6จิ้มจุ่มร้านประจำของเรา(3)
“ส่งตำแหน่งที่พักของคุณมาเดี๋ยวผมไปรับคุณเองและเราจะไปกันแค่สองคนเพราะผมตัดสินใจที่จะนั่งเครื่องบินไปแล้วค่อยไปใช้รถของโรงแรมในการเดินทางไปติดต่อธุรกิจ คุณไม่มีปัญหาใช่ไหมหรือถ้ามีผมจะได้เรียกใช้คนที่มาสมัครในตำแหน่งเลขาคนถัดไป”
ท่านประธานไม่ได้พูดน้ำเสียงแบบขู่แต่เขากำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหยียดหยามเหมือนกำลังจะบอกว่าคนตรงหน้าคงไม่กล้าพอที่จะไปกับเขาสองคนซึ่งมันทำให้คุ้มขวัญรู้สึกเสียหน้าและเธอจะไม่ยอมเด็ดขาดที่จะเป็นฝ่ายแพ้เธอจึงพยักหน้ายิ้มรับด้วยความเต็มใจ
“ในเมื่อคุณให้โอกาสฉันมาทำงานในตำแหน่งเลขาฉันไม่มีปัญหาในการเดินทางไปกับคุณแน่นอนค่ะแล้วพบกันพรุ่งนี้นะคะ”
เลขาคนใหม่กลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอที่ตั้งอยู่หน้าประตูห้องของท่านประธาน เธอมัวแต่สาละวนวุ่นวายอยู่กับการเตรียมเอกสารที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้จนลืมที่จะส่งตำแหน่งของที่พักให้กับบอสใหญ่จนอีกฝ่ายต้องส่งไลน์มาเตือนซึ่งหญิงสาวก็แอบสงสัยว่าเขามีไลน์ของเธอได้อย่างไรกัน
การเดินทางไปติดต่อธุรกิจในครั้งนี้ได้สร้างความสนิทสนมระหว่างเจ้านายกับลูกน้อยได้เป็นอย่างมากเพราะตลอดเวลาสามวันที่อยู่ที่เชียงใหม่ทั้งคู่แทบจะไม่ได้แยกจากกันนอกจากแยกกันนอนคนละห้องเท่านั้นซึ่งคืนสุดท้ายพิรภพก็เอ่ยปากชวนแกมบังคับให้เลขาสาวของเขานั่งรถไปเป็นเพื่อนเพื่อขับรถชมรอบเมืองเชียงใหม่
“อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้นสิรับรองว่าผมพาคุณไปขี่รถเล่นพาไปหาอะไรกินคุณจะได้สนุกกว่าสองวันที่ผ่านมาแน่นอน”
พิรภพภพหันมามองหน้าสาวน้อยที่นั่งข้าง ๆ เขาด้วยอารมณ์ขันที่เห็นเธอทำหน้าบูดบึ้งแสดงออกถึงความไม่เต็มใจ
“ตามสบายเลยค่ะมันเป็นหน้าที่ของเลขาอยู่แล้ว”
ท่านประธานยกมือหนาขึ้นมาลูบผมของเลขาสาวอย่างเอ็นดูโดยที่คุ้มขวัญถึงกับตกใจเพราะไม่คิดว่าท่านประธานที่เอาแต่ทำหน้าตึงเครียดและมักจะใช้อำนาจบีบคั้นเธออยู่เสมอจะมี มุมที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วย
เชียงใหม่เมืองหลวงของล้านนาในค่ำคืนที่บรรยากาศช่างแสนโรแมนติกอากาศที่เริ่มเย็นสบายเพราะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวบวกกับแสงดาวที่ส่องประกายวับวาวอยู่บนท้องฟ้าทำให้ทั้งสองคนเดินเที่ยวกันโดยลืมไปเลยว่าวันนี้ทั้งวันต่างก็ทำงานหนักกันมา
“ของกินที่นี่แปลก ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ฉันเกิดมายังไม่เคยได้กินเลยแล้วคุณล่ะเคยกินมาก่อนหรือเปล่า”
สาวน้อยที่ทั้งสองมือเต็มไปด้วยของกินทั้งที่เธอเพิ่งนั่งกินข้าวซอยเสร็จมาหมาด ๆ หันไปคุยกับท่านประธานหนุ่มหล่อของบริษัทที่เดินนำเธอไปยังร้านขายของฝากเพราะทั้งคู่ลืมคิดไปเลยว่าการมาติดต่อธุรกิจครั้งนี้ยังไม่มีของติดไม้ติดมือไปฝากพนักงานคนอื่น ๆ เลย
“ผมชอบเชียงใหม่แต่ก็ไม่เคยมาเดินแบบนี้นะเพราะปกติจะมาติดต่อเรื่องงานเพียงคนเดียว ยุวดีเองก็ไม่ค่อยได้มากับผมเพราะเธอมีครอบครัวแล้ว ครั้งหน้าถ้าเราได้มากันอีกผมจะพาคุณไปเที่ยวบนดอยแต่คงต้องมาใช้เวลาหลายวันกว่านี้เพราะครั้งนี้พรุ่งนี้เราก็ต้องเดินทางกลับกันแล้ว”
คุ้มขวัญทำท่าทางตื่นเต้นที่รู้ว่าถ้าเธอมีโอกาสได้มาเชียงใหม่กับท่านประธานเธอจะได้มีโอกาสไปเที่ยวที่อื่นด้วยเพราะชีวิตของเธอนอกจากบ้านกับมหาวิทยาลัยเธอก็แทบจะไม่ได้ไปไหนซึ่งเป็นเพราะว่ามารดาของเธอมาเสียชีวิตลงตั้งแต่เธอเริ่มเข้าเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเธอจึงเลือกที่จะประหยัดเงินเพื่อช่วยไม่ให้พี่สาวต้องลำบากไปมากกว่านี้
การทำงานในตำแหน่งเลขาไม่ง่ายและก็ไม่ยากแต่ทั้งหมดนั้นมันต้องใช้ความทุ่มเทในเรื่องเวลาเป็นอย่างมากตอนนี้คุ้มขวัญเข้าใจแล้วว่าทำไมพีรภพถึงเลือกที่จะหาคนมาแทนยุวดีเพราะตั้งแต่เธอกลับจากเชียงใหม่แทบจะไม่มีวันไหนเลยที่เธอได้เลิกงานก่อนหกโมงเย็นทั้งที่พนักงานคนอื่นแค่เพียงห้าโมงก็ได้กลับบ้านกันหมดแล้ว
“เดี๋ยวผมไปส่งนะรออีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็น่าจะทำงานเสร็จแล้วไว้วันนี้ผมจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนที่ทำงานล่วงเวลามาเป็นอาทิตย์”
คุ้มขวัญอยากปฏิเสธแต่เธอก็ไม่กล้าเพราะใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงท่านประธานบริษัทที่ต้องอยู่ทำงานเพียงคนเดียวถ้าเธอจะกลับก่อนแต่อย่างนั้นเธอก็ไม่อยากจะสนิทสนมกับเขามากเกินไปเพราะเท่าที่ผ่านมาสายตาของพนักงานคนอื่น ๆ ที่จ้องมองก็ทำให้เธอรู้สึกว่าความสนิทสนมที่ท่านประธานมีให้เธอมันมากกว่าที่เขาเคยมีให้พนักงานคนอื่นที่ผ่านมา
ร้านอาหารข้างทางถูกเลือกเป็นสถานที่กินอาหารมื้อค่ำของท่านประธานบริษัทใหญ่กับเลขาคนใหม่ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่พิรภพให้โอกาสคุณขวัญเป็นคนเลือกบ้างเพราะเมื่อคราวที่ไปเชียงใหม่เขาเป็นคนเลือกร้านของกินให้กับหญิงสาวแล้ว
“เคยกินแต่ชาบูในห้างวันนี้มากินจิ้มจุ่มข้างทางบ้างก็อร่อยเหมือนกันไว้วันหลังพาผมมาอีกนะ”
จากตอนแรกที่ตั้งใจจะกินอาหารกันแค่ง่าย ๆ เพราะตอนนี้ก็ดึกแล้วแต่กลายเป็นว่าทั้งคู่พากันมานั่งกินจิ้มจุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทด้วยบรรยากาศที่ลมพัดเย็นสบายและสายน้ำที่กำลังไหลม้วนตัวเป็นคลื่นเพราะมีเรือใหญ่วิ่งทำให้พิรพบรู้สึกผ่อนคลายจนเขาเองยังไม่อยากที่จะกลับบ้าน
“ผมติดใจร้านนี้เข้าแล้วเอาเป็นว่าถือว่าร้านนี้เป็นร้านประจำของเราก็แล้วกัน”
คุ้มขวัญไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแค่เธอได้ยินชายหนุ่มตรงหน้าใช้คำว่าเรามันทำให้เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว หัวใจของเธอมันรู้สึกหวาบหวิวอย่างบอกไม่ถูกหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอแอบหลงรักท่านประธานสุดหล่อตรงหน้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้