาที่เคยดูเย็นชาเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย คล้ายกับว่าเขาเองก็ประหลาดใจกับคำพูดซื่อๆ ของชายาตัวน้อย
“เจ้าช่างร้ายไม่เหมือนใคร”
“ใครๆ ต่างก็ว่าข้าร้าย”
“ข้าหมายความถึง ฝีมือที่ทำให้ข้ายิ้มได้ของเจ้าร้ายมากต่างหาก” เขากล่าวเสียงเบา “เมื่อคืนเจ้าเป็นลมไปกลางครัน ทำหน้าที่ชายาของข้าสักรอบแล้วข้าจะตอบคำถามเจ้าทั้งวัน”
“รับปากข้าแล้วนะเพคะ”
“คนอย่างข้า พูดแล้วไม่คืนคำ”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะขออะไรเพิ่มอีกสักอย่างได้มั้ยเพคะ”
“หึ อะไรล่ะ แก้วแหวนเงินทอง หรือเครื่องประทินโฉม”
“ของานเพคะ”
“??”
“ข้าถนัดคำนวณและเขียน ถ้าเป็นไปได้ ขอโต๊ะทำงาน หมึก พู่กันแล้วก็กระดาษดีๆ ด้วยเพคะ”
“ชายาของข้าไม่เหมือนใครเลยจริงๆ”
ร่างสูงสง่าเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอน ก่อนจะเอื้อมมือสั่นกระดิ่ง อึดใจต่อมาพ่อบ้านกับคนรับใช้ของเขาก็เข้ามา
“เชิญท่านอ๋องสั่งธุระมาได้”
“ข้าจะเสพสังวาส”
“ทราบแล้วขอรับ”