บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 ถ้ำสมบัติ

ชมเชื่อความฝันของลูกสาว ลางสังหรณ์ในใจยังคงวนเวียนเสียวแปลบอยู่ลึกในอก หล่อนอยากเจอลูกชายของหล่อนวันนี้ อยากพบ อยากเห็นหน้า ไม่ว่าจะมีลมหายใจหรือไม่มีแล้วก็ตาม

“ได้จ้ะน้า ไม มองข้างทางนะ”

“จ้ะพี่ ขอบคุณจ้ะพี่”

น้ำตาหญิงสาวไหลริน ใจจะขาดมันเป็นอย่างนี้เอง หัวใจเหมือนจะหยุดเต้น น้ำตาพร่างพรูเมื่อเห็นพุ่มไม้อยู่ไกลๆ

“พี่ศักดิ์ นั่นไง”

หล่อนชี้มือไปที่พุ่มไม้สูงข้างทางด้านขวามือ หัวใจเต้นแรง รถวิ่งไปถึงพุ่มไม้ใหญ่ มีต้นไม้ 3 ต้น ถัดไปด้านในห่างจากริมทาง 2 เมตร มันสำปะหลังงามสะพรั่ง เหมือนความฝัน ชไมพรร้องไห้ออกมาดังๆ

“ตรงนี้ พี่ตรงนี้ แม่ ตรงนี้ นั่งไงต้นไม้ใหญ่ข้างในโน่นไง มีโรงนาข้างในนั้น น้าเถียร ไปเร็ว”

“เดี๋ยวไม ใจเย็นๆ เรามากันแค่นี้ ถ้ามีอะไรหนักหนาสาหัส เราสู้ไม่ได้แน่ น้าชมมาด้วย พี่เป็นห่วง พี่โทรหาผู้กองชัยเลิศก่อน รอแป๊บเดียว”

สมศักดิ์มองตามมือชไมพร ด้านในเป็นป่าสูง เขาไม่กลัวอันตรายแต่เป็นห่วงชมกับชไมพร เถียรกับรังและนุ่ม ช่วยเหลือได้แต่ถ้ามีโจรผู้ร้ายอยู่ในนั้นจะทำอย่างไรถ้าพวกมันเห็นผู้หญิงมาด้วย

“รอทำไม เราเข้าไปก่อน ให้ตรวจตามไป”

“ไม อย่าใจร้อน พี่เป็นห่วงไมกับแม่รู้ไหม”

สมศักดิ์ดุหญิงสาวที่เขารัก หล่อนกำลังขาดสติเพราะความรักที่มีต่อน้องชายคนเดียว เขาเข้าใจแต่เขาต้องรอบคอบเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

“ใช่ นังไม เอ็งอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปเลย พี่ชมก็เหมือนกัน อย่าฟูมฟาย เข็มแข็งไว้ มันอาจไม่มีเรื่องร้ายอะไรก็ได้”

สมศักดิ์โทรศัพท์ถึงผู้กองชัยเลิศ เขารู้จักผู้กอง สนิทกับผู้กองมากกว่าตำรวจคนอื่นๆ ผู้กองรับโทรศัพท์สมศักดิ์ ไม่อยากเชื่อความฝันของชไมพร

“ผู้ใหญ่ มันแค่ความฝันนะ แต่เอาเถอะ ผู้ใหญ่รออยู่ที่นั่น ผมจะพาลูกน้องไปอีกสามคนอย่าเพิ่งเข้าไปล่ะ”

“ครับ ขอบคุณมากครับผู้กอง”

“ผมละเชื่อคุณจริงๆ เลยผู้ใหญ่สมศักดิ์ อย่างนี้แหละ รักเขามากก็ต้องทำตามใจเขาสินะ”

“อย่าล้อเลยครับ ตอนนี้ไมร้องไห้อยู่ สงสารมากเลยครับ”

“ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

ร้อยตำรวจเอกชัยเลิศหรือผู้กองเลิศ นำลูกน้อง 3 นายออกจากสถานีตำรวจแดนดิน เขาบอกลูกน้องว่า

“ไปช่วยผู้ใหญ่จับคนร้าย โทร.มาขอกำลังไปช่วยเสริม ไปเร็ว หมู่หนุ่ม ขับรถ”

“ครับผม”

“จ่าเชิญ หมู่เกาะ ขึ้นรถ”

“ครับผม”

ผู้ใต้บังคับบัญชาขึ้นนั่งเบาะหลัง ประตูปิดรถวิ่งออกจากหน้าสถานีตำรวจ นายตำรวจสามสี่นายมองตามรถสีหน้างุนงง

“ผู้กองไปไหนวะ ดูรีบร้อนว่ะ”

ดาบมดพูดขึ้นลอยๆ จ่าอ่อนมองอยู่ก่อนแล้ว ส่ายหน้าไปมา

“ไม่รู้ว่ะ ไม่บอกอะไรเลย รับโทรศัพท์ใครก็ไม่รู้ เรียกหมู่หนุ่มหมู่เกาะจ่าเชิญขึ้นรถไปเลย”

“ถ้ามีอะไรหนักๆ คงเรียกไปสมทบ”

“นั่นสิ”

ดาบมดอยากรู้ภารกิจของผู้บังคับบัญชาแต่เมื่อผู้บังคับบัญชาไม่แจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบ พวกเขาก็ต้องรอคำสั่ง หากไม่มีคำสั่งอะไรพวกเขาต้องทำงานตามปกติต่อไป...

ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ แต่เป็นกฎแห่งกรรม กรรมที่ทุกคนทำไว้ทั้งในชาติที่แล้วและชาติปัจจุบันซึ่งแต่ละภพแต่ละชาตินั้น ไม่มีใครรู้ว่าตนเองสร้างกรรมดีไว้มากเพียงใด สร้างกรรมชั่วไว้มากแค่ไหนและชาติปัจจุบันทำชั่วหรือดีไว้อย่างไร ชาติปัจจุบันเท่านั้นที่ตนเองรับรู้มาตลอดว่าทำอะไรบ้าง

แถมได้แต่ขอต่อเจ้าผู้คุ้มครองถ้ำทอง องค์เทพที่ชาวบ้านลัชชีเคารพนับถือ กราบไหว้ พวกชาวบ้านเคารพเทพเทวา เจ้าที่ในถ้ำ เคยมีคนกล้าลองดีกับเจ้าที่ นำก้อนทองออกมาจากถ้ำ ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง คนที่นำก้อนทองออกมาต้องรีบนำไปเก็บไว้ที่เดิมเพราะ เขามองเห็นแต่ใบหน้าของชายชรานับสิบหน้าเรียงจากเล็กมาใหญ่อยู่ตรงหน้าเขา หันไปทางไหนก็เห็นเช่นเดิม

ใบหน้าผ่องใสเปล่งรัศมีสีทอง หนวดเคราสีขาวยาวถึงอก ผมสีขาวแต่ใบหน้าไม่เหี่ยวย่น ยังคงเต่งตึงเช่นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ดวงตาสุกสกาวเปล่งแสงวาววามราวดวงดาวบนท้องฟ้า ไม่มีอะไรน่ากลัวแต่ใบหน้านั้นไม่จางหาย ไป คนอยากลองดีแทบบ้าคลั่งมองอะไรไม่เห็น นอกจากใบหน้าชายชราหน้าหนุ่มเท่านั้น

“ขอได้โปรดเมตตาพ่อหนุ่มด้วยเถิด อย่าให้เขาหลงอยู่ในเมืองนี้เลย ให้เขากลับบ้านเขาทันเวลาด้วยเถิด”

แถมหลับตาลง ภาวนาคำเดิม ใบหน้าชายผมขาว หนวดเคราขาวลอยอยู่ตรงหน้าเขา รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้น

“เจ้าต้อนรับเขาเป็นอย่างดีมิใช่รึ เหตุใดจึงขอร้องข้าเล่า เจ้ารู้มิใช่หรือกฎแห่งกรรมของแต่ละคนต่างกันตามวาระ มิมีผู้ใดรอดพ้นไปได้ เว้นเสียแต่ว่าจะช้าเร็ว ทุกคนก็ต้องพบกับกฎนี้”

“แต่เขาไม่ใช่คนถิ่นนี้นะขอรับ”

“ข้ารู้ แต่เมื่อเวลาของเขามาถึง ข้าก็ช่วยอันใดมิได้ เจ้าควรรู้ไว้”

“แต่ว่า...”

ใบหน้านั้นหายวับไป แถมสะดุ้ง ลืมตารวดเร็ว คุงหายไปจากก้อนทองก้อนใหญ่ แถมกวาดสายตาไปรอบๆ ไม่มีร่างชายหนุ่มอยู่มุมใดมุมหนึ่งของท้องถ้ำกว้าง

“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่ม อยู่ไหน รีบกลับเถิด ใกล้จะค่ำแล้วนะ ออกมาเร็วๆ พ่อหนุ่ม”

“อยู่นี่จ้ะน้า ฉันขอดูทั่วๆ สักหน่อย สวยเหลือเกินจ้ะ”

“กลับเถอะพ่อหนุ่ม ประเดี๋ยวไม่ทันเวลา”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันกินง่ายอยู่ง่าย ฉันชอบหมู่บ้านน้าจ้ะ มีแต่คนยิ้มแย้มให้กัน ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น มีน้ำใจทุกบ้าน ดีจังเลยจ้ะน้า”

“ไม่ได้ดอก เอ็งต้องรีบกลับ ไปเถอะ เร็วๆ ประเดี๋ยวจะไม่ทันกาลนะเอ็ง”

“แต่ฉันอยากดูให้ทั่วๆ ถ้ำจ้ะ ฉันไปทางโน้นแป๊บเดียวนะจ๊ะน้า”

คุงเหมือนถูกมนตร์สะกด ความโลภในใจค่อยๆ คืบคลานเข้ามา เขาอยากเห็นและอยากได้ก้อนทองติดมือกลับไปอวดพ่อแม่และญาติพี่น้อง จะเล่าให้ทุกคนฟังว่าเขาหลุดเข้ามาในเมืองแปลกประหลาดที่ไหนไม่รู้ คนมีน้ำใจ เป็นมิตรกับทุกคนและมีทรัพย์สมบัติมหาศาลอยู่ในถ้ำแห่งนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel