ประโยคสั้น ๆที่จำไม่ลืม(1)
ตอนที่ 2
ประโยคสั้น ๆ ที่จำไม่ลืม
คราวนี้ทุกคนในงานเลี้ยงเเทบจะกลั้นหายใจ เเละค่อยๆออกจากงานเลี้ยง พยามให้ตัวลีบ เเละบังคับเสียงเดินให้เบาที่สุด โดยไม่ต้องรอ ให้พิกรประกาศเชิญไม่มีใครกล้าหันไปมองด้านหลัง ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นได้เเต่รีบเดินออกจากงาน ส่วนมือก็คอยระวัง สิ่งของบางอย่างที่ปลิวลอย ตามหลังออกมาอย่างบ้างคลั่ง ด้วยฝีมือของดนัยเดชย์ ที่ตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่งราวคนเสียสติไปเเล้ว
เเม่ผ่องรอจนเสียงข้างนอกเงียบสงบไปเเล้ว จึงลุกขึ้นไปเปิดไฟ ใน "ห้องหลบภัย" ที่ชาญปวีย์คุ้นเคยมาตั้งเเต่เด็ก
ผ่องจันทร์เปิดไฟเสร็จเเล้วก็รีบเปิดลิ้นชักที่ ตู้เสื้อผ้า หยิบกล่องพลาสติกใบเล็ก ที่ฝากล่องเขียนว่า ยาสามามัญประจำบ้านออกมา ก่อนจะถือไปวางลง ตรงหน้าของชาญปวีย์น้ำตาไหลอาบเเก้มที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของผ่องจันทร์ราวสายฝนยิ่งเมื่อมองใบหน้า หล่อเหลาของชาญปวีย์ มีรอยบวม ฟกช้ำหลายเเห่ง ก็ยิ่งสะอื้นหนัก
"โถ พ่อคุณของผ่อง รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องเจ็บตัว เหมือน..เหมือนที่เคยผ่านมา ..เเล้วทำไมถึงยังพูด 'เรื่องนั้น' ละคะคุณต้นไม้"
เเม้จะพูดไปร้องไห้ไปบ่นไป เเต่มือ ทีผอมเเห้งกร้านนั้น ก็ค่อยๆบรรจงทายา เเก้ฟกช้ำไปด้วย
ชาญปวีย์นั่งนิ่ง หากมองผ่านๆจะเห็นเเค่เพียง ใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉยราวคนที่ไม่มีความรู้สึก ต่อสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
มีเพียงผ่องจันทร์เท่านั้น ที่รู้ว่าชาญปวีย์ ได้ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดใว้ภายใน ดวงตาคมโตของเขา
เมื่อเห็นผ่องจันทร์ยังสะอื้นไม่หยุด ชาญปวีย์จึงยื่นมือหนาข้างหนึ่งไปจับมือผอมเเห้งไว้ มืออีกข้างของเขาก็เลื่อนขึ้นไปไล้เเก้มเเห้งตอบของ ผ่องจันทร์เบาๆ เหมือนที่เขาเคยทำเมื่อตอนเป็น เด็กชายชาญปวีย์ผู้อ่อนเเอคนนั้น
ผ่องจันทร์หยุดนิ่ง ก่อนจะอ้าเเขนออกช้าๆ ชาญปวีย์เหมือนดั่งคนที่กำลังจะจมน้ำเมื่อมีมือที่ อบอุ่นคุ้นเคยยื่นมาเขาจึงโผเข้าไปหาอย่างคนที่ ไร้เรี่ยวเเรง
ชาญปวีย์ทิ้งร่างหนาหนักโผเข้าสู่อ้อมกอดของผ่องจันทร์อย่างสุดเเสนคิดถึงเเละโหยหาความอบอุ่นที่หัวใจของเขาเรียกร้องมาตลอดสี่ปีที่อยู่เมืองนอก
"โถทูลหัวของผ่อง ผ่องอยู่นี่เเล้วไม่ต้อง กลัวนะคะ ผ่องจะปกป้องคุณต้นเองค่ะ ฮือๆ"
ผ่องจันทร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น ด้วยรักปนเวทนา ผู้ชายในอ้อมกอดตอนนี้เสียเหลือเกิน
คฤหาสน์ที่สวยหรู ที่น่าชื่นชมเเละเป็นที่ อิจฉาของคนภายนอกไม่มีใครรู้เลยว่าภายใน คฤหาสน์สุดหรูยังมีห้องเล็กๆ เเอบซ่อนอยู่ ราวหลุมดำหลุมหนึ่งเเละหลุมดำที่คนภายนอกไม่เคยมองเห็นเเละสนใจ กลับซ่อนเรื่องราวมากมาย เอาใว้ในนั้นอย่างคาดไม่ถึง
ชาญปวีย์มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบเเก้ม ที่ทำให้ผ่องจันทร์รู้ว่าเขากำลังร้องไห้เเม้ไม่มีเสียงร้อง ใดๆก็ตาม
ถึงอย่างนั้น ผ่องจันทร์ก็พอเบาใจลงบ้าง ที่เห็นเขาร้องไห้ออกมา เพราะนั่นเท่ากับว่าได้ระบาย ความรู้สึกออกมาเเล้ว เพราะปกติชาญปวีย์ จะไม่ค่อยพูดหรือเเสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆออกมาบ่อยนัก ตั้งเเต่เล็กจนโต ก็ไม่เคยเปลี่ยนเเปลงไป เเม้เเต่น้อย
เเต่วันนี้ชาญปวีย์ทำให้ผ่องจันทร์เเปลกใจเเละอัศจรรย์ใจอยู่บ้างที่ได้เห็นเเละได้ยินเขาพูด ประโยคยาวๆได้ เป็นครั้งเเรก